ฟองน้ำทะเลอาจสูญพันธุ์ จากโลกใบนี้ไปอีกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าในวันมนุษย์เป็นใหญ่ แม้ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่เมื่อ 600 ล้านปีก่อนประวัติศาสตร์ก็ตาม

ฟองน้ำทะเลอาจสูญพันธุ์ จากโลกใบนี้ไปอีกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าในวันที่มนุษย์เป็นใหญ่ แม้สัตว์น่ารักพวกนี่มันจะถือจะเกิดมาตั้งแต่เมื่อ 600 ล้านปีก่อนประวัติศาสตร์ก็ตาม และถ้าหากว่าเรายังเป็นเช่นนี้อยู่ในอนคตโลกของเรานั้นจะต้องสูญเสียสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์ไปหมดเกลี้ยงโลกอย่างแน่นอน

ฟองน้ำทะเลอาจสูญพันธุ์ ในไม่ช้าแม้มันคือสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์ที่ควรอนุรักษณ์ไว้

ฟองน้ำทะเลคือสิ่งมีชีวิตที่อยู่กับโลกเรามานานมากกว่า 600 ล้านปี ส่วนลักษณะของมันนั้นคล้ายกันกับฟองน้ำที่เราใช้งานปกติ เรียกได้ว่ามันคือสัตว์ที่ตัวนิ่ม แถมยังมีความยืดหยุ่นสูง สามารถคืนรูปร่างรูปทรงได้เพราะเป็นสัตว์ไม่มรกระดูกสันหลัง จุดพิเศษอีกจุดนั้นก็คือมันมีอายุที่ยืนยาวมากกว่าสัตว์ชนิดอื่นๆ ที่ไม่หวั่นแม้สภาพอากาศจะเปลี่ยนแปลงไป อย่างเช่น ปะการังทั่วทั้งเกรตแบร์ริเออร์รีฟที่ถูกความร้อนฟอกจนกลายเป็นสีขาวโพลน แต่พวกฟองน้ำทะเลนั้นกลับไม่สะทกสะท้านแถมยังมีสีสันสดใสเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่มันก็ไม้อาจต้านทานความเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากมนุษย์ได้ เพราะเมื่อไม่นานที่ผ่านมาฟองน้ำแห่งทะเลแห่งนิวซีแลนด์ก็ใกล้ถึงคราวสูญสิ้นแล้ว

นักวิจัยจาก Victoria University of Wellington ในนิวซีแลนด์ เปิดเผยข้อมูลว่า

พวกเขานั้นพบเจอกับปรากฏการณ์ฟองน้ำทะเลฟอกขาวเป็นครั้งแรกในรอบหลายๆปีที่ผ่านมา และพวกเขานั้นยังพบว่ามันมีอยู่หลายจุดในน่านน้ำของนิวซีแลนด์ เรื่องที่น่าตกใจมากสำหรับพวกเขานั้นก็คือ บางแห่งในทะเลพวกฟองน้ำทะเลฟอกขาวมากกว่า 95 เปอร์เซ็นต์  และนี่ถือเป็นการฟอกขาวของฟองน้ำทะเลครั้งใหญ่สุดในโลกเท่าที่นักวิจัยเคยพบเจอมา

นักวิจัยที่พบเจอปรากฏการณ์สุดแปลกประหลาดนี้พวกเขาค่อนข้างมั่นใจว่า มันมีสาเหตุมาจากเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศน้ำที่คนเราเป็คนนสร้างขึ้นมาและส่งผลให้น้ำทะเลมีอุณหภูมิสูงขึ้น โดยเฉพาะบริเวณน่านน้ำของนิวซีแลนด์ มีนักวิจัยพบว่ามันมีอุณหภูมิปรับสูงขึ้นมากกว่าปกติประมาณ 2.6 องศาเซลเซียส นี่ถือว่าระดับนั้นนั้นอุ่นขึ้นมากๆ (โดยปกติแล้วน้ำทะเลร้อนขึ้น 1.5 องศาเซลเซียส ปะการังก็ไม่รอดแล้ว) การพบเจอในครั้งนี้นั้นมีความเชื่อมโยงกันกับข้อเท็จจริงในปี 2021 ที่บอกเอาไว้ว่า น้ำทะเลมีอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ปีนี้คือปีที่น้ำในมหาสมุทรมีอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นมากที่สุดตั้งแต่มีการจดบันทึกสถิติในยุคปัจจุบัน และในปีเดียวกันนี้ก็มีกลุ่มนักวิจัยจำนวนมากนั้นได้ออกมาประกาศว่า การปล่อยเชื้อเพลิงฟอสซิลโดยฝีมือมนุษย์นั้นแหละที่เป็นตัวการทำให้อุณหภูมิโลกและน้ำในมหาสมุทรร้อนมากขึ้น เชื่อไหมว่าเรื่องราวในครั้งนี้ยังมีความเชื่อมโยงกันกับปรากฏการณ์ฟอกขาวและปะการังฟอกขาวอีกหลายแห่ง โดยเฉพาะในช่วงต้นปีที่ผ่านมากที่การฟอกขาวเกิดขึ้นอย่างรุนแรงอีกครั้ง แน่นอนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้คือเรื่องที่ค่อนข้างร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใต้มหาสมุทร เพราะขนาดฟอกน้ำทะเลที่แข็งแกร่งยังไม่สามารถต่อสู้ได้และจะไปคาดหวังให้สิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอ่อยู่บนโลกใบนี้ได้อย่างไร

ความเสียหายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตจำนวนมากบนโลกใบนี้อย่างแน่นอน เพราะโดยบทบาททางธรรมชาติ ฟองน้ำทะเลก็มีหน้าที่แบบเดียวกับปะการังซึ่งมันก็คือหน้าที่หลักที่สำคัญมากๆ เนื่องจากว่าฟองน้ำทะเลมีนั้นมีความสามารถปรับปรุงคุณภาพน้ำทะเลให้ใสสะอาด และที่สำคัญพวกมันยังลดปริมาณตะกอนสารอินทรีย์ในน้ำได้มากมาย พูดง่ายๆนั้นมันมีความสำคัญที่เหมือนกับเครื่องกรองน้ำทางชีวภาพที่สำคัญบนโลกนี้เลยละ สุดท้ายทางนักวิจัยอธิบายสรุปเหตุการณ์ฟอกขาวครั้งใหญ่นี้ให้เราเข้าใจง่ายๆว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ย้ำให้เราเข้าใจว่ามหาสมุทรกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก จากภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ สัญญาณเตือนครั้งนี้คือสัญญาณเตือนที่บอกว่าเรานั้นควรแก้ไขทันที ไม่ใช่รอทำในปีข้างหน้า เพราะเมื่อถึงเวลานั้นมันก็สายเกินไป และเราจะสูญเสียระบบนิเวศและสายพันธุ์ทั้งหมด