Friday, 19 April 2024

ไขปริศนาคาใจ!?ทำไม “งู” ชอบอยู่ในโถ้ส้วม ชอบอยู่ในห้องน้ำ!!มันเป็นเพราะอะไรกัน

ไขปริศนาคาใจ!? ทำไมงูชอบอยู่ในโถ้ส้วม อยู่ในห้องน้ำ ซึ่งปัญหานี้ไม่ได้เกิดแค่ที่ประเทศไทย แต่หลายประเทศก็เจอเหมือนกันกับเรา สัตว์น่ารัก มันชอบหรือเพราะอะไรมาดูคำตอบได้เลยที่ด้านล่างนี้ เพราะว่าเราได้ไปเตรียมคำตอบมาให้ทุกท่านที่สงสัยได้อ่านได้ดูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สล็อต xo Slotxo

ทำไมงูชอบอยู่ในโถ้ส้วม มันชอบหรือเพราะอะไรมาดูคำตอบได้เลยที่ด้านล่างนี้

ทำไมงูชอบอยู่ในโถ้ส้วม มันชอบหรือเพราะอะไรมาดูคำตอบได้เลยที่ด้านล่างนี้

สถานที่ต่างๆทั่วโลกต่างก็ขยายตัวใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับประชากรมนุษย์ที่มากขึ้นในทุกๆปี และที่อยู่ของสัตว์ตามธรรมชาติก็เลยถูกรุกลานไปจำนวนไม่น้อย เพื่อเอามาสร้างให้มนุษย์แบบเราได้มีบ้านมีที่พักอาศัย และ “งู” นั้นก็เป็นหนึ่งในสัตว์ที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างที่อยู่อาศัยของมวลมนุษย์อย่างเราๆ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไรมากหนัก

ถ้าหากว่าแต่บ้านแต่ละพื้นที่นั้นจะพบเจอ งู บุกมาเยี่ยมเยือนเป็นประจำ และห้องที่น้อง งู นั้นเข้ามาบุกเป็นประจำนั้นก็คือ ห้องน้ำ ชักโครก ห้องครัว ที่มีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้น้องงูนั้นมันเข้ามาอยู่ เนื่องจากว่าสถานที่ดังกล่าวนั้นมันใกล้เคียงกับที่ที่เจ้าน้อง งู นั้นชอบอยู่

ปัญหา โถส้วมที่มีงูออกมา นั้นมันเกิดขึ้นกับคนทั่วโลกไม่ใช่เกิดแค่ที่บ้านของเรา เพราะเพื่อนบ้าน south east asia รวมถึงฝั่งทางประเทศ Australia และ Oceania ยาวไปจนถึงประเทศแถบ Africa ล้วนแล้วแต่เคยเจอเรื่องน่าขนลุกขนชันแบบนี้กันทั้งนั้น โดยบางประเทศใน Africa มีคนเคยเจอ งูแบล็กแมมบา (Black Mamba) งูที่มีพิษร้ายแรงติดอันดับ Top 10 ของโลก

ไขปริศนาคาใจ!?ทำไม “งู” ชอบอยู่ในโถ้ส้วม ชอบอยู่ในห้องน้ำ!!มันเป็นเพราะอะไรกัน

ซึ่งเจ้าหนู งูแบล็กแมมบา (Black Mamba) มันก็โด่หน้าขึ้นมาจากชักโครก ซึ่งมันน่ากลัวมากพอๆ กับที่คนบ้านเรานั้นเจอเจ้า งูเหลือม งูเห่า และงูจงอาง อยู่ดีๆก็โด่หน้าขึ้นมาจ๊ะเอ๋ โดยข่าวพวกนี้พวกเรานั้นจะได้ยินบ่อยขึ้นในช่วงที่ฝนตกหนักที่พวกสัตว์นนานาชนิดนั้นมักจะหาทางหนีน้ำไปอยู่ที่อื่นกันตามสัญชาตญาณ

