Friday, 29 March 2024

มรดก ที่สวยสุดในโลกและได้รับการกระรันตีจากUNESCO

มรดก และสถานที่่ท่องเที่ยว เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยสุดในโลก แถมยังมีเรื่องราวทาง ประวัติศาสตร์ ที่น่าสนใจ ที่มาพร้อมกับความงดงามแถมถูกการันตีความงามจาก UNESCO เรียกได้ว่าสวยครบจบที่นี่ที่เดียวเลยก็ว่าได้ สำหรับนักท่องเที่ยวและขาเดินทางนั้นห้ามพลาดเด็ดขาด!! เพราะเรามีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มาแนะนำให้คุณลองไปดู สถานที่ท่องเที่ยวสวยๆและมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจเราได้รวบรวมมาไว้ให้คุณที่แล้ว ถ้าคุณพร้อมแล้วเราไปเริ่มกันเลย

สล็อต xo Slotxo

มรดก ที่สวยสุดในโลกเป็นสถานที่เคยมีประวัติศาสตร์แต่ละที่นั้นจะมีเรื่องราวอย่างไรเดี่ยวเราไปดูพร้อมกันเลย

สำหรับนักท่องเที่ยว และขาเดินทางนั้นห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะเรามีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มาแนะนำให้คุณลองไปดู หากใครที่กำลังมองหาสถานที่สวยๆที่ติดอันดับของ UNESCO ละก็ขอบอกเลยว่าคุณจะไม่เสียใจ เพราะเราคัดสันสถานที่สวยๆมาไว้ที่นี่เดียว ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันเลย

  1. นครวัดประเทศกัมพูชา (Angkor Wat)

นครวัด

นครวัด เป็นพุทธสถานของสมเด็จพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 เป็นสถานที่สำคัญที่สุดเพียงแห่งเดียวทางศาสนาในศตวรรษที่ 12 และกลายเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของประเทศกัมพูชาโดยปริยาย และนครวัดของประเทศกัมพูชานั้น ก็ยังติด 1 ใน 10 สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนณธรรมอาเซียน ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมอีกด้วย และนครวัดก็อยู่ห่างจากตัวเมืองเสียมราฐไม่มากนัก เดินทางต่ออีกเพียงประมาณ 20 นาที และผู้ที่ไปเยือนประเทศกัมพูชานั้นมันจะไปรอดูสถาปัตยกรรมขอมโบราณขอมของกัมพูชาด้วยในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนยาวไปถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์  เพราะเป็นช่วงเวลาที่บรรนยาดีอากาศไม่น้อยเกิดไป หรือหนาวเกินไป อุณหภูมิกำลังดี อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 25-30 องศา และถ้าหากนักท่องเที่ยวมาช่วงเดือนอื่นอากาศก็จะร้อนมากจนแทบไม่อยากไปไหนเลย สำหรับคนที่จะมาเที่ยว นครวัดของกัมพูชาเราแนะนำว่าให้มาในช่วงหน้าหนาวจะดีที่สุด

  1. อะโครโพลิสประเทศกรีซ (Acropolis)

2. อะโครโพลิส ประเทศกรีซ

ขึ้นทะเบียน UNESCO เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1987 อะโครโพลิส อดีตเป็นป้อมปราการของประเทศกรีก ที่อยู่บนเทือกเขาที่สูงที่สุดของกรีก และแหล่งท่องเที่ยวที่ประเทศกรีซมีชื่อเสียงมากที่สุดก็คือ อะโครโพลิสแห่งเอเธนส์ มีลักษณะเป็นวิหารที่สวยงาม วิหารนี้มีอยู่ 3 แห่ง คือ วิหาร Parthenon,Erechtheum, Theatre of Atticus และ Theatre of Dionysus สิ่งสวยงามของประเทศกรีกเหล่านี้ นับได้ว่าเป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดและมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ เป็นทั้งแหล่งอารยะธรรมโบราณที่โลกต้องจดจำ แถมสิ่งก่อสร้างต่างๆของประเทศกรีกนั้นก็แสดงให้เห็นถึงความสามารถของคนยุคเก่าที่สามารถสร้างสิ่งเหล่านั้นได้สวยงามจนหาที่ติไม่ได้ และยังแสดงถึงความรุ่งเรืองของคนเมืองนั้นอีกด้วย สำหรับความนิยมที่สุดของนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศกรีกนั้นคือ นักท่องเที่ยวมักจะไปเดินเขาที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงขอองประเทศกรีก ส่วนผู้ที่ชื่นชอบเรื่องของโบราณสถานหรือโบราณคคดีก็จะไปที่ชัน สำหรับใครชื่นชอบประวัติศาสตร์,โบราณคดี,รูปปั้นสวยๆแล้วละก็ไม่ควรพลาดที่สถานที่ท่องเที่ยวของประเทศกกรีกเด็ดขาด

