ย้อนประวัติศาสตร์กลับไปดู 5 วิธีประหารชีวิตสุดโหด สุดอำมหิตในสมัยโบราณที่นิยมทำ

ย้อนประวัติศาสตร์กลับไปดู 5 วิธีประหารชีวิตสุดโหด ในประวัติศาสตร์ที่เรานำมาให้ดูในวันนี้นั้นหากยังมีในยุคปัจจุบันบอกเลยว่าไม่มีใครกล้ากระทำความผิดอย่างแน่นอน และที่บอกว่าจะไม่มีคนกล้าทำผิดนั้นเป็นเพราะว่าวิธีประหารของคนสมัยโบราณนั้นโหดเหี้ยมชนิดที่ว่าประวัติศาสตร์จะต้องจาลึกเอาไว้เลยละ

5 วิธีประหารชีวิตสุดโหด สุดอำมหิตในสมัยโบราณที่ประวัติศาสตร์ต้องจาลึก

โทษประหารนั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนที่คนทั่วโลกนั้นกำลังจับตามองและพูดถึงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะประเทศไทยเราที่กำลังถกเถียงกันว่าควรมีโทษประหารชีวิตสำหรับผู้ที่กระทำความผิดร้ายแรง ส่วนวิธีการประหารนั้นก็ยังไม่มีการรุบุที่แน่ชัด สำหรับวันนี้เราจะพาทุกคนย้อนกลับไปในอดีตที่ยังมีโทษประหารชีวิตผู้ที่กระทำความผิดอยู่ ซึ่งโทษประหารที่เรานำมาให้ดูในวันนี้นั้นโหดมาก โหดชนนิดที่ว่าหากยังมีการประหารชีวิตแบบเดิมอยู่นั้น เชื่อว่าไม่มีใครบนโลกใบนี้กล้าทำความผิดอย่างแน่นอน และเพื่อเป็นการไม่สียเวลาเดี่ยวเราไปดู 5 วิธีประหารชีวิติโหดพร้อมกันที่วิธีแรกเลยดีกว่า

The Roman Candle ดอกไม้เพลิง

เปิดที่วิธีประหารโหดสุดเลือดเย็นของจักรพรรดิเนโรก่อนเลย บอกเลยว่าวิธีประหารสุดโหดสุดเลือดเย็นครั้งนี้นั้นเรียกได้ว่าโหดมากโหดจนผู้คนนั้นไม่กล้าจะกระทำความผิดเลยในยุคนั้น ซึ่งวิธีการประหารชีวิตแบบ The Roman Candle หรือแบบดอกไม้เพลิงนั้นถือว่าเป็นวิธีประหารชีวิตแบบเผาทั้งเป็น ในส่วนวิธีการประหารสุดเลือดเย็นที่ว่านั้นก็คือจักรพรรดิเนโรนั้นจะสั่งให้นำนักโทษประหารมาที่ลานดอกไม้ส่วนตัวของท่าน และจะให้ทำการเผาในขณะที่ท่านนั้นก็นั่งดู หรือบางครั้งอาจจะสั่งประหารที่ข้างงานเลี้ยงต่างๆ เพราะแสงจากการเผานั้นนจะส่องสว่างให้ข้างๆได้

The Blood Eagle อินทรีเลือด

วิธีประหารนักโทษสุดโหดแบบ The Blood Eagle อินทรีเลือด นั้นถือว่าเป็นวิธีที่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าได้ใช้จริงหรือไม่จริง แต่วิธีนี้ก็ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีประหารชีวิตสุดโหดที่มีผู้คนนั้นเล่าสืบต่อกันมาอย่างยาวนาน และการประหารชีวิตสุดโหดที่ว่านั้นก็คือวิธีการ “ควักปอด” ออกมาจากร่างกายแล้วเอาเกลือโรยแผลๆสดๆให้แสบ ซึ่งมันก็มีขั้นตอนการผ่าที่หลังให้เหฌนกระดูเสียก่อนเอาปอดออกมาจากร่างกาย บอกเลยว่าวิธีประหารสุดโหดแบบนี้ถ้ายังมีอยู่และมันสามารถนำมาใช้ได้จริงนั้นเชื่อเลยว่าไม่มีใครอยากกระทำความผิดอย่างแน่นอน

