Sunday, 5 May 2024

ไหนใครคอแข็ง!!มาลอง “มักกอลลี” เหล้าชาวนาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานรสชาติดี๊ดี 막걸리 ที่กำลังกลับมาทวงบัลลังก์เป็นหนึ่งอีกครั้ง

มักกอลลีเหล้าชาวนา 막걸리 รสชาติดี๊ดีมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ที่กำลังกลับมาทวงบัลลังก์เป็นหนึ่งอีกครั้งในยุคนี้ บอกเลยคน “คอแข็ง” ต้องลองห้ามพลาดเด็ดขาดเพราะว่า  “โซจู” ที่ว่าแน่ยังต้องแพ้ให้กับ “มักกอลลี” นี้ที่กำลังกลับมายึดคืนความเป็นหนึ่งในเดียวที่เคยมีมาตั้งแต่ในอดีต

สล็อต xo Slotxo

มักกอลลีเหล้าชาวนา โซจูที่ว่าแน่ยังแพ้ให้ 막걸리 เหล้าโบราณบอกเลยคนที่“คอแข็ง”ต้องลองสักครั้ง!

มักกอลลีเหล้าชาวนา-สุดน่าลอง

Soft Power หรือจุดแข็งทางวัฒนธรรมของเกาหลีใต้ที่ค่อนข้างมีบทบาทมากๆกับหลายๆประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศฝั่งเอเชียนั้นไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันมีพลังมากขนาดไหน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหรือภาพยนตร์ของเกาหลีใต้นั้นต่างก็เป็นที่นิยมของคนทั่วโลก โดยเฉพาะกับเด็กวัยรุ่นและวันทำงานนที่แลดูเหมือนว่าตะคลั่งไคล้เอามากๆ แต่อีกหนึ่งอย่างที่มีอิทธิพลต่อคนมากถ้าไม่พูดถึงก็คงจะไม่ได้นั้นก็คือ “อาหารและเครื่องดื่ม”  ที่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่ามีเครื่องดื่มบางชนิดของเกาหลีใต้ที่เขามามีบทบาทในประเทศไทยและเครื่องดื่มที่ว่านั้นก็คือ “โซจู” ซึ่งมันขายดีจนทางการของเกาหลีใต้อาจจะพิจารณาให้เป็นเหล้าประจำชาติเลยก็ว่าได้ในตอนนั้น 555 ขายดีเกินที่ประเทศไทยเนี๊ยยะ!!

มักกอลลีเหล้าชาวนาแหห่งประวัติศาสตร์เกาหลีใต้

ถึงแม้ว่าโซจูจะขายดีแต่ถ้าว่าเมื่อไม่นานมานี้กลับมีเหล้าอีกหนึ่งชชนิดที่น่าติดตามและน่าสนใจมากกว่า เพราะว่ากันว่ามันคือเหล้าที่มีมานานแถมมีรสชาติดีดี๊ เพราะคือเหล้าพื้นเมืองที่ชาวนาเป็นผู้ผลิตมาตั้งแต่สมัยโบราณที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และเหล้าที่ว่านั้นก็คือ “막걸리 มักกอลลี” ต้องขอบอกเลยว่านะว่าเหล้ารสชาติดีชนิดนี้นั้นก็เกือบถูกลบเลือนออกจากความทรงจำไปแล้วหหนึ่งครั้ง แต่ถ้าว่ามันก็สามารถกลับมาทวงบัลลังก์ใกล้จะเป็นหนึ่งได้ในเร็ววัน ดังนั้นใครที่บอกว่าเป็นสายแข็ง “คอแข็ง” ทั้งหลายนั้นไม่ควรพลาดต้องลองนำมาชิม และนี่ถือว่าเป็นหนึ่งกรณีตัวอย่างที่น่าติดตามเรื่องวัฒนธรรมการส่งสินค้าออกต่างประเทศที่ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

มักกอลลีเหล้าชาวนา-กลับมาอีกครั้ง

เชื่อว่าต้องมีหลายคนสงสัยแล้วว่าทำไมเหล้าโบราณของเกาหลีใต้ถึงสามารถกลับมามีบทบาทอย่างรุ่งเรืองอีกครั้งในวงการตลาดการค้าสุราของโลก ทั้งๆที่มันนั้นเกือบจะถูกลบเลือนออกความทรงจำของผู้คนไปแล้วครั้งหนึ่ง แถมว่าในตอนนี้มันยังเป็นอีกหนึ่งสินค้าส่งออกที่สำคัญมากๆ หรือนี่มันมาจาก… การจับคู่ “มักกอลลี” กับอาหารเพื่อกระตุ้นบรรยากาศดื่มด่ำให้เริงร่า

