ทำไม!? หมา “พิตบูล” ถึงกลายเป็นเครื่องหมาย “หมาดุ” ไปได้

ทำไมหมาพิตบูล สัตว์น่ารักถึงเปลี่ยนสถานะจากหมา “ยอดนิยม” ในอเมริกา ไปเป็น “ภัยสังคม” และกลายเป็นเครื่องหมาย “หมาดุ” ไปได้  ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้มันเป็นหมาที่ไม่มีพิษมีภัยแถมยังน่ารักน่าเอ็นดูจนได้ขึ้นป้ายโฆษณาครอบครัวแสนสุข แต่แล้วทำไมวันนี้มันถึงเป็นหมาดุไปได้

ทำไมหมาพิตบูล ถึงเปลี่ยนสถานะจากหมา “ยอดนิยม” ในอเมริกา ไปเป็น “ภัยสังคม” ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้มันเป็นหมาที่ไม่มีพิษมีภัยแถมยังน่ารักน่าเอ็นดูอีกต่างหาก

ถ้าหากพูดถึงสุนัขที่ดุร้ายและน่ากลัวมากที่สุดเชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยเลือกชื่อเจ้าน้องสุนัขสายพันธุ์ “พิตบูล”  (American Pit Bull Terrier ) เพราะข่าวคร่าวเรื่องสุนัขสายพันธุ์นี้เรื่องการขย้ำคอมนุษย์และสุนัขเหมือนกันนั้นออกมาเยอะมาก โดยข่าวที่ออกมานั้นมีทั้งทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต แน่นอนว่าต้องมีประเทศที่ห้ามเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์เพราะชื่อเสียงเหล่านี้เป็นอย่างแน่นอน สุดท้านสุนัขสายพันธุ์นี้ก็กลายเป็นสุนัขที่เป็นสัญลักษณ์ของสุนัขที่ดุและน่ากลัวที่สุดไปเป็นที่เรียบร้อย

แต่เชื่อไหมว่าเมื่อ 100 ปีที่แล้วที่อเมริกา ภาพลักษณ์ของเจ้าพิตบูลนั้นไม่ใช่อย่างที่เราเห็นในตอนนี้ เพราะเมื่อก่อนนั้นสุนัขสายพันธุ์เปรียบเสมือนสุนัขสายพันธุ์ลาบราดอร์รีทริฟเวอร์ Labrador Retriever และ โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ Golden Retrieve มันเป็นภาพตัวแทนของสุนัขที่ไปปรากฏในโฆษณาหลายชิ้น

ถ้าเป็นสมัยนี้มันก็คือสุนัขที่ถูกนำไปถ่ายรูปลงโฆษณาครอบครัวแสนสุข ที่จะขาดสุนัขสายพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ Golden Retrieve ไม่ได้เลยหรือโฆษณาทิชชูต้องมีสุนัขสายพันธุ์ลาบราดอร์รีทริฟเวอร์ Labrador Retriever แต่ในอดีตนั้นตั้งแต่โฆษณาแผ่นเสียง ยันป้ายโฆษณาชวนเชื่อให้คนรักชาติสุนัขที่ปรากฏมันก็ต้องเป็น “พิตบูล” American Pit Bull Terrier เท่านั้น

100 ปีที่แล้ว “พิตบูล” American Pit Bull Terrier คือสุนัขที่คนอเมริกันนิยมชมชอบกันเป็นจำนวนมาก เพราะมันคือสุนัขสายพันธุ์ที่น่ารักน่าเอ็นดูไร้พิษภัย แล้วมันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมสุนัขสายพันธุ์พิตบูลจึงกลายเป็นตัวแทนขอสุยัขที่น่ากลัวและดุร้ายมากที่สุดในวันนี้

ในฐานะที่เป็นสุนัขยอดนิยมไม่ว่าจะคนรวยหรือคนไม่รวยต่างก็นิยมชมชอบซื้อเจ้านี้มาเลี้ยง แต่บังเอิญว่าช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เศรษฐกิจอเมริกาขยายตัวคนมีเงินมากขึ้นไม่ว่าจะคนมีเงินหรือคนไม่มีเงิน และคนไม่มีเงินเองก็อยากเลี้ยงสุนัขมากยิ่งขึ้นพวกเขาจึงเลือกเลี้ยงพิตบูล

เมื่อพิตบูลนั้นกลายเป็นสุนัขยอดนิยมที่มีคนเลี้ยงเป็นจำนวนมาก แน่นอนว่าการเลี้ยงดูสุนัขของคนที่มีเงินไม่มากนั้นน่าจะไม่ดีพอ เพราะพวกเขาเหล่านั้นจะต้องเลี้ยงพวกมันเอาไว้แบบผูกแบบล่ามโซ่ แน่นอนว่าการเลี้ยงดูแบบนั้นมันต้องทำให้สุนัขดุแน้ไม่ว่าจะใครเลี้ยงก็ดุนี่ยังไม่นับรวมถึงการตีหรือทำร้ายร่างกายมันด้วย

