Wednesday, 1 May 2024

วิจัยพบ เชื้อราสยองกินแมลงวัน ยิ่งตายนานยิ่งมีเสน่ห์ เพื่อล่อให้ตัวผู้มา “ผสมพันธุ์”

วิจัยพบ เชื้อราสยองกินแมลงวัน  สัตว์น่ารักจากภายยิ่งตายนานเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะมันเข้าไปเพิ่มเสน่ห์หลอกล่อให้ตัวผู้มาติดกับมาแล้วมีความต้องการอยาก “ผสมพันธุ์” แถมว่ามันยังเปลี่ยนซากแมลงวันให้กลายเป็น “ซอมบี้” สุดน่ากลัวได้อีกด้วย

สล็อต xo Slotxo

เชื้อราสยองกินแมลงวัน  จากภายในแถมเปลี่ยนซากแมลงวันให้เป็น “ซอมบี้”

เชื้อราสยองกินแมลงวัน-  จากภายใน

เมื่อไม่นานมานี้ทางนักวิจัยจาก University of Copenhagen นั้นได้ไปค้นพบบางอย่างที่ค่อนข้างออกแนวไปในทางน่ากลัวเกี่ยวกับโลกของแมลง หลังจากที่พวกเขานั้นทำการทดลองเชื้อราชื่อว่า Entomophthora muscae และค้นพบความจริงบางเรื่องว่า เชื้อราชนิดนี้นั้นมีบางอย่าง ที่ส่งผลให้มันเจริญเติบโตในตัวแมลงวันตัวเมีย อีกทั้งพวกมันนั้นก็ยังกัดกินแมลงมันจากภายใน และพอแมลงวันตายไป เชื้อราที่อยู่ข้างในนั้นยังหลอกล่อให้แมลงวันตัวผู้มีความต้องการผสมพันธุ์กับซากแมลงวันตัวเมียดังกล่าว เพื่อขยายพันธุ์ต่ออีกต่างหาก

ในส่วนการทดลองนั้นนักวิจัยได้ทำการทดลองหลังพบว่า Entomophthora muscae เข้าไปอยู่ข้างในแมลงวันตัวเมีย ด้วยระยะเวลาประมาณหกวัน ในการเข้าควบคุมพฤติกรรมของแมลงวันให้กลายเป็นแมลงวันซอมบี้ ก่อนที่จะพาพวกมันนั้นไปตายในสถานที่ต่างๆเช่นต้นไม้กำแพง หลังจากนั้นมันจะเริ่มปล่อยสารเคมี sesquiterpenes ออกมาหลอกแมลงตัวผู้ให้มาผสมพันธุ์กับซากแมลงวันที่ตายไปแล้ว เพื่อที่พวกมันจะได้ติดไปกับแมลงวันตัวผู้ที่มาผสมพันธุ์ เพื่อต้องการแพร่เชื้อขยายพันธุ์ไปยังตัวเมียอีกหลายตัวก่อนจะตายไปเพราะโดนกินจากข้างในมา

เชื้อรา Entomophthora muscae

บอกเลยว่าเรื่องที่กล่าวมาตอนต้นนั้นยังสยองไม่พอ เพราะทางนักวิจัยยังค้นพบอีกอย่างว่า และถ้าแมลงวันตัวเมียตัวไหนที่ตายไปนานๆมันก็ยิ่งเพิ่มพูลให้สารจากเชื้อราสยองที่ว่ามานั้นก็ยิ่งจะเพิ่มความ “มีเสน่ห์” ต่อแมลงวันตัวผู้มากขึ้นอีกต่างหาก นี่นับว่าเป็นอีกก้าวของการวิจัยที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากเลย เพราะงานวิจัยชิ้นนี้มันไม่เพียงจะ เพิ่มเติมเสริมความรู้เกี่ยวกับโลกของแมลงและเชื้อราได้เท่านั้น แต่ความรู้ใหม่ที่ได้มาในครั้งนี้ยังอาจนำไปสู่วิธีการควบคุมประชากรแมลงวันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคตที่บนโลกใบนี้ของมนุษย์ได้เลย แม้ว่าวิธีการที่กล่าวมานั้นอาจจะเป็นเหมือนฝันร้ายสำหรับแมลงวันทั่วโลกเลยก็ตาม