  • 막걸리 (มักกอลลี) มีที่มาจากคำว่า 막 (ฮัก) ที่มีความหมายว่า “เพิ่งจะหรือและ”
  • 거르다 (กอรือดา) หมายความว่า “กลั่น, กรอง”

ดังนั้นมักกอลลีจึงมีความหมายว่า สุรานี่ทำมาจากการหมักและนำมาการกลั่นจนเสร็จสิ้นแล้วถึงนำมาดื่ม และยังมีอีกชื่อที่นิยมเรียกกันเมื่อในอดีต ที่มีอีกหนึ่งความหมายว่า “เหล้าของชาวนา” และที่บอกว่าเป็นเหล้าของชาวนานั้นมีที่ไปที่มาเริ่มต้นมาจากในอดีตเกษตรกร ชาวนาที่ต้องเดินทางออกจากบ้านไปทำไร่ทำนาช่วงที่อากาศเย็นและหนาว มักจะนิยมชมชอบชวนกันมานั่งดื่มเหล้าก่อนเพื่อเพิ่มอุณหภูมิในร่างกายให้สูงขึ้นก่อนที่จะทำงานนั้นเอง และชื่อว่านั้นก็คือ

  • 탁주 (ทักจู)
  • 농주 (นงจู)

มักกอลลีคือเหล้าโบราณที่ทำการผลิตขึ้นจากชาวบ้านด้วยกรรมวิธีที่แตกต่างกันไป ส่วนใหญ่นั้นนิยมนำข้าวหุงสุกมาหมักกับส่าเหล้าทิ้งเอาไว้หนึ่งอาทิตย์ เมื่อหมักครบเวลาจะออกมามีสีขาวขุ่น ส่วนรสชาตินั้นก็จะอร้อยแตกต่างกันออกไป เพราะแต่ละบ้านที่ผลิตนั้นอาจจะมีสูตรและรยะเวลาที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งเหล้าชนิดนี้ชาวบ้านสามารถทำขึ้นมาขายหรือทำมากินเองได้เองแบบไม่ต้องขอนุญาติ ส่วนวิธีการนำมาดื่มคนวมัยโบราณนิยมทำเมนู  전 (จอน)  ที่เป็นเมนูอาหารเกาหลีดั้งเดิมมีส่วนผสมของผักและแป้งทอดสุดน่ากินภายในหนึ่งจาน เมื่อเดินทางเข้าสู่ฤดูหนาวหรือช่วงฤดูฝนชาวบ้านกก็เริ่มนิยมนำเหล้าหมักโบราณนี้ออกมาดื่มและกินคู่กับอาหารอย่างสนุกสนานกับครอบครัวและเพื่อนบ้าน ซึ่งเสียงพูดคุยเจาะแจะของผู้คนมากมายนั้นส่งผลให้เหล้าหมักโบราณและอาหารมีรสมีชาติเพิ่มมากขึ้น และนี่คือหนึ่งในวัฒนธรรมที่คนเกาหลีใต้ขาดสุราไม่ได้เมื่อรับประทานอาหาร

เหล้าที่เคยเกือบสูญพันธุ์แต่กลับมาได้อีกครั้ง

เหล้าที่เคยเกือบสูญพันธุ์แต่กลับมาได้อีกครั้ง!??!เพราะ…

มักกอลลีเกือบถูกลบเลือนออกจากความทรงจำของผู้คนไปแล้วหนึ่งครั้งในอดีตในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ในตอนนั้นกองทัพญี่ปุ่นบุกยึดครองพื้นที่บางแห่งของเกาหลี และในตอนนั้นเองญี่ปุ่นก็ได้ออกกฎอย่างมากมายไม่ให้คนเกาหลีทำการค้าขายหรือผลิตสินค้าใดๆออกมา ทั้งเสื้อผ้า,อาหาร,และเหล้าหมักโบราณ แถมยังเรียกเก็บภาษีผู้ประกอบการเป็นจำนวนเงินที่มหาศาล แม้จะผลิตได้แต่ก็อาจจะไม่คุ้มเงินภาษีที่เสียไปดังนั้น “มักกอลลี” ก็เลยเริ่มค่อยๆจางหายไปจากความทรงจำ เพราะวัตถุดิบต่างๆที่เป็นส่วนประกอบในการหมักทำเหล้าชนิดนี้ขึ้นมาอย่างเช่นข้าวหุงนั้นมีราคาที่แพง และเรื่องที่แย่ลงไปมากกว่าของราคาแพงในช่วงนั้นก็คือการทำสงครามของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ที่ส่งผลเสียร้ายแรงให้ประเทศขาดแคลนทุกสิ่งทุกอย่าง โดยเฉพาะอาหารและข้าวที่เป็นวัตถุดิบสำคัญในการทำเหล้าชนิดนี้เป็นเป็นอาหารมื้อหลักก็ขาดแคลนมากๆ และในที่สุดเหล้าหมักโบราณตัวนี้ก็เลือนลางไปจากผู้คนเรื่อย ๆมา ภายหลังจากที่เหจุการณ์ร้ายต่างๆเริ่มสงบสุขเกาหลีใต้ก็เริ่มกลับมาฟื้นฟูทุกสิ่งทุกอย่างให้กับมาอยู่ในสภาวะปกติ จนกลายเป็นประเทศแห่งการพัฒนา และตลาดสุราก็กลับมายืนได้อีกครั้งเพราะทุนเดิมของพวกเขานั้นคือ “นักดื่ม” ตัวร้ายอยู่แล้ว