  1. พุกามประเทศเมียนมา( Bagan)

3. พุกาม ประเทศเมียนมา

ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 2019 พุกาม นั้นเป็นแหล่งอารยธรรมแรก และเป็นอาณาจักรแรกของเมียนมา ที่ปัจจุบันตั้งอยู่ที่เขตมัณฑะเลย์ เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุด และยังขึ้นชื่อว่าความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธศาสนานั้นเป็นที่หนึ่ง เพราะมีเมืองแห่งทะเลเจดีย์ หรือเรียกอีกชื่อว่า ดินแดนเจดีย์สี่พันองค์  เพราะในอดีตนั้นมีเจดีย์มากถึง 4446 องค์ และในปัจจุบันนั้นเหลือเพียงแค่ 2217 องค์ และชื่อของเจดีย์แห่งแรกก็คือ เจดีย์ชเวสิกอง (Shwezigon Pagoda) ที่รู้จักเพราะสร้างจาก พระเจ้าอโนรธามังช่อ ซึ่งท่านนั้นเป็นปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรพุกาม

  1. หมู่เกาะกาลาปาโกสประเทศเอกวาดอร์(Galapagos Islands)

4. หมู่เกาะกาลาปาโกส ประเทศเอกวาดอร์

ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1978 หมู่เกาะกาลาปาโกส (Galapagos Islands) เกาะแห่งนี้เกิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟลาวา ภูเขาไฟลาวานั้นระเบิดผ่านมาแล้วประมาณ 8-9 ล้านๆปีมาก่อน เป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ประเทศเอกวาดอร์ เป็นหมู่เกกาะที่สวยงามเพราะตั้งอยู่ที่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก และหมูเกาะแห่งนี้ก็มีสัตว์อาศัยอยู่มากกว่า 9000 สายพันธ์

  1. อุทยานแห่งชาติเกอเรเม คัปปาโดเกีย(Goreme National Park of Cappadocia)

5. อุทยานแห่งชาติเกอเรเม คัปปาโดเกีย ประเทศตุรกี

ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1985 เกอเรเม (Goreme) เป็นเศษหินที่หลงเหลืออยู่จากการระเบิดของภูเขาไฟฮาซาน ของประเทศตุรกี หลังจากเกิดการระเบิดแล้วทำให้หินนั้นมีลักษณะที่มีรูพรุนรอบๆ รูนั้นขนาดดใหญ่พอที่มนุษย์จะเข้าไปได้เลย

  1. เกรต แบร์ริเออร์ รีฟ(Great Barrier Reef)

6. เกรต แบร์ริเออร์ รีฟ ประเทศออสเตรเลีย

ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 198  เกรต แบร์ริเออร์ รีฟ (Great Barrier Reef) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ประเทศออสเตรเลีย มีลักษณะเป็นแนวปะการังที่สวยงามและยาวที่สุดในโลก ใต้ท้องทะเลนั้นมีความอุดมสมบูรณ์และสวยมากๆ เพราะยังมีสัตว์น้ำที่หายากและยังหลงเหลืออยู่

  1. ฮัมปิประเทศอินเดีย (Hampi)

7. ฮัมปิ ประเทศอินเดีย

ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1986 ฮัมปิ (Hampi)เป็นเมืองแห่งวัฒนณนธรรม และยังเป็นมรดกของโลกอีกด้วย เพราะเป็นสถานที่ที่มีความสวยงาม ติด 1 ใน 3 ของโลก ฮัมปิ (Hampi)นั้นเป็นราชอาณาจักรวิจายะนะกา และเป็นเมืองหลวงเมืองสุดท้ายของชาวฮินดูอีกด้วย

  1. น้ำตกอีกวาซู(Iguazu National Park)

8. น้ำตกอีกวาซู

ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1984 อุทยานแห่งชาติอีกวาซู (Iguazu National Park) เป็นน้ำตกกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในแถบอเมริกาใต้ ประเทศที่น้ำตกอีกวาซูนตั้งอยู่คือ ที่บราซิล และ อาร์เจนตินา

  1. อุทยานแห่งชาติลอส กลาเซียเรส (Los Glaciares National Park)

