ทำไมคนเลือกเลี้ยงสัตว์ แทนการมีลูก!??โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ หรือมันเป็นเพราะภาระที่หนักหน่วง

ทำไมคนเลือกเลี้ยงสัตว์ แทนการมีลูก!??โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ หรือมันเป็นเพราะภาระที่หนักหน่วงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งโรคระบาดและค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นการเลี้ยงสัตว์น่ารักบางประเภทอย่างเช่น แมวและหมาจึงเป็นที่นิยมของคนรุ่นใหม่มากกว่าการที่อยากมีลูกที่มีค่าใช้จ่ายมากมาย

ทำไมคนเลือกเลี้ยงสัตว์ ทดแทนการมีลูก!??อย่างเช่นกลุ่มเด็กรุ่นใหม่ที่ไม่มีความสนใจอยากมี “ลูก” เลย

การดำเนินชีวิตในแต่ละวันให้ผ่านไปได้ด้วยดีในแบบฉบับบสุขภาพกายแข็งแรงสุขภาพจิตใจที่ดีนั้น นับว่าเป็นเรื่องยากมากจริงๆสำหรับคนรุ่นใหม่ เนื่องจากสถานการณ์ต่างๆที่ถาโถมเข้ามาทั้งโรคระบาดทั้งค่าครองชีพ ซึ่งทั้งสองสิ่งที่ว่ามานั้นคือปัญหาหลักที่ส่งผลให้หลายๆคนประสบพบเจอกับความเครียด ซึ่งมันก็น่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ควรแน่นอนเลยที่เด็กน้อยตาดำๆจะกำเนิดขึ้นมา!!

Lisa Rochow และ Cameron Wheeler คู่รักจากต่างชาตินั้นๆได้บอกกับสื่อว่า

“ภรรยานั้นเธอมีความคิดที่ไม่อยากมีลูกมาตั้งแต่ตอนที่เธอเรียนไฮสคูล เนื่องจากเธอคิดว่าการมีลูกนั้นต้องเสียสละหลายๆอย่างมากกว่าจะได้เป็นพ่อเป็นแม่คน ไม่ว่าจะเรื่องเวลาและเรื่องของการเงินต่างก็เป็นเรื่องที่ต้องกังมากๆเมื่อมีลูก ส่วนทางสามีนั้นก็บอกว่าตัวเขาเองนั้นมักคิดมากอยู่เสมอเรื่องการมีลูก และเมื่อโตขึ้นผมได้สัมผัสถึงเรื่องราวหลายๆอย่าง อย่างเช่นปัญหาสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอยู่เป็นประจำ และนั้นมันก็ส่งผลให้ผมคิดว่าผมจะรับผิดชอบเด็ดคนหนนึ่งที่เกิดขึ้นมาได้อย่างไร”

ในทางกลับกันการแต่งงานด้วยความรักและมีลูกนั้นไม่ใช่แนวคิดเสมอไปสำหรับคนรุ่นใหม่ เนื่องจากปัจจัยทางสังคมและทางด้านต่างๆส่งผลให้คนรุ่นใหม่ เลือกที่จะหันมาเลี้ยงสัตว์แทนการมีลูกเหมือนในอดีตจนมีคำที่พวกเขาตั้งขึ้นมาพูดกันเล่นๆหรือแซวกันเล่นๆจนติดปากว่า “Pets are the new kids, Plants are the new pets.”

เมื่อหมาแมวเริ่มเป็นมากกว่าสัตว์เลี้ยง

เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2020 ได้มีการศึกษากลุ่มตัวอย่างเพื่อดูข้อมูลเชิงลึกของเด็กรุ่นใหม่ๆนั้นได้ผลออกมาว่า มีกลุ่มคนมากกว่า 2 ใน 5 มีความคิดเลี้ยงสัตว์แทนการมีลูก ซึ่งพฤติกรรมต่างๆที่กลุ่มคนพวกนั้นทำกับสัตว์เลี้ยงนั้นเปรียบเทียบได้ว่าเป็นเด็กน้อยคนหนึ่ง และสิ่งที่ว่ามานั้นแสดงให้เห็นผ่านพฤติกรรมทุกอย่างที่กลุ่มคนเหล่านี้ทำ เช่น การซื้ออาหารและการซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่มีคุณภาพสูง แต่ถ้าย้อนกลับไปในปี 2014 นั้นพบว่า กลุ่ม Millennials ประมาณ 76 เปอร์เซ็นตร์ยอมจ่ายเงินเพื่อสัตว์เลี้ยงอย่างเต็มที่ แต่ถ้าว่ากลุ่ม Baby Boomer นั้นมีเพียง 50 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ยอมจ่ายเพื่อสัตว์เลี้ยง

