Saturday, 20 April 2024

รู้หรือไม่ว่า!! Holy Basil “กะเพราที่เรากินคือ” พืชศักดิ์สิทธิ์ของชาวอินเดียที่ปลูกเอาไว้บูชา!??

รู้หรือไม่ว่า!! กะเพราที่เรากินคือ พืชศักดิ์สิทธิ์ของชาวอินเดียที่ปลูกเอาไว้บูชา Holy Basil  เมนูอาหารจานเด็ดจากใบกระเพราของประเทศไทย แต่ถ้าว่ามันคือสิ่งที่ต่างชาติอย่างชาวอินเดียนั้นปลูกเอาไว้บูชาและไม่นำมารับประทาน!!?? สำหรับวันนี้เราจะพาทุกคนไปดูความเชื่อเรื่องลึกลับที่หลายคนนั้นอาจไม่เข้าใจว่ามันเป็นเพราะเหตุใด

สล็อต xo Slotxo

กะเพราที่เรากินคือ พืชศักดิ์สิทธิ์ของชาวอินเดียที่ปลูกเอาไว้บูชา Holy Basil

กะเพราที่เรากินคือ-พืชศักดิ์สิทธิ์

ทุกคนชอบกินผัดกะเพรากันไหมเอ่ยย?? แน่นอนว่าคนไทยมากกว่าครึ่งประเทศชื่นชอบเมนูผัดกะเพราราดข้าว สำหรับคนไทยการรับประทานเมนูผัดกระเพราราดข้าวนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ถ้าบอกว่าให้เอาใบกระเพรามาบูชาละ!!แปลกไหม!?? ถ้าทุกคนบอกว่าแปลกนั้นต้องดูห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะว่าในวันนี้เรามีเรื่องราวสุดแปลกที่ค่อยข้างลึกลับของชาวอินเดียและต้นกะเพรามาให้ดู และความแปลกที่ว่านี้ก็คือ ชาวอินเดียนั้นเชื่อว่าต้นกระเพราใบหอมๆอร่อยๆที่คนไทยนำมาทำเป็นอาหารนั้นคือ

กะเพราที่เรากินคือ-ที่คนนับถือ

“พืชศักดิ์สิทธิ์” ที่พวกเขานั้นนิยมปลูกเอาไว้ที่วัดและที่บ้านเพื่อบูชาแถมยังมีพิธีรีตองมากมายลึกลับที่ยากจะทำความเข้าให้เรา!!งง!!งวยอีกด้วย แต่ถ้าต้นกำเนิดของกระเพรานั้นมาจากประเทศอินเดียเด้อ ด้วยความที่ต้นกะเพราสามารถอยู่ได้นาน มันเลยเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ชาวอินเดียนั้นนิยมปลูกเอาไว้ตามบ้านเรือน และวัดวาและจุดประสงค์ในการปลูกนั้นก็เอาไว้เพื่อบูชา ชื่อสากลของกะเพราที่พวกเรารู้จักกันดีที่แปลกว่าศักดิ์สิทธิ์นั้นก็คือ Holy Basil ส่วน Tulsi คือชื่อของชาวอินเดีย

Holy Basil ส่วน Tulsi คือชื่อของชาวอินเดีย

ในส่วนเรื่องเล่าสุดลึกลับของกะเพราที่เล่ากันมานั้นมีหลายแนวและหลายเรื่องที่เล่าออกมาคล้ายกันว่า “กะเพราคือร่างอวตารของมเหสีของพระวิษณุหรือพระลักษมี” ขอบอกก่อนเลยว่าพระลักษมีที่ว่านี้ท่านคือหนึ่งในเทพอินเดีย และท่านคือมเหสีของพระวิษณุ ถ้าหากจะให้อธิบายสั้นๆ เรื่องเทพของชาวอินเดียนั้นก็คือเทพสูงสุดในบรรดาเทพมากมายมหาศาลของอินเดียนั้นมีทั้งหมด 3 องค์ดังนี้ 1.พระพรหม เทพผู้สร้างโลก 2.พระวิษณุ เทพผู้ปกปักรักษาโลก 3.พระศิวะ เทพผู้ทำลายโลก

