นักโทษประหารชีวิตคนสุดท้ายในไทย “มิก หลงจิ” คดีฆ่าชิงทรัพย์ที่สะเทือนใจทั้งประเทศ

ปี 2561 เป็นปีที่สังคมไทยสะเทือนใจอีกครั้ง เมื่อมีการ ประหารชีวิตนักโทษเด็ดขาดเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี — ผู้ต้องหาในคดีฆ่าชิงทรัพย์ที่โหดร้ายสะเทือนขวัญอย่าง “มิก หลงจิ” หรือชื่อจริง นายจิรศักดิ์ หลงจิ ชายวัยเพียง 26 ปีในวันถูกประหาร เรื่องราวนี้ไม่เพียงสะท้อนความรุนแรงของอาชญากรรม แต่ยังจุดประเด็นถกเถียงทั่วประเทศว่า “โทษประหารชีวิตยังจำเป็นอยู่หรือไม่ในยุคปัจจุบัน”

เหตุฆ่าชิงทรัพย์สุดโหด ที่เริ่มต้นทุกอย่าง

ย้อนกลับไป ประวัติศาตร์ เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2555 — เหตุการณ์สลดเกิดขึ้นที่สวนสาธารณะสมเด็จพระศรีนครินทร์ 95 จังหวัดตรัง เจ้าหน้าที่พบศพ นายดนุเดช สุขมาก นักเรียนชั้น ม.5 ถูกแทงกว่า 24 แผลทั่วร่างกาย
ทรัพย์สินของผู้ตาย — เงินสด 2,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ — หายไป เพียงสองวันหลังเกิดเหตุ ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้คือ นายจิรศักดิ์ หลงจิ (มิก) อายุ 19 ปี พร้อมของกลางมีดปลายแหลมยาว 3 นิ้ว แม้จะให้การปฏิเสธ แต่พยานหลักฐานทั้งหมดมัดแน่น จนนำไปสู่คำพิพากษา ประหารชีวิต ในที่สุด

ประวัติอาชญากรรมยาวนานตั้งแต่วัยรุ่น

จากการตรวจสอบประวัติ “มิก หลงจิ” พบว่า มีคดีติดตัวถึง 6 คดี ตั้งแต่ปี 2551 ทั้งคดีจี้ชิงทรัพย์, คดีฆ่าผู้อื่น, และคดียาเสพติด ศาลชั้นต้นพิพากษา ประหารชีวิต ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา พิพากษายืนตามเดิม

กระทั่งวันที่ 18 มิถุนายน 2561 กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการบังคับโทษ ด้วยวิธี ฉีดสารพิษเข้าสู่ร่างกายให้เสียชีวิต — นับเป็นการประหารชีวิตครั้งแรกในรอบเกือบ 9 ปีเต็ม และทำให้ชื่อของ “มิก” กลายเป็น นักโทษประหารคนสุดท้ายในประเทศไทย (จนถึงปัจจุบัน)

คำให้การของอดีตผู้คุมบางขวาง – เมื่อเสียงปืนเคยดังในแดนประหาร

“ลุงผวน ทรัพย์ระเบียบ” อดีตผู้คุมเรือนจำกลางบางขวาง ผู้ผ่านเหตุการณ์ประหารชีวิตมาตั้งแต่ยุค “ยิงเป้า” จนถึง “ฉีดสารพิษ” ได้เล่าถึงเบื้องหลังวันแห่งความตายไว้อย่างละเอียด

“สมัยก่อนเขายิง เราได้ยินเสียงเลย… เสียงปืนแบล็คมันด์ดังสนั่น คนเล็งกับคนยิงไม่ใช่คนเดียวกัน คนยิงมีหน้าที่ยิงอย่างเดียว เขาจะเล็งไว้ตรงหัวใจ”

อดีตผู้คุมเล่าว่า ในอดีต นักโทษจะรู้ตัวล่วงหน้าก่อนถูกประหาร เจ้าหน้าที่จะพาตัวออกจากห้องขัง ให้พิมพ์ลายนิ้วมือ กินอาหารมื้อสุดท้าย (กินอะไรก็ได้ที่ขอ) ก่อนเขียนจดหมายลาครอบครัว หรือบริจาคร่างกาย–ดวงตา

“บางคนร้องไห้ บางคนยอมรับ บางคนใจนิ่งแปลก เพราะเขารู้ว่าไม่เหลืออะไรแล้ว”

จากนั้นเจ้าหน้าที่จะพาไป ฟังพระเทศน์เรื่องกรรมดีกรรมชั่ว ก่อนนำไปมัดติดเสาไม้กางเขน ปิดตา และให้พนมมือไว้กับอก แล้วเริ่มกระบวนการยิงตามคำสั่งศาล