นอกจากเรื่องของตัวเลขที่สามารถบอกได้ว่าผู้คนนั้นนิยมเลี้ยงสัตว์มากกว่าการมีลูก นั้นยังมีเรื่องราวของคนบางคนเขียนบอกเล่าเอาไว้ด้วยว่าพวกเธอไม่อยากมีลูก แต่คนรอบข้างของเธอนั้นกลับกำลังดีอกดีใจที่กำลังจะมีลูกหลังจากแต่งงาน จนเธอนั้นมองว่าเธอผิดปกติหรือเปล่า เพราะหลังจากแต่งงานและไม่มีลูกเธอก็มีความสุขดี

แต่เมื่อเธอได้พูดคุยกับกลุ่มคนบางกลุ่มในช่วงที่เธอนั้นทำวิจัยมันก็ทำให้เธอมองเห็นอีกหนึ่งมุมมองของคนที่ไม่อยากมีลูกเช่นเดียวกันกับเธอ เพราะบางคนนั้นเลี้ยงดูสัตว์ดีเหมือนกันกับการเลี้ยงดูลูกเลย อย่างเช่น ชายคนหนึ่งที่เขายอมลาออกจากงาน เนื่องจากคุณหมอนั้นบอกว่าสุนัขของเขานั้นเหลือเวลาอีกไม่นานบนโลกใบนี้ ซึ่งเขาก็ยอมทุกอย่างเพื่อที่จะได้ใช้เวลาอยู่กับสัตว์เลี้ยงของเขาจนวินาทีสุดท้าย ส่วนอีกคนนั้นคือคู่สามีภรรยาที่แยกทางกันแล้วมีแมวที่เหมือนลูก ซึ่งพวกเขานั้นต้องไปทำข้อตกลงสิทธิการดูแลแมวเหมือนสิทธิการดูแลลูกตามกฎหมายเลย

การมีลูกกับราคาที่ต้องจ่าย

สาเหตุที่คนรุ่นใหม่จำนวนมากไม่ยอมมีลูกเหมือนคนยุคก่อนหน้านี้อาจมาจากหลาหลายปัจจัยอย่างเช่น “ผู้คนหลีกเลี่ยงการมีลูก ในช่วงที่เกิดสภาวะทางการเมืองและสังคมไม่ดี”

• การคุมกำเนิดมีประสิทธิภาพมากขึ้น
• ผู้หญิงมีทางเลือกมากกว่าเมื่อ 50 ปีก่อน
• ผู้หญิงไม่ต้องตั้งเป้าหมายถึงการแต่งงาน
• ผู้หญิงไม่ต้องตั้งเป้าหมายเพื่อมีลูก
• ผู้หญิงไม่ต้องตั้งเป้าหมายเพื่อสร้างความมั่นคงให้ชีวิต
• สภาพสังคมที่ไม่ได้เอื้อต่อการมีลูกมาก

แต่อะไรทำให้พวกเขาเลือกที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงแทน?

ย้อนกลับไปที่การศึกษาของหญิงสาวท่านหนึ่งที่เธอนั้นบอกว่า “ครอบครัวที่ไม่มีลูกนั้นแสดงความรักที่พวกเขามีออกมาผ่านสัตว์เลี้ยง โดยการดูแลเอาใจใสให้ความรักเหมือนเด็กทารกคนหนึ่ง” ซึ่งมันคือความรักที่มนุษย์มอบให้สัตว์เลี้ยงเหมือนดังลูกน้อย ส่วนอีกหนึ่งเหตุผลที่ผู้คนหันมานิยมเลี้ยงสัตว์มากกว่าการมีลูก นั้นอาจเป็นเพราะค่าใช้จ่ายที่สูง ซึ่งการจ่ายให้เด็กน้อยคนหนึ่งและสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่งห่างกันลิบลับ อย่างเช่น เด็กคนหนึ่งมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1,570,000 บาท เมื่อเทียบกับสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขแล้วน่าจะห่างกันเป็นหลายเท่าตัว ส่วนอีกหนึ่งสาเหตุใหญ่นั้นก็คือเวลาในการกลับมาดูแลลูกซึ่งมันเหมือนกับว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่นั้นอาจจะไม่มีเวลาว่างในการออกไปใช้ชีวิต เพราะไม่สามารถทิ้งลูกเอาไว้คนเดียวเหมือนสัตว์เลี้ยงได้