Impalement เสียบ แทง

อีกหนึ่งวิธีประหารชีวิตสุดโหดในประวัติศาสตร์นั้นก็คือวิธี Impalement เสียบ แทง นี้และบอกเลยว่าใครที่ถูกลงโทษประหารด้วยวิธีนี้ต้องเจ็บปวดมากแน่นอน ซึ่งวิธีนี้เราคิดว่าเป็นวิธีประหารชีวิตที่โหดมากๆ เพราะกว่าผู้ที่ถูกประหารจะเสียชีวิตนั้นต้องเจ็บปวดและทรมานมากๆแน่ เพราะวิธีการเสียบการแทงนั้นไม่ทำให้เสียชีวิตทันที แต่มันทำให้เสียชีวิตอย่างช้าๆและทรมาน และวิธีนี้ก็ถือว่าเป็นวิธีที่กษัตริย์ฮัมมูราบีนั้นนิยมใช้สั่งตัดสินโทษให้กับหญิงที่ทำร้ายสามีจนนเสียชีวิตในช่วงปี 1772 ก่อนคริสตกาล หากยังมีในยุค 2000 เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากต้องโทษด้วยวิธีนี้อย่างแน่นอน

Boiling to Death ต้มน้ำเดือดจนตาย

จักรพรรดิเนโรและพระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษทั้งสองพระองค์นี้เคยใช้วิธี Boiling to Death หรือวิธีต้มน้ำเดือดจนตายนี้สั่งประหารชีวิตนักโทษแก๊งต้มตุ๋นจริงๆ ซึ่งเรื่องราวที่ว่ามานี้ถูกบันทึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์ บอกเลยว่าวิธีนี้นั้นทรมานเป็นอย่างมาก หากให้ทุกคนลองจินตนาการความเจ็บปวดที่ถูกน้ำร้อนลวกนั้นเชื่อว่าทุกคนนั้นนึกไม่ออกเลยละว่ามันจะเจ็บปวดขนาดไหน ส่วนวิธีประหารชีวิตนั้นคือให้นักโทษนั้นเอาเท้าลงไปในหม้อที่ต้มน้ำเดือดก่อนแล้วค่อยๆลงไปทั้งตัว ซึ่งวิธีนี้นั้นเลือดเย็นและโหดมากเชื่อว่าไม่มีใครอยากถูกประหารชีวิตแบบนี้แน่นอน

Keelhauling เรือลาก

ปิดท้ายด้วย Keelhauling หรือวิธีใช้เรือลาก บอกเลยว่าวิธีสุดท้ายที่เรานำมาในวันนี้โหดไม่แพ้ 4 วิธีที่ผ่านมาเลย เพราะวิธีนี้คือการนำเอานักโทษนั้นลากถ่วงน้ำให้กระแสน้ำพลัดไปใต้ท้องเรือ เชื่อไหมว่าวิธีนี้นั้นทรมานนักโทษได้อย่างมากมายจนเหนือจินตนาการเลยละ บอกเลยว่าหากวิธีนี้นั้นยังถูกนำมาเป็นหนึ่งในวิธีประหารชีวิตนักโทษที่ทำความผิดร้ายแรงในยุคปัจจุบันละก็ บอกเลยว่ามันโคตรน่ากลัวมากๆเลยละสำหรับมนุษย์เรา ซึ่งวิธีนี้นั้นจะทำจนกว่านักโทษจะสิ้นใจ หากไม่สิ้นใจง่ายๆก็จะออกเรือลากไปเรื่อย ๆจนเสียชีวิตนั้นเอง ซึ่งวิธีนี้นั้นถูกใช้จริงเมื่อ 800 ปีก่อนคริสตกาลและถูกสั่งห้ามทำให้ปี 1853 และวิธีนี้นิยมใช้กันที่ประเทศฝรั่งเศสและประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นยังไงกันบ้างกับ 5 วิธีประหารชีวิตสุดโหดในประวัติศาสตร์ที่เรานำมาให้ทุกคนได้ดูในวันนี้โหดและทำให้กลัวสักวิธีหรือเปล่า เชื่อไหมว่าหากยังมีวิธีประหารชีวิตแบบโบราณนั้นเราคงนึกภาพไม่ออกเลยว่ามันจะโหดมากแค่ไหน หากเราได้เห็นเองกับตา เพียงแค่ฟังเรื่องเล่ายังน่ากลัวขนาดนี้ เอาเป็นว่าหากเราไม่อยากพบเจอกับความโหดแหล่านี้เราก็อย่าทำความผิดและต้องทำตามกฎระเบียบที่มีเพียงเท่านี้เราก็ปลอดภัยแล้ว