9. อุทยานแห่งชาติลอส กลาเซียเรส

ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1937 อุทยานแห่งชาติลอส กลาเซียเรส (Los Glaciares National Park)  อยู่ที่อาร์เจนตินา เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คนนิยมไปมากซึ่งที่ตั้งของมันนั้นอยู่ที่เมือง ซานตาครูซ (Santa Cruz) เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 2 ของอาร์เจนติน่า

  1. มาชูปิกชู( Machu Picchu)

10. มาชูปิกชู ประเทศเปรู

ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1983 มาชูปิกชู (Machu Picchu) ตั้งอยู่ที่ประเทศเปรู อยู่บนเทือกเขาที่สูงที่สุดประมาณ 2350 เมตร ลักษณะรอบๆนั้นเป็นผาชันที่มีความน่ากลัวเมือดูแล้วจะต้องหวาดเสียว มาชูปิกชู (Machu Picchu) นั้นเป็นมรดกของโลกที่สวยและหาชมได้ยากที่สุด เพราะมันแสดงอารยะธรรมของคนชนเผาที่หายสาบสูญไปแล้วอย่างพวก อินคา

  1. มง แซ็ง มีแชล(Mont Saint Michel)

11. มง แซ็ง มีแชล ประเทศฝรั่งเศส

ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1979  มงแซ็ง มีแชล (Mont Saint Michel) ตั้งอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส กลางชายฝั่งทะเลตะวันตก ซึ่งสถานที่ตั้งของโบราณสถานแห่งนี้นั้นถือว่าแปลกประหลาดมาก โดยตัวของวิหารนั้นถูกสร้างด้วยหินแกรนิต มีความสูงประมาณ 155 เมตร ถือว่าเป็นวิหารที่ถูกสร้างจากธรรมชาติที่สวยที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้

  1. นครเปตราประเทศจอร์แดน(Petra)

13. มหาพีระมิดแห่งกีซา ประเทศอียิปต์

ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1985  นครเปตรา (Petra) คือเมืองโบราณสถานที่ตั้งอยู่มนที่ที่ลึกลับมากอย่างหุบเขามูซา เป็นหุบเขาที่ถูกกั้นอยู่ทะเลสาบ ที่ตั้งอยู่มนประเทศจอร์แดน โดยตัวเมืองนั้นจะแกะสลักหินทั่วทั้งเมือง เป็นแหล่งอารยะธรรมที่ถูกนักโบราณคดีค้นพบขึ้นมาเมื่อไม่กี่ปีมาก่อน เพราะเคยถูกทิ้งร้างมาแล้วมากกว่า 700 ปี และภายหลังได้เกิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยที่สุด

  1. มหาพีระมิดแห่งกีซา (The Great Pyramid of Giza)

13. มหาพีระมิดแห่งกีซา ประเทศอียิปต์

ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1979 มหาพีระมิดแห่งกีซา (The Great Pyramid of Giza)นั้นตั้งอยู่ที่ประเทศอียิปต์ เป็นพีระมิดใน ใหญ่โตที่สุดในโลก เล่าต่อกันมาว่าเป็นพีระมิดที่สร้างมาจากท่านฟาโรห์คูฟู(Khufu)  แห่งราชวงศ์องที่ 4 และท่านได้ขึ้นมาปกครองเมืองโบราณแห่งนี้ผ่านมาแล้วประมาณ 2600 ก่อนคริสตกาล มหาพีระมิดแห่งกีซา (The Great Pyramid of Giza) นั้นถูกยกให้เป็นที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนั้นอยากจะมาที่สุดถึงขั้นติดด 1 ใน 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเลยก็ว่าได้

  1. เกาะราปานูอี หรือ เกาะอีสเตอร์ประเทศชิลี (Rapa Nui / Easter Island)

14. เกาะราปานูอี หรือ เกาะอีสเตอร์ ประเทศชิลี

ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1995 เกาะราปานูอี  ( Rapa Nui / Easter Island) เป็นเกาะที่ตั้งอยู่บนมหาสมุทรแปซิฟิก ห่างจากประเทศชิลีเพียงแค่ 3,600 กิโลเมตร เกาะแห่งนี้นั้นเป็นเกาะที่สวยงามและมีรูปปั้นที่สวยงามอย่างรูปปั้น รูปปั้นโมอาย (Moai) โดยมีลักษณะเป็นหินสลักรูปคล้ายๆศีรษะคนมาถึงไหล่สุดดที่ลำตัว

  1. อุทยานแห่งชาติเซเรนเกติ (Serengeti National Park)