สาเหตุที่ งู นั้นแวะเข้ามาบ้านคนก็อย่างที่เราได้เล่าให้ฟังเอาไว้ตั้งแต่เริ่มแล้ว เพราะบางพื้นที่หรือบ้านเรือนอาคารต่างๆ นั้นล้าวแล้วแต่เคยเป็น ป่า หรือ แหล่งที่อยู่ตามธรรมชาติของงู (และสัตว์อื่นๆ) ได้รับผลกระทบจากการลุกลานเพื่อไปสร้างบ้านสร้างที่อยู่อาศัยของมวลมนุษย์ในช่วงหลายร้อยปีที่ผ่านมา ซึ่งสัตว์อย่างพวก งู ก็เลยเหมือนถูกไล่บ้ายไล่ที่แบบกลายๆ

แบบบีบบังคับให้พวกมันนั้นต้องย้ายไปอยู่อาศัยในที่บ้านหรือตามสถานที่ต่างๆของมนุษย์ที่สร้างขึ้นมา และต้องพยายามหาพื้นที่ที่เหมือนธรรมชาติมากที่สุด ที่พวกมันเคยอยู่อาศัยเพื่อเข้าไปอาศัยอยู่ใหม่อีกครั้ง ซึ่งความจริงแล้วถ้าบ้านไหนมีห้องที่แสงสว่างส่องไม่ถึง เป็นห้องมืดทึมทึบ แถมยังมีความชื้นและอุณหภูมิต่ำกว่าจุดอื่นๆ

งูชอบโพล่มาที่ชักโครก

ล้วนแล้วแต่ชวนให้เจ้าน้อง งู ไปแอบซ่อนตัวหรือทำรังอาศัยอยู่ในนั้นได้ทั้งนั้น ซึ่งถ้านับสรรพคุณทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามา ห้องน้ำ ของหลายบ้านก็เป็นห้องที่น่าอยู่สุดสำหรับ งู โดยพื้นที่ที่ชื้นและเย็นมากกว่าที่อื่นภานในบ้าย ก็คงจะหนีไม่พ้น โถส้วมในห้องน้ำเหมือนดังเดิม ไม่ว่าจะเป็นโถส้วมแบบชักโครกหรือแบบส้วมซึมที่ต้องนั่งยองๆ น้องงู มันก็ชอบทั้งนั้น

แต่ต้องบอกเลยนะว่าชักโครกห้องน้ำนั้นหากเจองูอยู่ มันจะกลายเป็นสถานที่ที่อันตรายมากที่สุดเลย เพราะว่าคนส่วนใหญ่นั้นจะไม่ระวังตัวแน่นอนเวลาที่จะเข้าห้องน้ำ ซึ่งเมื่อเข้าไปแล้วนั่งลงปล่อยทุกข์เลยไม่ได้ดูอะไรทั้งนั้น ส่วนอันดับที่สองรองลงมาจากห้องน้ำนั้นได้แก่ ห้องครัว ทีมันมีจุดดึงดูดให้ งู นั้นเข้าไปอยู่อย่างตรง อ่างล้างจาน

เพราะที่ดังกล่าวนั้นมันมีความชื้นปละมีเศษอาหารที่ล่อให้เหยื่อของมันมากมาย เช่น หนู จิ้งจก ตุ๊กแก ซึ่งสัตว์เล็กทั้งหลายที่ไปกินเศษอาหารมันก็จะชักชวนให้งูมากินมันต่ออีกทอดหนึ่ง ส่วนอีกหนึ่งสถานที่ที่ งู ชอบอยู่นั้นคือ โรงจอดรถ ที่เป็นเหมือนที่เก็บของมากมายจนมันมีที่หลบที่ซ่อนให้ งู นั้นเข้าไปอาศัยอยู่

