รัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มบังคับ “ฝังไมโครชิพหมาแมว” เพื่อป้องกันการหลงหายสัตว์เลี้ยงและลดปัญหาการทอดทิ้งสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน

ฝังไมโครชิพหมาแมว รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศเริ่มบังคับใช้มาตรการนี้ เพื่อแก้ปัญหาสัตว์เลี้ยงพลัดหลงกับเจ้าของและลดปัญหาการทอดทิ้งสัตว์เลี้ยงไปในตัว หลังจากที่ปัญหาสัตว์น่ารักเหล่านี้ถูกทิ้งและพลัดหลงกับเจ้าของเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่ปี 2019 ที่ผ่านมา

ฝังไมโครชิพหมาแมว รัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มบังคับมาตรการในวันที่ 1 มิถุนายน 20200 นี้ เพื่อลดปัญหาการทอดทิ้งสัตว์เลี้ยงและปัญหาสัตว์เลี้ยงหลงหาย

Ministry of the Environment, Government of Japan นั้นได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า มีจำนวนสัตว์มากกว่า 85,000 ตัว พลัดหลงและถูกเจ้าของทอดทิ้งไปอย่างไม่ใยดีจากข้อมูลปี 2019 ที่ผ่าน และนี่ถือว่าเป็นหนึ่งในปัญหาที่รัฐบาลจะต้องแก้ไข ส่วนอีกหนึ่งปัญหาหลักที่ส่งผลให้สุนัข และแมวสูญหายหรือพลัดหลงกับเจ้าของไม่พูดถึงไม่ได้นั้นก็คือ “เหตุการณ์แผ่นดินไหน” ซึ่งเหตุการณ์นี้นั้นส่งผลร้ายที่รุณแรงต่อสัตว์จำนวนมาก และนี้นโยบายนี้สร้างขึ้นมาเพื่อหวังจะแก้ไขกฎหมายสวัสดิภาพสัตว์และการจัดการ

เมื่อวันที่ 1 มินายน 2022 กฎหมายว่าด้วยสวัสดิภาพและการจัดการสัตว์ฉบับแก้ไข ที่หลายคนนั้นต้องการอยากให้มีนั้นได้ทำการประกาศใช้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนข้อกำหนดที่ว่านั้นก็คือ บังคับให้ฟาร์มหรือบุคคลที่ทำการเพาะพันธุ์สัตว์เลี้ยงจำหน่ายและร้านขายสัตว์เลี้ยงทุกร้านในประเทศนั้น “ฝังไมโครชิป” ที่สัตว์ทุกตัวโดยเฉพาะ “สุนัขและแมว” นอกจากฟาร์มและคนขายคนที่เลี้ยงสัตว์ก็ต้องนำสัตว์เลี้ยงขิงตัวเองไม่ว่าจะเป็นหมาหรือเป็นแมว ให้ไปฝั่งไมโครชิปทุกตัว ซึ่งมาตรการนี้นั้นถูกนำออกมาใช้เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงพลัดหลงกับเจ้าของ และป้องกันการทอดทิ้งสัตว์เลี้ยงของกลุ่มคนที่มักง่าย

ไมโครชิปที่ทางการบังคับใช้นั้นมีขนาด 2 มิลลิเมตร ยาวประมาณ 10 มิลลิเมตร การนำฝั่งที่ตัวสัตว์เลี้ยงจะทำโดยสัตวแพทย์ บริเวณที่จะฝังนั้นอยู่ตรงที่ใต้ผิวหนังช่วงคอถึงสะบักของสุนัขและแมว การฝั่งครั้งนี้นั้นทำด้วยเข็มฉีดยา และไม่ต้องกังวลว่าจำไม่ได้เพราะว่าไมโครชิปจะมีหมายเลขประจำตัวด้วยกัน 15 หลักไม่ซ้ำกัน