แต่ที่โหดมากๆนั้นในสมัยโบราณคือคนที่ไม่ค่อยมีเงินหรือชนชั้นช่างนั้นชื่นชอบการให้สุนัข “กัดกัน” ชอบชนิดที่ว่ามันกลายเป็นกีฬาเพื่อความบันเทิง (อารมณ์เหมือนการตีไก่และกัดปลาของประเทศไทยเรา) และสุนัขที่ถูกเอามากัดกันก็คือพวกพิตบูลสุนัขยอดนิยมของคนสมัยนั้น และเรื่องนี้ก็ทำให้หลายๆเมืองเริ่มออกกฎหมายสั่งห้ามไม่ให้มนุษย์เอาสุนัขมากัดกัน และในปี 1975 ทุกรัฐในอเมริกาก็แบน “กีฬานองเลือด” ประเภทนี้จนหมด

และเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ไม่ว่าจะยุคสมัยไหนนั้นก็คือยังมีคนไม่ยอมทำตามกฎกติกาที่ตั้งเอาไว้ และยังคงแอบเล่นแอบทำกการกระทำดังกล่าวอยู่ แต่ที่เลวร้ายกว่านั้นก็คือภาพจำของสังคมอเมริกันต่อหมาพิตบูลมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว เพราะในช่วงที่การเอาสุนัขมากัดกันถูกแบนไปจากอเมริกา

พิตบูลจึงถูกมองว่าเป็นสุนัขของคนผิวสี พวกพ่อค้าตลาดมืดพวกขี้ยา ที่เลี้ยงเอาไว้ถ้าไม่เอาไว้กัดคน ก็เลี้ยงเอาไว้แอบกัดกันเพื่อเล่นพนัน และถ้าไปย้อนดูนิตยสารชื่อดังต่างๆ ในช่วงทศวรรษ 1980 ก็จะเห็นเลยว่าภาพของพิตบูลมันไม่ใช่เพื่อนรักของมนุษย์เหมือนในอดีต แต่มันได้กลายเป็นเครื่องจักรสังหารไปแล้ว

และนั่นทำให้ภาพพจน์ของพิตบูลกลายเป็นเครื่องหมายของความดุร้ายและความน่ากลัวมาจนถึงยุคสมัยนี้ ซึ่งพอมันไปเข้ากันกับ กฎหมายแบนสุนัขเฉพาะสายพันธุ์ที่ประเทศที่สั่งห้ามเลี้ยงและสั่งห้ามเพาะพันธุ์สุนัขพิตบูล (และสุนัขพันธุ์ใหญ่อีกจำนวนหนึ่ง) มันก็ยิ่งผลิตซ้ำภาพความน่ากลัวของพิตบูลยิ่งขึ้นไปอีก

แล้ว “ความจริง” เป็นยังไง? 

คำตอบที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงสุนัขบอกนั้นก็คือ ในโลกนี้ไม่มีสุนัขตัวไหนหรือสายพันธุ์ใดนั้นดุร้ายหรือน่ากลัว เพราะสุนัขจะมีนิสัยอย่างไรนั้นมันขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูของเจ้าของ การเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์พิตบูลมนุษย์สามารถเลี้ยงมันให้น่ารักน่าเอ็นดูเหมือนสุนัขสายพันธุ์ลาบราดอร์ได้ แต่ถ้าเลี้ยงไม่ดีมันก็จะดุและน่ากลัวได้

ถ้าหากถามลงไปลึกมากกว่านั้นว่าทำไมสุนัขพันธุ์นี้มันถึงดุคำตอบที่ออกมานั้นก็คือ เป็นเพราะความต้องการของมนุษย์ที่อยากให้มันดุและมันก็เป็นไปตามความต้องการของเรา และภาพลักษณ์ของมันนั้นก็ดูน่ากลัวและน่าโหดกล้ามใหญ่ๆของมันนั้นทำให้มนุษย์คาดหวังและมันก็เป็นไปดังหวัง

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพิทบูลนั้นมันจะไม่ดุเพราะสุนัขทุกตัวนั้นโหดตั้งแต่นิสัยยันหน้า แม้แต่สุนัขที่หน้าตาใจดีมันก็ยังดุดังนั้นการจะเล่นกับสุนัขควรถามคนเลี้ยงก่อนว่ามันดุหรือไม่ดุ ไม่ควรเล่นกับมันก่อนจะรู้จักนิสัยของมัน โดยเฉพาะสุนัขที่หน้าตาดุและตัวโต

สุดท้ายเราทุกคนก็ต้องทำความเข้าใจเอาไว้เลยว่าสุนัขไม่ว่าจะสายพันธุ์ไหนจะเป็นสุนัขอะไร ตัวใหญ่ตัวเล็กน่ารักหรือไม่น่ารักมันก็คือเครื่องสังหารที่สามารถทำร้ายเราได้ หากเราเลี้ยงดูมันไม่ดี และมันก็เป็นสุนัขที่มีนิสัยขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูของเรา จะดุจะไม่ดุจะน่ารักไม่น่ารักก็ขึ้นกับคนเลี้ยงนิแหละ