ทำไมงูชอบอยู่ในโถ้ส้วมและในห้องครัว

และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ตามสถานที่ต่างๆ จตามจังหวัดต่างๆ ถ้ามีการสร้างบ้านเรือนหรือชุมชนใกล้ๆ พื้นที่ที่มีบ่อน้ำ มีน้ำ ส่วนมากนั้นมันเคยเป็นที่อยู่อาศัยให้กับเจ้า น้องงู มาก่อน ดังนั้นการที่จะเจอ น้องงู เข้ามาเล่นที่บ้านบ่อยๆ จนชินนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกประหลาดอะไรมากเท่าไหร่

แต่การจะหาทางย้ายบ้านเพื่อหนีเจ้าน้อง งู ในยุคสมัยนี้นั้นมันก็ไม่ได้ทำได้ง่ายดายเท่าไหร่ เพราะจำนวนของมวลมนุษย์ที่เพิ่มขึ้นก็คือหนึ่งในสาเหตุที่การสร้างเมือง และสร้างอาคารบ้านเรือนต้องขยับขยายพื้นที่ออกไป จนไปก้าวก่ายแหล่งที่อยู่ของสัตว์มีพิษจำนวนมากตั้งแต่นานมาแล้ว

สิ่งหนึ่งที่นักสัตววิทยาและผู้เชี่ยวชาญการป้องกันภัยพอจะให้คำแนะนำได้ก็คือ คนในบ้านจะต้องพยายามรักษาความสะอาดบริเวณต่างๆ ในบ้านไม่ให้มีมุมอับหรือความชื้น และต้องไม่มีเศษอาหารที่จะคอยดึงดูดหนูหรือสัตว์อื่นๆ ที่เป็นเหยื่อของงู ทั้งยังจะต้องหมั่นตรวจตราดูท่อน้ำ บ่อพัก และทางระบายน้ำอยู่บ่อยๆ

ห้องครัว ห้องน้ำ งูชอบไปอาศัยอยู่

ว่ามีรูดมีทางจุดไหนที่จะปล่อยให้งูมันแอบย่องเข้ามาในเขตบ้านหรือสถานที่ต่างๆได้หรือเปล่า เพราะอาจมีรอยแตกหรือข้อต่อท่อมมันพังมันชำรุด ที่หลวมจนเกิดรูให้งูมุดเข้ามาอาศัยได้ และใครที่กลัวจะมาขยายพันธุ์นั้น ก็อาจจะใช้วิธีเทน้ำยาละลาเศรษอาหารลงท่อประมาณ 1 ครั้งต่อหนึ่งอาทิตย์ก็ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้น่าจะช่วย ‘ลดความเสี่ยง’ ที่จะเจองูในบ้านลงได้บ้าง

สำหรับใครที่ยังไม่เคยเจอ งู ก็อาจต้องลองทดสอบวิ่งหนีภัยเมื่อเห็น งู ในจินตนาการไปก่อนว่าถ้าเจอมันจริงๆจะต้องทำยังไง ซึ่งสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำในการททำตัวนั้นก็เบสิกง่ายๆพื้นฐาน คือ ตั้งสติและโทรเรียกผู้เชี่ยวชาญ (ถ้าไม่มีประสบการณ์ก็อย่าได้พยายามจับงูด้วยตัวเองเป็นอันขาด) เพราะบางทีเราอาจจะไม่ได้เจองูที่บ้าน แต่ไปเจองูในสถานที่ต่างๆ

ไม่ว่าจะเป็น วัด โรงเรียน หรือแม้กระทั่งโรงแรมที่ตั้งอยู่แถวริมน้ำหรือใกล้ป่าใกล้เขา ซึ่งถ้าเป็นในเขตของกรุงเทพฯ มีการระบุให้โทรเบอร์ฉุกเฉิน 199 แต่ถ้าเป็นต่างจังหวัดอาจต้องติดต่อโทรตามเจ้าหน้าที่หรือคนที่เคยจับงู ซึ่งนี่ก็ดูจะเป็นเรื่องยากขึ้นอีกระดับ เพราะต่างจังหวัดอาจจะไม่มีเบอร์ฉุกเฉินให้โทรเหมือนในกรุงเทพฯ

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่