ทำความ รู้จักพระเจ้าชาร์ลส์ King Charles III กษัตริย์นักสิ่งแวดล้อมแห่งเครือจักรภพที่ประวัติศาสตร์จะต้องจารึก “กษัตริย์” คนใหม่แห่งสหราชอาณาจักร Charles III of the United Kingdom ผู้สืบราชสันตติวงศ์ในลำดับที่ 1 ตามลำดับทายาทคนโตของQueen Elizabeth II และ Prince Philip, Duke of Edinburgh
รู้จักพระเจ้าชาร์ลส์ King Charles III กษัตริย์นักสิ่งแวดล้อมแห่งเครือจักรภพ
ภายหลัง Queen Elizabeth II of the United Kingdom เสด็จสวรรคต กษัตริย์คนใหม่ที่จะขึ้นมาแทนคือ King Charles III หรืออดีตเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ผู้สืบราชสันตติวงศ์ในลำดับที่ 1 ตามลำดับทายาทคนโตของ Queen Elizabeth II และ Prince Philip, Duke of Edinburgh ถึงแม้กษัตริย์อังกฤษจะไม่ได้ถืออำนาจเอาไว้ที่ในมือให้เห็นได้อย่างโดนเด่น
แต่หากใครเคยดูซีรีส์ The Crown ทาง Netflix จะทราบว่าผู้ครอบครองมงกุฎแห่งเครือจักรภพมีพลังมาเพียงใด ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่าสนใจว่าสมเด็จพระราชาธิบดีชาลส์ที่ 3 ที่กำลังจะขึ้นมารับ “มงกุฎเครือจักรภพ” ต่อมีประวัติอย่างไร และ King Charles III จะใช้อำนาจที่ถืออยู่พาประเทศและโลกไปในทิศทางไหน
ก่อนมาเป็น “King Charles III”
King Charles III เกิดวันที่ 14 พฤศจิกายน 1948 ในปี 2022 นี้ King Charles III มีพระชนมายุ 73 พรรษา คือบุตรชายคนแรกจากลูกทั้ง 4 คนของ Queen Elizabeth II และ Prince Philip, Duke of Edinburgh พระองค์แตกต่างจากชนชั้นสูงทั่วไปเพราะพระองค์มีครูมาสอนที่บ้าน
เนื่องจากว่าพนะองค์ถูกส่งเข้าเรียนระดับประถม มัธยม และจบการศึกษาในวิชาHistory, anthropology and archeology จาก University of Cambridge เหมือนกันกับประชาชนคนทั่วไปจากการรายงานของสื่อนั้นบอกว่าสมเด็จพระราชาธิบดีชาลส์ที่ 3 เป็นเจ้าชายที่มีบุคลิกที่แตกต่างและลึกลับพอสมควร
คาดการณ์ว่าสาเหตุที่เป็นเช่นนั้นน่าจะมาจาก “ภาระหน้าที่” ที่พระองค์ทรงแบกอยู่ควบคู่ไปกับความสงสัยในความสามารถของตัวพระองค์ นอกจากนี้ในวัยเด็ก King Charles III ยังต้องไม่ได้อยู่กับพระมารดา Queen Elizabeth II ตั้งแต่ที่พระองค์มีพระชนมายุ 1 พรรษาในช่วงที่ Queen Elizabeth II ขึ้นครองราชย์ระยะเริ่มต้น อีกทั้งพระองค์ยังถูกเพื่อนกลั่นแกล้งในตอนที่เรียนมัธยมด้วย
King Charles III แต่งงานครั้งแรกกับ Diana, Princess of Wales เมื่อปี 1981 และให้กำเนิด Prince William of Gloucester และเจ้าชายแฮรี่ Prince Harry, Duke of Sussex ผู้มีสิทธิสืบราชสันตติวงศ์ในลำดับที่ 2 และ 6 ก่อนที่ทั้งสองคนจะหย่าขาดกันในปี 1992 เพราะไม่สามารถใช้ชีวิตคู่ด้วยกันต่อไปได้
และพระองค์ได้สมรสใหม่กับ Her Royal Highness the Duchess of Cornwall หรือ Camilla, Queen of the United Kingdom ที่เคยเป็นอดีตคนรักเก่าในปี 2018 สมเด็จ Elizabeth Alexandra Mary เคยกล่าวถึง King Charles III ไว้ว่า
“เป็นความต้องการของข้าพเจ้าที่จะให้เครือจักภพยังคงอยู่ต่อไปอย่างมั่นคง เพื่อคนรุ่นต่อไป และเมื่อถึงวันนึงเจ้าฟ้าชาย Charles จะเป็นผู้ขึ้นมารับผิดชอบหน้าที่อันยิ่งใหญ่ ที่พ่อของข้าพเจ้าเริ่มมาตั้งแต่ปี 1949 ต่อไป” ตลอด 73 ปีแห่งตำแหน่งเจ้าฟ้าชาย Charles พระองค์ได้รับความสนใจจากสาธารณชนเป็นอย่างมากในหลายๆเรื่องอย่างเช่น
