โลกร้อนเป็นเหตุทำให้ เพนกวินสีน้ำเงินตาย ทั่วชายหาด เพราะอุณหภูมิน้ำทะเลรอบๆ นิวซีแลนด์เพิ่มสูงขึ้นจากปรากฏการณ์ลานีญา

โลกร้อนทำพิษส่งผลทำให้ เพนกวินสีน้ำเงินตาย เกลื่อนนับร้อยเรียงรายบนชายหาด เพราะอุณหภูมิน้ำทะเลของ New Zealand ที่ร้อนขึ้นมากว่าปกติ จากปรากฏการณ์อุณหภูมิน้ำแปรผัน La Niña ส่งผลทำให้พวกมันหา “อาหาร” ยากขึ้น แน่นอนว่าสัตว์น่ารักมากมายบนโลกใบนี้นั้นอาจสูญพันธุ์ไปในไม่ช้าเพราะ “วิกฤตโลกร้อน”

เพนกวินสีน้ำเงินตาย เกลื่อนนับร้อย เพราะวิกฤต “โลกร้อน” ทำให้พวกมันหา “อาหาร” ยากขึ้น

รู้ไหมว่าเพนกวินสีน้ำเงินคือหนึ่งในสิ่งมีชีวิตสุดน่ารักที่อาจสูญพันธุ์ไปในไม่ช้าเพราะ “วิกฤตโลกร้อน” ที่โลกของเรานั้นกำลังเผชิญหน้ากับปัญหานี้อยู่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเมื่อไม่นานมานี้มีการพบศพเพนกวินสีน้ำเงินจำนวนมากกว่าหนึ่งร้อยตัวนอนตายเรียงรายเกลื่อนทั่วชายหาดของประเทศนิวซีแลนด์ จากการตรวจสอบซากศพของพวกเพนกวินสีน้ำเงินนั้นพบว่า พวกมันนั้นมีรูปร่างที่ผอมแบบแปลกประหลาดเหมือนกับพวกมันนั้นขาดสารอาหารหรือไม่ได้กินอาหาร ซึ่งนี่มันสามารถบ่งบอกสาเหตุได้อย่างชัดเจนเลยว่าทำไมพวกมันถึงตายเพราะสาเหตุที่ทำให้มันตายนั้นน่าจะมาจากการขาดแคลนอาหาร เพราะว่าในช่วงนี้โลกของเรานั้นก็ประสบพบเจอปัญหาโลกร้อน และมันก็สงผลให้พวกแพนกวินนั้นตกอยู่ในภาวะอุณหภูมิต่ำกว่าปกติเนื่องจากขาดไขมัน ทำให้ไม่สามารถรักษาอุณหภูมิร่างกายได้ขณะอยู่ในน้ำ

ส่วนสาเหตุเหตุหลักที่เพนกวินไม่ได้กินอาหารนั้นน่าจะเกิดการปรากฏการณ์อุณหภูมิน้ำแปรผัน La Niña ที่ทำให้น้ำนั้นร้อนมากกว่าเดิมจนส่งผลให้ปลาที่เป็นอาหารของพวกมันนั้นย้ายที่อยู่อาศัยไปอยู่ในสถานที่ที่น้ำเย็นกว่าเดิม ซึ่งนี่มันคือเหตุผลที่ทำให้พวกมันนั้นไม่ได้กินอาหารและมีสุขภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรง

ในมุมมองของ World Wide Fund for Nature – WWF มองว่า “วิกฤตโลกร้อน” น่าจะเป็นเหตุผลหลักที่สำคัญที่ทำให้เพนกวินสีน้ำเงินตายมากกว่าปกติ เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยพบว่าเพนกวินตายเพราะเกิดปารกฎการณ์ “La Niña” มาก่อน ในขณะเดียวกันก็มีบางข้อมูลที่ชี้ให้เห็นภาพอย่างชัดเจนว่า ตอนนี้น้ำทะเลอุ่นขึ้นตามอุณหภูมิเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น แม้จะไม่มี“La Niña” เข้ามาเกี่ยวข้อง รวมถึงเหตุการณ์โยกย้ายถิ่นฐานของสัตว์น้ำก็กำลังเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยมากกว่าที่เคยเป็น

ส่วนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นคาดการณ์ว่ามีจำนวนเพนกวินสีน้ำเงินที่ตายนั้นอาจมีจำนวนมากเพิ่มมากขึ้นกว่าที่พบเจอ จากการที่หาด Ninety Mile Beach ทางตอนเหนือของ New Zealand ที่พบซากเพนกวินนอนตายมากกว่าปกติ ซึ่งสถานที่แห่งนี้คือสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้คนมากมาย มันจึงมีความเป็นไปได้ว่า บรรดานักท่องเที่ยวหรือคนในพื้นที่นั้นอาจเข้ามาพบเจอกับซากศพ และทำการจัดการเก็บซากไปทิ้งให้ก่อนที่ทางหน่วยงานด้านทรัพยากรธรรมชาติจะมาพบ

ไม่เพียงแค่พบซากเพนกวินสีน้ำเงินตายแต่ยังพบอีกว่ามีสัตว์อีกมากมายหลายชนิดที่นอนตายอยู่บนหาด และมีสาเหตุการตายเพราะขาดแคลนอาหารเหมือนกันเกือบทุกชนิด ในช่วงที่ผ่านมาสถานะของเพนกวินสีน้ำเงินนี้ไม่ได้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มสัตว์ที่ “ใกล้สูญพันธุ์” แต่ก็ไม่แน่ใจว่า เมื่อมีเหตุการณ์แปรผันของอุณหภูมิเกิดขึ้นแบบนี้ ในอนาคตก็อาจมีการปรับปรุงสถานะความเสี่ยงใหม่ว่ามัน “ใกล้สูญพันธุ์” ก็เป็นไปได้ แน่นอนว่าเราคงไม่อยากให้วันนั้นมาถึงแน่นอน