ยุค 2000 การดื่มนำมักกอลลีมาดื่มเพื่อเฉลิมฉลองไม่เป็นที่นิยม

ก่อนถึงยุค 2000 การดื่มนำมักกอลลีมาดื่มเพื่อเฉลิมฉลองหรือนำมาดื่มในงานเลี้ยงสังสรรค์นั้นยังไม่เป็นที่นิยมมากสักเท่าไหร่ เพราะเหล้าชนิดนี้นั้นติดอยู่ในความทรงจำของผู้คนว่ามันคือเหล้าราคาถูก สามารถหมักดื่มเองได้ไม่มีราคา แถมยังเป็นเหล้าที่เกษตรกรและชาวนานิยมผลิตขึ้นมาดื่มกัน หากนำมาดื่มในงานเลี้ยงต่างๆมันดูไม่มีราคาเหมือนพวกเครื่องดื่ม เบียร์และโวจู ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆก็แปลว่ามันไม่ใช่เครื่องดื่มสำหรับมาใช้เข้าสังคม ส่วนวิถีการดื่มขของคนสมัยใหม่นั้นต้องการความทันสมัยและความดูดีหรูราในการใช้ดื่มเพื่อเข้าสังคม ดังนั้นการนำเหล้าโบราณมักกอลลีมาดื่มจึงนำมาดื่มเพียงแค่กับกลุ่มเพื่อนผู้ชายที่เป็นเพศเดียวกันมากกว่าการนำไปเข้าสังคมที่มากหน้าหลายตา

มักกอลลีเหล้าชาวนา-กลับมาผงาดในฐานะ Soft Power

กลับมาผงาดในฐานะ Soft Power !??

สงคราม กฎหมาย และการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยที่เกิดขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุดนั้นคือสิ่งที่ทำให้มักกอลลีหวนคืนกลับมา หลังจากที่ถูกหลายๆคนลืมเลือนไปอย่างยาวนานและในช่วงที่วัฒนธรรมเกาหลี โดดเด่นออกไปทั่วโลกผ่านดนตรี และภาพยนตร์และอื่นๆอีกมากมายไปเป็นวงกว้าง และมันก็ส่งผลให้วัฒนธรรม การกินการดื่มของเกาหลีกลับมาทวงบัลลังก์เป็นหนึ่งอีกครั้งตั้งแต่ยุคปี 2000 เป็นต้นมา และในปีต่อๆมาวงการตลาดสุราของเกาหลีใต้ก็เริ่มหวยสู่ผู้คน เพราะผู้คนมากมายต้องการบรรยากาศในการกินการดื่มกันเป็นสังคม

มักกอลลีเหล้าชาวนา-เครื่องเคียงที่นิยมกินคู่กัน

และนี่คือจุดที่ผู้ประกอบการเริ่มหวนคืนหาสูตรเหล้าหมักโบราณชนิดนี้ ด้วยการไปเสาะหาสูตรต่างๆตามเมืองเก่าแก่ เพื่อเรียนรู้สูตรการหมักมักกอลลีโบราณที่รสชาตืดีดี๊ในครั้งนั้น ทั้งผู้คนและรัฐบาลต่างก็เห็นดีเห็นชอบในการสนับสนุนนำมักกอลลีกลับมาขายอีกครั้ง จนส่งผลให้วงการตลาดสุราของเกาหลีใต้คึกคลื่นสามารถส่งออกขายไปยังประเทศต่างๆได้ ในส่วนของรูปลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ก็ถูกเปลี่ยนให้ดูทันสมัยแลดูน่าซื้อมากยิ่งขึ้น หากจะย้อนกลับไปตอบคำถามแรกที่เรากล่าวมาเมื่อตอนต้นที่ว่า “เหตุผลอะไรที่ส่งผลให้เกาหลีใต้สามารถฟื้นคืนชีพเหล้าพื้นเมืองโบราณที่เกือบจะหายไปจากความทรงจำผู้คนตลอดกาล ให้กลับมาสร้างรายได้ในตลาดสุราอีกครั้ง และกลายเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญในปัจจุบัน?” คำตอบน่าจะเป็นเพราะการสนับสนุนจากทุกฝ่ายก็เป็นไปได้