จากเสียงปืน…สู่เข็มฉีดยา – การเปลี่ยนผ่านของวิธีประหารชีวิตไทย

ประเทศไทยเคยใช้ การยิงเป้า เป็นวิธีประหารชีวิตมานานหลายสิบปี จนปี 2546 มีการเปลี่ยนมาใช้ การฉีดสารพิษ (Lethal Injection) เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนมากขึ้น

“ฉีดยามันง่าย แต่มันไม่หวาดเสียวเหมือนยิงปืน” – ลุงผวน กล่าว

สำหรับ “มิก” เขาคือคนแรกที่ถูกประหารด้วยวิธีฉีดสารพิษในรอบ 9 ปี และจนถึงปัจจุบัน (ปี 2568) ยังไม่มีการประหารชีวิตรายใหม่อีกเลย

เบื้องหลัง “ประตูผี” และพิธีสุดท้ายของนักโทษ

อดีตผู้คุมบางขวางเล่าต่อว่า ศพของนักโทษประหารจะ ไม่ให้นำออกประตูหน้าเรือนจำ แต่ต้อง ออกทาง “ประตูผี” ด้านหลังเท่านั้น

“ญาติจะรอรับศพอยู่ข้างนอก ถ้าไม่มีญาติมารับก็จะฝังไว้ใกล้ ๆ เรือนจำ”

ประตูผีแห่งบางขวางจึงกลายเป็น “ประตูสุดท้ายของชีวิตนักโทษ” ที่ไม่มีวันเดินกลับออกมาในฐานะผู้มีชีวิตอีก

ควรยกเลิกหรือคงไว้? เสียงสะท้อนจากคนในเรือนจำ

ประเด็นเรื่อง “ควรมีโทษประหารชีวิตต่อหรือไม่” ยังคงถูกถกเถียงในสังคมไทย แต่ ลุงผวน ในฐานะผู้คุมที่เห็นทุกความจริงในแดนประหาร มีความเห็นชัดเจนว่า…

“ผมคิดว่าควรจะมีโทษประหารเอาไว้ เพราะมันทำให้คนคิดก่อนจะทำผิด”
“ถ้าไม่มี คนจะไม่กลัว… อย่างที่โบราณว่าไว้ เชือดไก่ให้ลิงดู”

คำพูดสั้น ๆ แต่สะท้อนความคิดของคนที่อยู่ในวงในเรือนจำมาทั้งชีวิต — เขาเชื่อว่าโทษประหารไม่ใช่เพื่อ “ฆ่า” แต่เพื่อ “ยับยั้ง”

จากมิก หลงจิ ถึงคำถามปลายเปิดของสังคมไทย

แม้ “มิก หลงจิ” จะถูกจดจำในฐานะ นักโทษประหารรายสุดท้ายของประเทศไทย แต่คดีของเขายังทิ้งคำถามไว้ให้ทั้งระบบยุติธรรมและสังคม

• โทษประหารช่วยลดอาชญากรรมได้จริงหรือไม่?

• การลงโทษด้วยชีวิตสมควรหรือเกินกว่าเหตุ?

• และในสังคมปัจจุบัน เรายังจำเป็นต้องมี “ประตูผี” อยู่หรือไม่?

คำตอบอาจต่างกันไปในแต่ละมุมมอง แต่สิ่งที่แน่ชัดคือ — ทุกชีวิตที่สูญเสีย ไม่ว่าจะของเหยื่อหรือผู้ต้องหา ล้วนเป็นเครื่องเตือนใจว่า “ความรุนแรงไม่อาจแก้ได้ด้วยความรุนแรง”

FAQ (คำถามที่พบบ่อย)

นักโทษประหารชีวิตคนล่าสุดของไทยคือใคร?
คือ “มิก” หรือ นายจิรศักดิ์ หลงจิ คดีฆ่าชิงทรัพย์ เมื่อปี 2555 ถูกประหารชีวิตเมื่อ 18 มิถุนายน 2561

ประเทศไทยใช้วิธีประหารชีวิตแบบใด?
ใช้ “การฉีดสารพิษเข้าสู่ร่างกาย” แทนการยิงเป้า เริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2546

เหตุใดถึงไม่มีการประหารอีกหลังปี 2561?
เพราะนโยบายของรัฐมุ่งเน้นการลดการใช้โทษประหาร และพิจารณาแนวทางที่เคารพสิทธิมนุษยชนมากขึ้น

โทษประหารในไทยยังมีอยู่ไหม?
ยังคงมีอยู่ในกฎหมาย แต่การบังคับใช้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาในแต่ละกรณี