Wednesday, 26 November 2025

รีวิวหนัง “Wicked: For Good” หนังเพลงภาคจบที่ทั้งปังและรั้งไว้

หลังจากที่ภาพยนตร์ภาคแรกของ “Wicked” กลายเป็นปรากฏการณ์ทั้งบนเวทีบรอดเวย์และบนจอใหญ่ ตอนนี้การเดินทางของเรื่องราวสาวน้อยผมเขียว Elphaba และเพื่อนสาวสุดสดใส Glinda กำลังเข้าสู่บทสรุปผ่าน รีวิวหนัง “Wicked: For Good” ซึ่งพยายามจะปิดฉากด้วยแนวทางที่ทั้งหนักแน่นและเต็มอิ่มวัยรุ่นแฟนเพลงให้ได้ประจักษ์ จึงเป็นงานที่ทั้งมีความคาดหวังสูงและความกังวลว่าภาคจบจะทำได้ดีเพียงใด

สล็อต xo Slotxo

พล็อตโดยย่อและโครงเรื่อง Wicked: For Good

  • เรื่องราวเริ่มขึ้นทันทีหลังจากเหตุการณ์ภาคแรก เรื่องราวของ Elphaba ที่ถูกตราหน้าว่าเป็น “แม่มดชั่วแห่งตะวันตก” และ Glinda ที่กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความดีของออซ

  • หนังเลือกโทนที่เข้มข้นกว่าเดิม ทั้งเรื่องการเมืองของออซ การกดขี่สัตว์ (Animals) และการหล่อหลอมมิตรภาพที่ถูกทดสอบ

  • มีการผนวกโลกของ “The Wizard of Oz” เข้ามาอย่างชัดเจนขึ้น ทำให้แฟนเก่าและแฟนใหม่สูดหายใจทั้งรอคอยและระวัง

รีวิว Wicked: For Good มหากาพย์เพลงแห่งออซ บทสรุปที่ยิ่งใหญ่

จุดเด่นที่โดดเด่น

การแสดงของ Cynthia Erivo และ Ariana Grande

ผลงานของทั้งสองแสดงพลังอารมณ์ได้อย่างท่วมท้น Cynthia Erivo ในบท Elphaba สามารถถ่ายทอดความโกรธ ความเจ็บปวด และความหวังได้ครบครัน ส่วน Ariana Grande ในบท Glinda ก็แสดงให้เห็นมิติที่ลึกซึ้งกว่าเดิม ไม่ใช่เพียงสาวสวยสดใสแต่มีภาระและการเลือกทางชีวิตซ่อนอยู่

โทนภาพและความลึกของเรื่อง

หนัง ไม่เน้นแต่แสงสีและเพลงฮิตเพียงอย่างเดียว แต่เลือกเดินลึกเข้าสู่ด้านมืดของออซ ทั้งการต่อต้าน ความเป็นอื่น และการสูญเสีย ทำให้รู้สึกว่า “ภาคจบ” นี้มีน้ำหนักกว่า

เพลงใหม่และซาวนด์แทร็ก

มีเพลงต้นฉบับสองสามเพลงที่เพิ่มเข้ามา และมีฉากร้องเพลงที่เรียกน้ำตาได้บ้าง ทำให้แฟน musical ได้ฟินไม่แพ้ภาคแรก

จุดด้อยที่ต้องพิจารณา

  • แม้ว่าบรรยากาศจะเข้มข้นกว่าเดิม แต่บางจังหวะของเรื่องช้าเกินไป และอาจทำให้ผู้ชมที่ชอบความเร้าใจรู้สึกว่าขาด “พลังใหม่” (จำนวนการรีวิวระบุว่าโทนเรื่องหนักขึ้นและมีจังหวะที่อืด)

  • สำหรับผู้ที่ไม่เคยชมภาคแรกหรือไม่คุ้นเคยกับเวอร์ชันเวที อาจรู้สึกว่าเข้าใจยาก เพราะหนังเดินเรื่องที่ต่อเนื่องและแทรกอ้างอิงหลายจุด ทำให้ไม่เหมาะดูแบบข้ามบท

  • แม้เพลงจะดี แต่บ้างเสียงวิจารณ์ว่าเพลงใหม่ไม่ “ติดหู” เท่าภาคก่อน

เหมาะกับใคร?

  • แนะนำให้ดูหากคุณเป็นแฟนเวที brodway หรือแฟน Wicked อยู่แล้ว เพราะจะสัมผัสถึงอรรถรสครบทั้งภาพ เสียง และความรู้สึก

  • หากคุณชอบหนังมิวสิคัลที่มีขนาดใหญ่ เพลงเสียงร้อง แบบจัดเต็ม พร้อมเรื่องราวที่มีมิติทางอารมณ์

  • อาจไม่เหมาะกับผู้ที่ชอบหนังจบเร็ว เข้าใจง่าย หรือคนที่ไม่เคยดูภาคแรกเลย เพราะอาจรู้สึกว่า “ตามไม่ทัน”

พล็อตโดยย่อและโครงเรื่อง Wicked: For Good

คะแนนและความรู้สึก

ถ้าต้องให้คะแนน ผมให้ประมาณ 8 / 10 เพราะหนังทำได้ดีทั้งด้านอารมณ์ การแสดง และภาพรวมของภาคจบ แต่ยังมีจุดที่ไม่ได้ “พุ่งทะลุ” ทุกความคาดหวัง

ถ้าคุณมีเวลา อยากหาหนังที่ให้ทั้งเพลง แอ็กชั่น เบื้องหลังใหญ่ และบทสรุปแบบยิ่งใหญ่ หนึ่งคืนกับ “Wicked: For Good” จะไม่เสียเวลา