ส่วนขั้นตอนการอ่านข้อมูลเมื่อฝั่งลงไปในตอนถามหาสัตว์เลี้ยงนั้นสามารถตรวจสอบได้จากอุปกรณ์พิเศษ ที่โรงพยาบาลสัตว์ และหน่วยงานราชการในท้องถิ่น และสถานที่อื่นๆมีเก็บเอาไว้ใช้ในการตรวจสอบฐานข้อมูลหมายเลขประจำตัวได้เชื่อมต่อกับข้อมูลที่ลงทะเบียนไว้ ส่วนข้อมูลที่ถูกจัดเก็บเอาไว้นั้นมีครบหมด ตั้งแต่ชื่อผู้เลี้ยงผู้ขายและสัตว์เลี้ยง รวมไปถึงตำนิสีขนของสัตว์เลี้ยง และเมื่อต้องส่งต่อการเลี้ยงดูเจ้าของใหม่ก็ต้องไปแจ้งข้อมูลใหม่อีกครั้งค่อยนำไปเลี้ยงต่อ และต้องรักษาไมโครชิปไว้ให้ดีด้วย

ทาคาชิ ไซโตะ (Takashi Saito) สัตวแพทย์ที่ประจำการอยู่โรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น บอกว่า

“ชิพที่ทำการฝังลงไปในตัวของสัตว์นั้นสามารถนำได้ในไม่กี่วินาที ส่วนความเจ็บปวดนั้นพวกเขาจะรู้สึกเหมือนว่าถูกฉีดยาแป๊ปเดียว เนื่องจากมันไม่ส่งต่อความเจ็บปวดและไม่ทำให้เกิดอันตรายใดๆต่อสัตว์ที่เข้ารับการฝังชิพ”

ส่วนกฎหมายที่ควบคุมในครั้งนี้นั้นบอกว่า ข้อมูลของผู้เลี้ยงและสุนัขทุกอย่างนั้นต้องทำการลทะเบียนเมื่อเริ่มต้นเลี้ยง และเมื่อเจ้าของย้ายที่อยู่อาศัยใหม่ก็ต้องไปทำการแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลอีกครั้งด้วย ซึ่งการแจ้งเปลี่ยนสามารถทำได้ทั้งออนไลน์และเอกสาร และในตอนนี้มีประชาชนจำนวนน้อยมากที่รับรู้ข่าวสารที่ถูกปรับขึ้นมาใช้ในครั้งนี้ ดังนั้นเพื่อเป็นการเน้นย้ำให้ผู้คนเข้ามารับทราบจึงได้ทำการติดป้ายประกาศ และเอกสารต่างๆที่มีคิวอาร์โค้ดสำหรับลงทะเบียนข้อมูลกับรัฐบาลประจำส่วนต่างๆที่รับผิดชอบหน้าที่นี้ และเมื่อไม่นานมานี้ทางสถานี้ตำรวจของญี่ปุ่นนั้นได้ทำการติดตั้งเครื่องอ่านข้อมูลเพิ่ม เพื่อที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงและเจ้าของได้อย่างทั่วถึง ในทางกลับกันถ้าข้อมูลที่มีอยู่ในชิพนั้นคือข้อมูลจริงและสามารถติดต่อเจ้าของได้จริง ก็ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก ถ้าหากว่าสัตว์เลี้ยงของพวกเขาพลัดหลงก็จะได้นำตัวส่งคืนนเจ้าของได้อย่างปปลอดภัย หรือถ้าเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงก็จะได้แจ้งเจ้าของให้ทราบได้ทันเวลา“ถึงแม้สัตว์เลี้ยงบางชนิดจะมีชิพติดตัวแต่ถ้าว่าในบางครั้งชิพก็ไม่สามารถตามหาเจ้าของของพวกมันได้ ถ้าหากข้อมูลในนั้นไม่ใช่ข้อมูลปัจจุบัน ดังนั้นเราจึงไม่อาจวางใจได้ว่าการฝังชิพจะทำให้สัตว์เลี้ยงเจอเจ้าของ เจ้าหน้าที่กล่าวเสริม”