รีวิวด้านมืดของวัดใน: “อาบัติ (2015)” เมื่อศีลธรรมไม่อาจกั้นวิญญาณพยาบาท

ด้านมืดของวัดใน: “อาบัติ (2015)” หากพูดถึงหนังผีไทยที่ “กล้าแตะ” เรื่องต้องห้ามทางศาสนา และนำเสนอ ความเสื่อมของวงการสงฆ์ ได้อย่างเข้มข้น “อาบัติ (2015)” ถือเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ไม่เพียงแต่หลอนด้วย “ผี” แต่ยังสะกิดใจด้วยคำถามที่ลึกกว่าความกลัว นั่นคือ ศาสนากับศีลธรรมจริงๆ ยังดำรงอยู่หรือไม่?

เจาะลึก “อาบัติ” หนังที่ศาสนาไม่เงียบ ผีไม่หลับ และกรรมไม่ลืม

อาบัติ ไม่ได้เป็นแค่หนังผีที่ใช้เสียงตุ้งแช่ แต่เป็นการเปิดโปง “โลกภายในวัด” อย่างถึงแก่น ผ่านสายตาของสามเณรรูปหนึ่งที่ไม่ได้ตั้งใจมาบวช แต่ต้องมาเผชิญหน้ากับทั้ง กฎแห่งพระธรรม และ เงาแห่งวิญญาณที่ยังไม่ไปผุดไปเกิด

พล็อตเข้มข้น เปิดโปงด้านมืดในวัด คำว่า “อาบัติ” ไม่ใช่แค่คำในพระวินัย แต่คือนรกที่มนุษย์สร้างเอง

อาบัติ (2015) กำกับภาพยนตร์โดย “ขนิษฐา ขวัญอยู่” และนำแสดงโดย “พีช พชร” ในบทของ “เปรม” เด็กหนุ่มหัวรั้นที่ถูกส่งมาบวชเพื่อดัดนิสัย แต่แทนที่จะได้พบกับความสงบ เขากลับต้องพบกับ ความจริงอันดำมืด ทั้งเรื่องรักต้องห้าม การใช้เวทมนตร์ในวัด การกระทำผิดศีลของพระ และ วิญญาณพยาบาท ที่ยังวนเวียนในเขตพุทธสถาน

จุดแข็งของเรื่องคือการ ผสมผสานผีไทยกับศีลธรรม ได้อย่างทรงพลัง โดยผีในเรื่องไม่ได้ปรากฏตัวอย่างไร้เหตุผล แต่เป็นผลพวงของ “อาบัติ” ที่เกิดจากการละเลยพระธรรม โดยเฉพาะกรณีของตัวละครที่เกี่ยวข้องกับการใช้ คาถาอาคม การผูกคอตายในวัด และการฝ่าฝืนวินัยสงฆ์อย่างเปิดเผย

คาถา อาคม และไสยศาสตร์ในรั้ววัด ศรัทธาที่เสื่อมลงหรือวิชาที่ถูกใช้ผิด?

หนังแสดงให้เห็นว่าแม้จะอยู่ในขอบเขตของวัด แต่ ไสยศาสตร์และความเชื่อพื้นบ้าน ยังคงดำรงอยู่ โดยเฉพาะการใช้คาถาเสน่ห์ การผูกดวง และวิธีสะกดวิญญาณ ภายใต้ภาพลักษณ์ของพระในจีวร

ฉากที่พระรูปหนึ่งใช้ ยันต์และคาถา เพื่อควบคุมวิญญาณ ถือเป็นภาพที่หาชมได้ยากในหนังผีไทย เพราะแทนที่จะ “ขับไล่ผี” ด้วยความเมตตา กลับเลือกใช้พลังเหนือธรรมชาติแบบดิบๆ ซึ่งทำให้เกิดคำถามว่า “แท้จริงแล้ว ใครกันแน่ที่น่ากลัว?”

วิญญาณผู้หญิง ผูกคอตายในวัด สะท้อนบาปจากความลุ่มหลงของคนในจีวร

หนึ่งในวิญญาณหลักของเรื่องคือ หญิงสาวที่ผูกคอตายภายในวัด ด้วยความผิดหวังในความรักกับพระรูปหนึ่ง ภาพนี้นอกจากจะสื่อถึงความหลอนทางกายภาพแล้ว ยังสะท้อนถึง ผลกรรมและอาบัติ ที่ผู้กระทำต้องเผชิญ

ผีใน “อาบัติ” ไม่ใช่เพียงสิ่งน่ากลัว แต่เป็น ตัวแทนของความผิด ที่ถูกปิดบังไว้ในผ้าเหลือง เธอตามหลอกหลอน ไม่ใช่เพราะความแค้นเพียงอย่างเดียว แต่เพราะ ไม่มีใครกล้ารับผิดและเผชิญความจริง

งานภาพ เสียง และบรรยากาศที่ตีแผ่ความเงียบในวัดอย่างหลอนลึก

ด้านเทคนิค “อาบัติ” เลือกใช้ภาพมุมต่ำ แสงน้อย และเสียงพื้นหลังที่แทบไม่มีดนตรีประกอบ เพื่อให้บรรยากาศภายในวัด “เงียบจนน่ากลัว” โดยเฉพาะฉากในโบสถ์และกุฏิเก่า ที่มีเพียงเสียงธรรมชาติเป็นฉากหลัง

หนังเข้าใหม่ไม่พึ่งพา CG มาก แต่เน้น การใช้เงา เสียงลมหายใจ และแสงเทียน สร้างความอึดอัดให้กับผู้ชม จนรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในพื้นที่อาถรรพ์ร่วมกับตัวละคร

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่