Friday, 26 April 2024

ขอเชิญพบกับ!! หลินชิ่วฮุย ผู้คิดค้นชานมไข่มุกคนแรกของโลกเขาคนนี้ทำให้เรามีชานมไข่มุกกินในทุกวัน!!

ขอเชิญพบกับ!! หลินชิ่วฮุย ผู้คิดค้นชานมไข่มุกเครื่องดื่มยอดนิยมคนแรกของโลก และเขาคนนี้คือคนที่ทำให้พวกเรามีชานมไข่มุกกินในทุกวัน!! ชานมไข่มุกเครื่องดื่มยอดนิยมที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึกเพราะขายดีมาก โดยเฉพาะที่ประเทศไทยที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นมีร้านตั้งขายให้เราแวะชิมรสชาติความอร่อย

สล็อต xo Slotxo

หลินชิ่วฮุย ผู้คิดค้นชานมไข่มุกคนแรกของโลกเขาคนนี้ทำให้เรามีชานมไข่มุกกินในทุกวัน!!

ผู้คิดค้นชานมไข่มุก

ชานมไข่มุกนั้นว่ากันว่ามีต้นกำเนิดเกิดขึ้นที่ประเทศไต้หวันประเทศแรกด้วยชื่อเสียงเรียกนามว่า “Boba Tea” 波霸奶茶 ส่วนคนแรกที่เป็นผู้คิดค้นสูตรชานมไข่มุกสุดอร่อยแสนฟินกินแล้วต้องติดใจเป็นคนแรกนั้นก็คือ “หลินชิ่วฮุย” แห่งร้านชา “ชุนสุ่ยถัง” ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่หลายคนนั้นถกเถียงมาว่าเจ้าแรกที่ขายชาไข่มุกคือใคร แต่ถ้าว่าผลจากการโหวตของประชาชนในประเทศนั้นได้ออกมาแล้วว่าเป็นเธอคนนี้

ผู้คิดค้นชานมไข่มุกคนแรกของโลก

คุณหลินชิ่วฮุยนั้นเธอได้บอกว่าชานมไข่มุกนี้ได้ถือกำเหนิดขึ้นในปี 1988 ที่ร้านเธอและร้านที่ว่านั้นก็คือร้านชุนสุ่ยถัง ซึ่งในช่วงเวลานั้นทางร้านได้มีการประชุมใหญ่คิดค้นหาไอเดียชาเย็นแบบใหม่ๆ ที่จะนำมาขายให้ทุกคนได้ชิม และในวันนั้นเจ๊หลินชิ่วฮุยก็กำลังทำขนมรูปแบบแปลกใหม่อยู่ในครัวพอดี เจ๊แกก็เลยได้ทำการทดลองเทขนมที่กำลังทำอยู่ตอนนั้นสุดท้ายเทมันลงใส่ในชาเย็นทั้งหมดเลย และในที่สุดมันก็ได้เกิดเป็นชานมไข่มุกในหน้าตาที่พวกเรานั้นคุ้นเคยกันนั่นเอง

หลินชิ่วฮุย-ชานมไข่มุก

หลังจากที่ทุกคนในที่ประชุมชิมรสชาติของเมนูใหม่อย่างชาไข่มุกนั้นต่างก็ชื่นชอบรสชาติของมันมากๆ และหลังจากนั้นก็ได้ทำการวางขายจัดจำหน่ายและมันก็ขายได้ดีแบบแซงชาชนิดอื่นๆ ทั้งหมดในเวลาแค่สองเดือน ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านไปเป็นสิบกว่าปีแล้ว เจ้าเมนูชานมไข่มุกก็ยังทำรายได้ให้ผู้ขายได้มากถึง 80-90% ของยอดขายทั้งหมด

คุณหลินชิ่วฮุย

ถึงแม้ว่าในตอนนี้ชานมไข่มุกจะโด่งดังไปทั่วโลกคุณหลินชิ่วฮุยก็ยังไม่หยุดคิดค้น และพัฒนาชารูปแบบใหม่ๆออกมาให้ทุกคนได้ลองชิมอยู่เสมอๆ และเธอยังเชื่ออีกว่าสักวันหนึ่งเธออาจจะคิดค้นชานมไข่มุกรูปแบบแปลกใหม่ขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นได้ เพราะสำหรับเธอแล้วเครื่องดื่มนี่เป็นเครื่องดื่มประจำชาติที่คนไต้หวันภาคภูมิใจมากที่สุดนั่นเอง