มรดก และสถานที่่ท่องเที่ยว เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยสุดในโลก แถมยังมีเรื่องราวทาง ประวัติศาสตร์ ที่น่าสนใจ ที่มาพร้อมกับความงดงามแถมถูกการันตีความงามจาก UNESCO เรียกได้ว่าสวยครบจบที่นี่ที่เดียวเลยก็ว่าได้ สำหรับนักท่องเที่ยวและขาเดินทางนั้นห้ามพลาดเด็ดขาด!! เพราะเรามีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มาแนะนำให้คุณลองไปดู สถานที่ท่องเที่ยวสวยๆและมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจเราได้รวบรวมมาไว้ให้คุณที่แล้ว ถ้าคุณพร้อมแล้วเราไปเริ่มกันเลย
มรดก ที่สวยสุดในโลกเป็นสถานที่เคยมีประวัติศาสตร์แต่ละที่นั้นจะมีเรื่องราวอย่างไรเดี่ยวเราไปดูพร้อมกันเลย
สำหรับนักท่องเที่ยว และขาเดินทางนั้นห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะเรามีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มาแนะนำให้คุณลองไปดู หากใครที่กำลังมองหาสถานที่สวยๆที่ติดอันดับของ UNESCO ละก็ขอบอกเลยว่าคุณจะไม่เสียใจ เพราะเราคัดสันสถานที่สวยๆมาไว้ที่นี่เดียว ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันเลย
- นครวัดประเทศกัมพูชา (Angkor Wat)
นครวัด เป็นพุทธสถานของสมเด็จพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 เป็นสถานที่สำคัญที่สุดเพียงแห่งเดียวทางศาสนาในศตวรรษที่ 12 และกลายเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของประเทศกัมพูชาโดยปริยาย และนครวัดของประเทศกัมพูชานั้น ก็ยังติด 1 ใน 10 สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนณธรรมอาเซียน ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมอีกด้วย และนครวัดก็อยู่ห่างจากตัวเมืองเสียมราฐไม่มากนัก เดินทางต่ออีกเพียงประมาณ 20 นาที และผู้ที่ไปเยือนประเทศกัมพูชานั้นมันจะไปรอดูสถาปัตยกรรมขอมโบราณขอมของกัมพูชาด้วยในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนยาวไปถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ เพราะเป็นช่วงเวลาที่บรรนยาดีอากาศไม่น้อยเกิดไป หรือหนาวเกินไป อุณหภูมิกำลังดี อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 25-30 องศา และถ้าหากนักท่องเที่ยวมาช่วงเดือนอื่นอากาศก็จะร้อนมากจนแทบไม่อยากไปไหนเลย สำหรับคนที่จะมาเที่ยว นครวัดของกัมพูชาเราแนะนำว่าให้มาในช่วงหน้าหนาวจะดีที่สุด
- อะโครโพลิสประเทศกรีซ (Acropolis)
ขึ้นทะเบียน UNESCO เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1987 อะโครโพลิส อดีตเป็นป้อมปราการของประเทศกรีก ที่อยู่บนเทือกเขาที่สูงที่สุดของกรีก และแหล่งท่องเที่ยวที่ประเทศกรีซมีชื่อเสียงมากที่สุดก็คือ อะโครโพลิสแห่งเอเธนส์ มีลักษณะเป็นวิหารที่สวยงาม วิหารนี้มีอยู่ 3 แห่ง คือ วิหาร Parthenon,Erechtheum, Theatre of Atticus และ Theatre of Dionysus สิ่งสวยงามของประเทศกรีกเหล่านี้ นับได้ว่าเป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดและมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ เป็นทั้งแหล่งอารยะธรรมโบราณที่โลกต้องจดจำ แถมสิ่งก่อสร้างต่างๆของประเทศกรีกนั้นก็แสดงให้เห็นถึงความสามารถของคนยุคเก่าที่สามารถสร้างสิ่งเหล่านั้นได้สวยงามจนหาที่ติไม่ได้ และยังแสดงถึงความรุ่งเรืองของคนเมืองนั้นอีกด้วย สำหรับความนิยมที่สุดของนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศกรีกนั้นคือ นักท่องเที่ยวมักจะไปเดินเขาที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงขอองประเทศกรีก ส่วนผู้ที่ชื่นชอบเรื่องของโบราณสถานหรือโบราณคคดีก็จะไปที่ชัน สำหรับใครชื่นชอบประวัติศาสตร์,โบราณคดี,รูปปั้นสวยๆแล้วละก็ไม่ควรพลาดที่สถานที่ท่องเที่ยวของประเทศกกรีกเด็ดขาด