เรื่องเล่าสุดลึกลับของกะเพรา

มาต่อกันที่เรื่องความเชื่อบอกเลยว่าคนอินเดียเชื่อมาก!!ว่ากะเพราคือพืชที่น่าบูชาและน่านับถือหรือเรียกได้ว่ามันศักดิ์สิทธิ์ และที่เป็นเช่นนั้นเป็นเพราะว่ากะเพรานั้นอยู่ข้างกายพระวิษณุมากที่สุดแล้วจากบรรดาหลายๆอย่างที่เรารู้จัก และนั้นเป็นเพราะกะเพราคือร่างอวตารของมเหสีของพระวิษณุนั้นเอง

กะเพราเป็นพืชที่ผู้คนบูชา

ดังนั้นหากจะบอกไปว่ากะเพราเป็นพืชที่ผู้คนบูชาและนับถือเพราะศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในอินเดียนั้นมันก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรมากนั้น เพราะคนอินเดียไม่ได้รับพืชชนิดอื่นให้เป็นตัวแทนของเทพที่บูชาแล้วนอกจากพืชชนิดนี้ มาอธิบายเรื่องเทพกันก่อนเดี่ยวงง!! พระวิษณุชื่อที่คนไทยจะคุ้นหูกันคือชื่อพระนารายณ์ ส่วนร่างอวตารของพระลักษมีก็คือนางสีดา และถ้านำมาเปรียบเทียบกับ “กะเพรา” มันคือเป็นร่างอวตารของชายาของเทพสูงสุด ก็เท่ากับว่ามีสถานะเทียบเคียงนางสีดาได้เลย ตามความเชื่อของอินเดียนะ จากความเชื่อที่เรานำมาให้ดูนั้นทำให้ผู้คนที่นั้นเชื่อและเคารพกะเพรามากๆ แถมว่ายังนิยมปลูกเอาไว้บูชาที่บ้านและวัดและแหล่งที่มีพระวิษณุตั้งอยู่ให้ผู้คนบูชาเคารพนับถือ ส่วนความเชื่อของผู้คนเหล่านั้นเชื่อไม่ให้นำเอาน้ำที่ไม่สะอาด

กะเพรา” มันคือเป็นร่างอวตารของชายา

หรืออะไรก็ตามที่ไม่สะอาดไปรดหรือไปแตะต้อง และห้ามตัดกิ่งตัดก้านเด็ดใบใดๆทั้งสิ้นหรือแม้กระทั้งถอดถอนต้นกะเพราเด็ดขาด ต้องปล่อยให้แห้งตายไปเองตามธรรมชาติเท่านั้น และต้นกะเพราที่แห้งตายตายบางครั้งก็มีคนนำมาทำเป็นเครื่องบูชา และนี้ก็คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกหนึ่งอย่างซึ่งมันเทียบเท่ากับวัวที่พวกเขานั้นเคารพและนับถือเลยละ และนี้คือสาเหตุที่เราไม่เคยเห็นใบกะเพราอยู่ในเมนูอาหารของประเทศอินเดีย ถึงแม้ว่าจะเป็นเมนูที่ทำด้วยเครื่องเทศเผ็ดร้อนก็ตาม

กะเพราที่เรากินคือ-เครื่องเทศเผ็ดร้อน

เมื่อพูดถึงกะเพราและประเทศไทยกะเพรานั้นเข้ามาในประเทศไทยได้อย่างไรนั้นก็ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนให้เราได้ทราบ แต่ถ้าว่ามีบันทึกให้เราทราบได้ว่ามีการรับประทานกะเพรามาตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 19 ส่วนเมนูยอดนิยมในสมัยก่อนนั้นคือเมนูแกง ส่วนสมัยนี้นั้นก็คงไม่ต้องบอกว่ามันคือเมนูอะไรหรือจะให้บอกก็คือเมนู “ผัดกะเพรา” และเมนูนี้มีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบแน่ชัดอีกเช่นเคน ถึงแม้ว่าทุกวันนี้ยังไม่อาจสรุปได้ชัดเจนว่ามันมีความเป็นมาแบบไหน นั้นอาจเป็นเพราะว่าสังคมไทยไม่ได้มีการบันทึกอะไรละเอียดขนาดที่สามารถตอบคำถามในความเชื่อหลายๆอย่างที่คนสงสัยนี้ได้