รายงานจากผู้สื่อข่าว เลขเด็ด “มะขามหวาน” เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2566 ญาติพี่น้องและลูกหลาน นายเง็กเจียง แซ่เฮง (แป๊ะเจียง) ชายผู้ล่วงลับและเป็นเจ้าของสายพันธุ์มะขามหวานประกายทอง หรือเรียกอีกอย่างว่า มะขามพันธุ์ตาแป๊ะ ทั้งนี้ได้มีการจัดพิธีทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับมะขามต้นแรกและตาแป๊ะ รวมไปถึงทำบุญให้กับเทวดาที่ปกปักรักษาต้นมะขามหวานนี้
โค้งสุดท้าย! อย่างลืมมาส่อง เลขเด็ด มะขามหวาน ชาวบ้านร่วมกันทำบุญให้ “มะขามต้นแรก” พันธุ์ตาแป๊ะ จุดเลขธูปออกมาปรากฏชัดตรงวันตาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามะขามต้นแรก ซึ่งเป็นสายพันธุ์มะขามหวานตาแป๊ะหรือพันธุ์ประกายทอง ลูกหลานเจ้าของสายพันธุ์ได้ทำพิธีอุทิศส่วนกุศลให้กับตาแป๊ะพร้อมกับเทวดาเทพารักษ์ที่ดูแลรักษาต้นไม้ต้นแรกให้คงอยู่มาถึงปัจจุบัน มะขามหวานตราแป๊ะ ทรูปลูกขึ้นภายในพื้นที่ 3 หมู่ 8 บ้านโป่งตาเบ้า ตำบลชนแดน อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ ญาติพี่น้องได้มีการนิมนต์พระจำนวน 9 รูปเพื่อมาเจริญพระพุทธมนต์พร้อมฉันเพล ขณะเดียวกันคนที่มาร่วมงานก็มีชาวบ้านและเครือญาติ
ต่อมา นายบุญมา ผู้เป็นลูกชาย ตาแป๊ะ หรือ แป๊ะเจียง เขาได้ออกมาเผยว่าเมื่อครั้งที่พ่อยังอยู่ช่วงแรกเริ่มในการทำอาชีพก็คือ “การทำนา” ต่อมาก็เปลี่ยนมาเป็นปลูกส้มเขียวหวาน ผลที่ได้รับก็ไม่ประสบผลสำเร็จ แต่แล้ววันหนึ่งพ่อเขาก็ได้เดินทางไปที่อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร และก็มีพ่อค้าก๋วยเตี๋ยวคนนึงให้เมล็ดมะขามมา พ่อของเขาก็ได้เอามาหวานไว้ที่สวนและมันก็ขึ้นแล้วเกิดเพียงต้นเดียว แต่ก็ไม่ได้ดูแลหรือใส่ใจเป็นพิเศษอะไร รดน้ำตามปกติทั่วไปเหมือนกับพืชอื่นๆ พอเวลาผ่านไป 6-7 ปี พื้นที่ที่เคยหวานเมล็ดมะขามลงไปก็ได้ปรับเปลี่ยนให้มาเป็นที่นา ต้นมะขามที่เหลือเพียงต้นเดียวก็เติบใหญ่และเป็นผล ภรรยาของเขาเองก็รู้สึกอยากที่จะกินอะไรที่มีรสเปรี้ยวเขาก็เปลี่ยนไปเก็บมะขามมาแต่ว่ากินเข้าไปกับให้รสชาติที่หวานมาก เขาตึงเอาเรื่องนี้ไปบอกผู้เป็นพ่อ พ่อเขารู้ก็ปีนไปเก็บมะขามทั้งหมดจากนั้นก็เอาไปแจกพร้อมกับขายใน “ตลาดวังชมภู” ซึ่งทางร้านขายได้ 200 บาทต่อกิโลกรัม ช่วงนั้นก็ถือว่าราคาแพงเมื่อปีถัดมาหลังจากนั้นมะขามก็ติดฝากเยอะขึ้น เมื่อมะขามสุกก็นำเอาไปขายจนท้ายที่สุดมันก็โด่งดังมีชื่อเสียงให้กับผู้เป็นพ่อ ก่อนที่จะตัดสินใจเอามะขามนี้ไปประกวดภายในงานประจำปีที่จังหวัดเพชรบูรณ์ และก็ได้คว้ารางวัลที่ 1 กลับบ้านเป็นปีแรกของการเก็บเกี่ยว
“มะขามหวานประกายทอง” คือชื่อสายพันธุ์มะขามที่จะต้องตั้งขึ้นให้เป็นทางการและได้มาตรฐาน ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้ส่งเข้าไปประกวด คำว่า “กลายทอง” พ่อของเขาเป็นคนตั้งชื่อนี้เพราะเนื้อของมันคล้ายกับสีทองคำ เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ฟังก็แนะนำให้เปลี่ยนชื่อเป็น “ประกายทอง” และชื่อนี้ก็ตั้งมาจนถึงทุกวันนี้แต่คนส่วนใหญ่ที่รู้จักและเรียกการติดปากก็คือ “มะขามพันธุ์ตาแป๊ะ”
เวลาต่อมาเขาก็ได้ขยายพันธุ์มะขามหวานด้วยการตอนกิ่ง ในปีแรกที่ตอนกิ่งมาแม้ว่าจะขยายเท่าไหร่ก็ไม่พอที่จะขาย ชาวบ้านในหมู่บ้านก็มาขอกิ่งพันธุ์มะขามหวานไปปลูก พ่อของเขาก็ให้ไปโดยไม่หวงห้ามอะไรเพื่อทำให้ชาวบ้านที่นี่มีรายได้ ทั้งขายมะขามหวานและกลิ่นตอนมะขามหวาน อย่างไรก็ตามในช่วงแรกๆมันก็ค่อนข้างจะมีราคาสูง 600-700 บาทต่อกิโลกรัม ส่งผลให้ชาวบ้านที่นี่สามารถที่จะลืมตาอ้าปากและสร้างฐานะได้ดีขึ้น และในปัจจุบันนี้ทุกวันที่ 14 มกราคมของทุกๆปี มันคือวันที่พ่อของเขาเสียชีวิต ลูกหลานพร้อมกับชาวบ้านก็จะมาร่วมกันจัดพิธีทำบุญเพื่อส่งผลบุญนั้นไปให้พ่อพร้อมกับเทวดาที่สิงสถิตหรือรักษาสายพันธุ์ต้นมะขามหวานประกายทอง “มะขามหวานต้นแรก” และในปัจจุบันนี้มันมี อายุมากกว่า 50 ปีแล้ว
ภายในงานบุญที่ทำเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับตาแป๊ะเจ้าของต้นมะขามพร้อมกับเทพารักษ์ที่ปกปักรักษาต้นไม้ในพื้นที่ ในพิธีนี้ชาวบ้านก็ได้นำธูปมงคลมาจุดเลขขอเบอร์ขอโชคลาภ ปรากฏว่าเลขที่ออกมาตรงกับวันที่ “ตาแป๊ะ” เสียชีวิต(14 มกราคม) เลขธูปมงคล 413
สนับสนุนโดย
UFABET | UFA365 | UFABET เข้าสู่ระบบ | UFABET เว็บตรง | สล็อต เว็บตรง | SLOTXO | สล็อต | PG SLOT | สล็อต XO | สล็อต | JOKER123 | สล็อต เว็บตรง | สล็อตโจ๊กเกอร์ | Gclub | จีคลับ | Sbobet | Sbobet9