- พุกามประเทศเมียนมา( Bagan)
ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 2019 พุกาม นั้นเป็นแหล่งอารยธรรมแรก และเป็นอาณาจักรแรกของเมียนมา ที่ปัจจุบันตั้งอยู่ที่เขตมัณฑะเลย์ เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุด และยังขึ้นชื่อว่าความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธศาสนานั้นเป็นที่หนึ่ง เพราะมีเมืองแห่งทะเลเจดีย์ หรือเรียกอีกชื่อว่า ดินแดนเจดีย์สี่พันองค์ เพราะในอดีตนั้นมีเจดีย์มากถึง 4446 องค์ และในปัจจุบันนั้นเหลือเพียงแค่ 2217 องค์ และชื่อของเจดีย์แห่งแรกก็คือ เจดีย์ชเวสิกอง (Shwezigon Pagoda) ที่รู้จักเพราะสร้างจาก พระเจ้าอโนรธามังช่อ ซึ่งท่านนั้นเป็นปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรพุกาม
- หมู่เกาะกาลาปาโกสประเทศเอกวาดอร์(Galapagos Islands)
ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1978 หมู่เกาะกาลาปาโกส (Galapagos Islands) เกาะแห่งนี้เกิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟลาวา ภูเขาไฟลาวานั้นระเบิดผ่านมาแล้วประมาณ 8-9 ล้านๆปีมาก่อน เป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ประเทศเอกวาดอร์ เป็นหมู่เกกาะที่สวยงามเพราะตั้งอยู่ที่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก และหมูเกาะแห่งนี้ก็มีสัตว์อาศัยอยู่มากกว่า 9000 สายพันธ์
- อุทยานแห่งชาติเกอเรเม คัปปาโดเกีย(Goreme National Park of Cappadocia)
ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1985 เกอเรเม (Goreme) เป็นเศษหินที่หลงเหลืออยู่จากการระเบิดของภูเขาไฟฮาซาน ของประเทศตุรกี หลังจากเกิดการระเบิดแล้วทำให้หินนั้นมีลักษณะที่มีรูพรุนรอบๆ รูนั้นขนาดดใหญ่พอที่มนุษย์จะเข้าไปได้เลย
- เกรต แบร์ริเออร์ รีฟ(Great Barrier Reef)
ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 198 เกรต แบร์ริเออร์ รีฟ (Great Barrier Reef) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ประเทศออสเตรเลีย มีลักษณะเป็นแนวปะการังที่สวยงามและยาวที่สุดในโลก ใต้ท้องทะเลนั้นมีความอุดมสมบูรณ์และสวยมากๆ เพราะยังมีสัตว์น้ำที่หายากและยังหลงเหลืออยู่
- ฮัมปิประเทศอินเดีย (Hampi)
ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1986 ฮัมปิ (Hampi)เป็นเมืองแห่งวัฒนณนธรรม และยังเป็นมรดกของโลกอีกด้วย เพราะเป็นสถานที่ที่มีความสวยงาม ติด 1 ใน 3 ของโลก ฮัมปิ (Hampi)นั้นเป็นราชอาณาจักรวิจายะนะกา และเป็นเมืองหลวงเมืองสุดท้ายของชาวฮินดูอีกด้วย
- น้ำตกอีกวาซู(Iguazu National Park)
ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1984 อุทยานแห่งชาติอีกวาซู (Iguazu National Park) เป็นน้ำตกกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในแถบอเมริกาใต้ ประเทศที่น้ำตกอีกวาซูนตั้งอยู่คือ ที่บราซิล และ อาร์เจนตินา