15. อุทยานแห่งชาติเซเรนเกติ

ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1981  อุทยานแห่งชาติเซเราเกติ (Serengeti National Park) นั้นตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศแทนซาเนีย มีลักษณะเป็นทุ่งกว้างๆ ทีสัตว์มากมายหลากหลายชนิดอาศัยอยู่

  1. สิกิริยาประเทศศรีลังกา (Sigiriya)

16. สิกิริยา ประเทศศรีลังกา

ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1982     สิกิริยา (Sigiriya) เป็นโบราณสถถานที่ตั้งอยู่ประเทศศรีลังกา เป็นโบราณสถานที่ได้รับยกย่องว่าเป็นการออกแบบผังเมืองที่ดีที่สุด ถ้าหากเราจะไปเที่ยวชมโบราณคดีของสิกิริยา (Sigiriya) นั้นควรจะเผื่อเวลา เพราะว่าการเดินชมสถาโบราณแห่งนี้นั้นต้องใช้เวลาในเดินเดิมชมไปเรื่อย ๆอยู่มาก ยอดเขาของสิกิริยา นั้นมีความสูงอยู่ที่ประมาณ 2.200 ขั้นบันได และในยอดเขาแห่งนี้นั้นเคยเป็นพระราชวังเก่าของประเทศอีกด้วย นอกจาก สิกิริยา แล้วยังมีป้อมปราการ LION ROCK ที่ถูกสร้างขึ้นเพราะอยู่บนเทือกเขาสูงและสามารถมองเห็นวิว อาณาเขตรอบๆของประเทศได้

  1. ทูลัมประเทศเม็กซิโก (Tulum)

17. ทูลัม ประเทศเม็กซิโก

ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1987 ทูลัม (Tulum) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่บนหน้าผาหินที่หันหน้าเข้าหาทะเลแคริบเบียนที่มีสีฟ้าคราม ทูลัม (Tulum)นั้นมีความงดงามแบบธรรมชาติอยู่เป็นอย่างมาก และในพื้นที่ของ ทูลัม (Tulum) นั้นก็ยังมีพวก โบราณสถาน ที่ชาวมายันเป็นผู้สร้างในสมัยก่อนเอาไว้ให้ชมอีกด้วย

  1. วัลเลตตาประเทศมอลตา Valletta

18. วัลเลตตา ประเทศมอลตา

ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1980 วัลเลตตา (Valletta) เป็นชื่อของเมืองหลวงประเทศมอลตา โดยลักษณะของเมืองนั้นเป็นสถาปัตยกรรมของยุคศตวรรษที่ 16 สร้างในช่วงที่อัศวินเซนต์จอห์น แห่งเยรูซาเลม เป็นผู้ปกครองเมือง เมืองนี้เป็นเมืองแห่งการสถาปัตยกรรมการฟื้นฟูแบบคลาสสิก ผู้คนที่มาเยื่อนสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้จะยังได้รันกลิ่นอาย

  1. เวนิสประเทศอิตาลี (Venice)

19. เวนิส ประเทศอิตาลี

ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1987  เวนิส นั้นเป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยวที่สุดในประเทศอิตาลี เพราะเอกลักษณ์เฉพาะตัว  ตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ที่กลางทะเลสาบอาเดรียติก จนได้ชื่อว่าเป็น The Queen of the Adriatic (ราชินีแห่งทะเลอาเดรียติก) เป็นที่เมืองเดียวของโลกที่ตั้งอยู่กลางทะเลแบบนี้ (The City of Water) เป็นเมืองที่ใช้ลำคน้ำเป็นทางสัญจร และมีเรือ กอนโดลา ที่เป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของเวนิส มาให้นักท่องเที่ยวนั้นนั่งชมวิวของเมือง

  1. อุทยานแห่งชาติเยลโลว์ สโตน (Yellowstone National Park)

20. อุทยานแห่งชาติเยลโลว์ สโตน

ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO ให้เป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 1978 เยลโลว์สโตน (Yellowstone National Park)เป็นอุทยาแห่งชาติของโลกที่ตั้งอยู่ประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงที่สุดขิงเขาร็อกกี้  และยังมีบ่อน้ำพุร้อนอยู่ที่บนเทือกเขาแห่งนี้ มากกว่า 10,000 บ่อ ดินแดนแห่งนี้เกดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟ ที่มีอายุมากกว่า 600,000 ปี และยังมีสัตว์ป่าหายากและสวยงามอยู่บนเทือกเขาแห่งนี่ด้วย