- การออกมาปกป้องการล่าสุนัขจิ้งจอก
- ความเชื่อประหลาดเรื่องสุขภาพ
- การแสดงความเห็นถึงสถาปัตยกรรมสมัยใหม่
- พระองค์เป็นรักต้นไม้มาก
- พระองค์พึมพำพูดคุยกับต้นไม้ขณะรดน้ำ
นอกจากนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีชาลส์ที่ 3 ยังมักถูกสาธารณชนตั้งคำถามถึงความเป็นกลางทางการเมืองของพระองค์ ที่ทางสื่อข่าว The Guardian เคยเผยแพร่ข่าวที่เจาะลึกในชื่อ “บันทึกแมงมุม” ที่รวบรวมจดหมายที่พระเจ้า Charles 3 เขียน lobby ถึงคณะรัฐมนตรีในหลายๆเรื่องตั้งแต่ การทำประมงผิดกฎหมาย จนถึงการสนับสนุนให้ส่งทหารเข้าไปเพิ่มในสงครามอิรัก
ตำนาน “กษัตริย์” นักอนุรักษ์
พระเจ้า Charles 3 จริงจังและเป็นผู้นำคนแรกๆ ที่เดินออกมากล่าวถึงประเด็นปัญหาภาวะโลกร้อน ซึ่งนิตยสาร Town and Country อธิบบายว่า พระองค์เริ่มพูดเรื่องนี้เป็นครั้งแรกช่างเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1970 พระองค์พูดถึงความร้ายแรงของมลพิษทุกรูปแบบ โดยเฉพาะปัญหาขยะพลาสติกที่ย่อยสลายได้ยาก
และในปี 2020 พระองค์ก็ได้พูดถึงวิธีปรับตัว 10 ข้อเพื่อลดปัญหาภาวะโลกร้อน ที่ถูกจัดขึ้นภายในงานระดับโลกอย่าง World Economic Forum และในปี 2021 พระองค์ก็ได้ท่องสุนทรพจน์ในงาน COP26 ที่ Scotland เพื่อเรียกร้องให้ผู้นำทุกประเทศทำสงครามอย่างจริงจังกับสภาวะโลกร้อน ความเป็นจริงแล้วไม่ใช่แค่พระองค์เขาเท่านั้นที่ปฏิบัติเช่นนี้
เพราะทั้ง british royal family กำลังจริงจังกับประเด็นนี้อย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น Prince William ที่ได้กล่าวถึงปัญหาสภาวะโลกร้อน ผ่านช่อง TED รวมถึงรางวัล Earth Shot ที่ Prince William ได้มอบทุนให้แก่นวัตรกรรมที่ต่อสู้กับปัญหาที่เกิดขึ้นที่กล่าวมา
และถ้าเราไปดูในเว็บไซต์ของ Buckingham Palace จะเห็นได้ว่าพระองค์ได้เปิดประเด็นเอาไว้หนึ่งข้อ สำหรับอธิบายว่า Buckingham Palace ทำอย่างไรบ้าง เพื่อลดปัญหาโลกร้อน โดยอธิบายว่าพวกเขาเริ่มต่อสู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ตั้งแต่ปี 2006 และเริ่มหันมาใช้พลังงานน้ำเพื่อผลิตไฟฟ้านานแล้ว และยังลงทุนเพิ่มเติมเรื่อยๆ เพื่อเปลี่ยนการใช้พลังงานของทั้ง Buckingham Palace
Anthropologist ในอังกฤษหลายจำนวนไม่น้อยบอกว่า พวกเขานั้นมีความคิดเห็นที่เหมือนกันว่า Monarchy of the United Kingdom ดำรงอยู่ได้เพราะการปรับตัว และประเด็นที่กษัตริย์องค์ใหม่เปิดและดำเนินการมาตั้งแต่ยังอายุน้อย ก็นับว่ายังร่วมสมัยและเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างมากมายสำหรับกลุ่มของคนรุ่นใหม่ และคนทั่วโลก
“พระองค์ทรงต้องการพิทักษ์โลกใบนี้” คือคำนิยามจาก Her Royal Highness the Duchess of Cornwall พระชายาของพระเจ้า King Charles III ถึงสิ่งที่ King Charles III ทำมาตลอด 50 ปี
สนับสนุนโดย
UFABET | UFA365 | UFABET เข้าสู่ระบบ | UFABET เว็บตรง | สล็อต เว็บตรง | SLOTXO | สล็อต | PG SLOT | สล็อต XO | สล็อต | JOKER123 | สล็อต เว็บตรง | สล็อตโจ๊กเกอร์