- อุทยานแห่งชาติลอส กลาเซียเรส (Los Glaciares National Park)
ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1937 อุทยานแห่งชาติลอส กลาเซียเรส (Los Glaciares National Park) อยู่ที่อาร์เจนตินา เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คนนิยมไปมากซึ่งที่ตั้งของมันนั้นอยู่ที่เมือง ซานตาครูซ (Santa Cruz) เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 2 ของอาร์เจนติน่า
- มาชูปิกชู( Machu Picchu)
ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1983 มาชูปิกชู (Machu Picchu) ตั้งอยู่ที่ประเทศเปรู อยู่บนเทือกเขาที่สูงที่สุดประมาณ 2350 เมตร ลักษณะรอบๆนั้นเป็นผาชันที่มีความน่ากลัวเมือดูแล้วจะต้องหวาดเสียว มาชูปิกชู (Machu Picchu) นั้นเป็นมรดกของโลกที่สวยและหาชมได้ยากที่สุด เพราะมันแสดงอารยะธรรมของคนชนเผาที่หายสาบสูญไปแล้วอย่างพวก อินคา
- มง แซ็ง มีแชล(Mont Saint Michel)
ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1979 มงแซ็ง มีแชล (Mont Saint Michel) ตั้งอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส กลางชายฝั่งทะเลตะวันตก ซึ่งสถานที่ตั้งของโบราณสถานแห่งนี้นั้นถือว่าแปลกประหลาดมาก โดยตัวของวิหารนั้นถูกสร้างด้วยหินแกรนิต มีความสูงประมาณ 155 เมตร ถือว่าเป็นวิหารที่ถูกสร้างจากธรรมชาติที่สวยที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้
- นครเปตราประเทศจอร์แดน(Petra)
ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1985 นครเปตรา (Petra) คือเมืองโบราณสถานที่ตั้งอยู่มนที่ที่ลึกลับมากอย่างหุบเขามูซา เป็นหุบเขาที่ถูกกั้นอยู่ทะเลสาบ ที่ตั้งอยู่มนประเทศจอร์แดน โดยตัวเมืองนั้นจะแกะสลักหินทั่วทั้งเมือง เป็นแหล่งอารยะธรรมที่ถูกนักโบราณคดีค้นพบขึ้นมาเมื่อไม่กี่ปีมาก่อน เพราะเคยถูกทิ้งร้างมาแล้วมากกว่า 700 ปี และภายหลังได้เกิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยที่สุด
- มหาพีระมิดแห่งกีซา (The Great Pyramid of Giza)
ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1979 มหาพีระมิดแห่งกีซา (The Great Pyramid of Giza)นั้นตั้งอยู่ที่ประเทศอียิปต์ เป็นพีระมิดใน ใหญ่โตที่สุดในโลก เล่าต่อกันมาว่าเป็นพีระมิดที่สร้างมาจากท่านฟาโรห์คูฟู(Khufu) แห่งราชวงศ์องที่ 4 และท่านได้ขึ้นมาปกครองเมืองโบราณแห่งนี้ผ่านมาแล้วประมาณ 2600 ก่อนคริสตกาล มหาพีระมิดแห่งกีซา (The Great Pyramid of Giza) นั้นถูกยกให้เป็นที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนั้นอยากจะมาที่สุดถึงขั้นติดด 1 ใน 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเลยก็ว่าได้
- เกาะราปานูอี หรือ เกาะอีสเตอร์ประเทศชิลี (Rapa Nui / Easter Island)
ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1995 เกาะราปานูอี ( Rapa Nui / Easter Island) เป็นเกาะที่ตั้งอยู่บนมหาสมุทรแปซิฟิก ห่างจากประเทศชิลีเพียงแค่ 3,600 กิโลเมตร เกาะแห่งนี้นั้นเป็นเกาะที่สวยงามและมีรูปปั้นที่สวยงามอย่างรูปปั้น รูปปั้นโมอาย (Moai) โดยมีลักษณะเป็นหินสลักรูปคล้ายๆศีรษะคนมาถึงไหล่สุดดที่ลำตัว
- อุทยานแห่งชาติเซเรนเกติ (Serengeti National Park)
ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1981 อุทยานแห่งชาติเซเราเกติ (Serengeti National Park) นั้นตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศแทนซาเนีย มีลักษณะเป็นทุ่งกว้างๆ ทีสัตว์มากมายหลากหลายชนิดอาศัยอยู่
- สิกิริยาประเทศศรีลังกา (Sigiriya)
ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1982 สิกิริยา (Sigiriya) เป็นโบราณสถถานที่ตั้งอยู่ประเทศศรีลังกา เป็นโบราณสถานที่ได้รับยกย่องว่าเป็นการออกแบบผังเมืองที่ดีที่สุด ถ้าหากเราจะไปเที่ยวชมโบราณคดีของสิกิริยา (Sigiriya) นั้นควรจะเผื่อเวลา เพราะว่าการเดินชมสถาโบราณแห่งนี้นั้นต้องใช้เวลาในเดินเดิมชมไปเรื่อย ๆอยู่มาก ยอดเขาของสิกิริยา นั้นมีความสูงอยู่ที่ประมาณ 2.200 ขั้นบันได และในยอดเขาแห่งนี้นั้นเคยเป็นพระราชวังเก่าของประเทศอีกด้วย นอกจาก สิกิริยา แล้วยังมีป้อมปราการ LION ROCK ที่ถูกสร้างขึ้นเพราะอยู่บนเทือกเขาสูงและสามารถมองเห็นวิว อาณาเขตรอบๆของประเทศได้
- ทูลัมประเทศเม็กซิโก (Tulum)
ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1987 ทูลัม (Tulum) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่บนหน้าผาหินที่หันหน้าเข้าหาทะเลแคริบเบียนที่มีสีฟ้าคราม ทูลัม (Tulum)นั้นมีความงดงามแบบธรรมชาติอยู่เป็นอย่างมาก และในพื้นที่ของ ทูลัม (Tulum) นั้นก็ยังมีพวก โบราณสถาน ที่ชาวมายันเป็นผู้สร้างในสมัยก่อนเอาไว้ให้ชมอีกด้วย
- วัลเลตตาประเทศมอลตา Valletta
ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1980 วัลเลตตา (Valletta) เป็นชื่อของเมืองหลวงประเทศมอลตา โดยลักษณะของเมืองนั้นเป็นสถาปัตยกรรมของยุคศตวรรษที่ 16 สร้างในช่วงที่อัศวินเซนต์จอห์น แห่งเยรูซาเลม เป็นผู้ปกครองเมือง เมืองนี้เป็นเมืองแห่งการสถาปัตยกรรมการฟื้นฟูแบบคลาสสิก ผู้คนที่มาเยื่อนสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้จะยังได้รันกลิ่นอาย
- เวนิสประเทศอิตาลี (Venice)
ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1987 เวนิส นั้นเป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยวที่สุดในประเทศอิตาลี เพราะเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ที่กลางทะเลสาบอาเดรียติก จนได้ชื่อว่าเป็น The Queen of the Adriatic (ราชินีแห่งทะเลอาเดรียติก) เป็นที่เมืองเดียวของโลกที่ตั้งอยู่กลางทะเลแบบนี้ (The City of Water) เป็นเมืองที่ใช้ลำคน้ำเป็นทางสัญจร และมีเรือ กอนโดลา ที่เป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของเวนิส มาให้นักท่องเที่ยวนั้นนั่งชมวิวของเมือง
- อุทยานแห่งชาติเยลโลว์ สโตน (Yellowstone National Park)
ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1978 เยลโลว์สโตน (Yellowstone National Park)เป็นอุทยาแห่งชาติของโลกที่ตั้งอยู่ประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงที่สุดขิงเขาร็อกกี้ และยังมีบ่อน้ำพุร้อนอยู่ที่บนเทือกเขาแห่งนี้ มากกว่า 10,000 บ่อ ดินแดนแห่งนี้เกดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟ ที่มีอายุมากกว่า 600,000 ปี และยังมีสัตว์ป่าหายากและสวยงามอยู่บนเทือกเขาแห่งนี่ด้วย
สนับสนุนโดย
UFABET | UFA365 | UFABET เข้าสู่ระบบ | UFABET เว็บตรง | สล็อต เว็บตรง | SLOTXO | สล็อต | PG SLOT | สล็อต XO | สล็อต | JOKER123 | สล็อต เว็บตรง | สล็อตโจ๊กเกอร์