Friday, 26 April 2024

ความเชื่อเรื่อง “อีกา” ที่คนสมัยก่อนบอกว่า “กามาบอกข่าว” ห้ามไม่ให้ไล่จริงหรือไม่!?

เรื่องลึกลับ!! ความเชื่อเรื่อง อีกา ที่คนสมัยก่อนเชื่อกันมาว่า “กา” มันมาบอกข่าวห้ามไม่ให้ไล่มันไปให้บอกว่า “ถ้ามาบอกข่าวดีบอกไป แต่ถ้ามาบอกข่าวร้ายให้บินหนี” ว่าแต่ความเชื่อเรื่องของอีกาแต่ละพื้นที่นั้นจะเหมือนกันหรือไม่นั้นเดี่ยวตามมารับชมพร้อมกันได้เลยที่ด้านล่างนี้

สล็อต xo Slotxo

ความเชื่อเรื่อง อีกา ที่คนโบราณเชื่อว่า บอกข่าวดีบอกไป บอกข่าวร้ายให้บินหนี

ความเชื่อเรื่อง อีกา ผู้ส่งข่าว

“อีกา” นั้นมันคือสัตว์ที่ส่งเสียงร้องกากาออกมาเวลามันบินหรือไปเกาะอยู่ที่ไหนสักแห่ง มันก็จะถูกคนไล่และบอกให้มันหยุดร้อง แต่ถ้าอีกามันร้องอ้อแอ้อยู่ในลำคอคนโบราณบอกว่ามันกามันมาบอกข่าว อย่าไปไล่อย่าไปบอกให้มันหยุดร้อง คนโบราณเวลาได้ยินเสียงการ้องแบบนี้จะพูดว่า “บอกข่าวดีบอกไป บอกข่าวร้ายบินหนี”

แน่นอนว่าเรื่องราวที่เล่ามาให้ฟังนั้นมันเป็นเรื่องความเชื่อเรื่องกาของคนบางพื้นที่ ซึ่งแต่ละพื้นที่แต่ละวัฒนธรรมความเชื่อเรื่องพวกกนี้ก็จะแตกต่างกันออกไป อย่างเช่นความเชื่อที่เรานำมาให้ดูในวันนี้ ที่เชื่อเรื่องอของ “อีกา” ไม่เหมือนกันบ้างก็บอกว่าดีบ้างก็บอกว่าไม่ดีว่าแต่จะมีอะไรบ้างเดี่ยวตามมาดูพร้อมกันได้เลย

บอกข่าวดีบอกไป บอกข่าวร้ายให้บินหนี

1.ชาวไทยอัสสัมเชื่อว่าถ้าหากว่าอีการ้องนั้นแปลว่าจะมีคนมาหา หรืออาจจะมีเรื่องที่ดีและไม่ดีเกิดขึ้น ส่วนเรื่องที่จะเกิดนั้นให้ดูจากทิศทางที่การ้อง ถ้าการ้องอยู่บนหลังคาก็อาจเกิดเรื่องที่ไม่ดี หรือการเดินทางของใครคนใดคนหนึ่งจะเกิดอุปสรรคถ้าการ้องกระชั้นถี่

2.ชาวทมิฬนาเชื่อกันว่ากกานั้นคือพาหนะของพระเสาร์ เป็นตัวแทนของคนตายจึงนิยมแบ่งอาหารให้กากก่อนจะกินหนึ่งกำ เพราะเชื่อกันว่าเป็นการแบ่งอาหารให้คนตายได้กินด้วย พฤติกรรมนี้ชาวบ้านนิยมทำกันในวันเสาร์

3.ชาวอินเดียทางตอนเหนือเชื่อว่าถ้าอีกากินอาหารที่โยนให้แปลว่าคนที่ตายไปแล้วนั้นไปอยู่ในที่ที่ดี และเชื่อมากว่ากานั้นเป็นสัตว์ที่มีอายุยืนยาวไม่ตายเพราะโรคบอกจากเกิดอุบัติเหตุ และถ้าผู้หญิงที่สามีไม่อยู่บ้านหากได้ยินเสียงอีกาหรือเห็นอีกาอยู่หน้าบ้าน แปลว่าสามีของเธอกำลังจะหลับมา เชื่อเหมือนกับไทยอัสสัม ว่า เมื่อการ้องจะมีคนมาหา

อีกา สัตว์ลึกลับ

4.ชาวจีนเชื่อกันว่าอีกานั้นเป็นสัตว์ที่ไม่เป็นมงคล หากได้ยินเสียงการ้องตอนที่จะทำอะไรจะไปไหนให้หยุดทำไปก่อนหรือเลื่อนไปก่อน แต่มีข้อยกเว้นให้ว่าหากเกิน 100 ก้าวถือว่าไม่เป็นไร หรือถ้าดูตามทิศทางของเสียงการ้องแล้วก็ไม่ใช่เรื่องร้ายทั้งหมด เพราะเชื่อกันว่าถ้าอีการ้องจากทิศใต้ตอนเช้าจะได้ของกำนัล หากอีการ้องตอนกลางวันจะเกิดลมพายุหรือฝนตก หากอีการ้องตอนบ่ายจะเกิดเรื่องทะเลาะวิวาท แต่ถ้าอีการ้องจากทิศเหนือ ตอนเช้ามีเรื่องให้ทะเลาะ หากอีการ้องตอนสายจะมีแขกมาหา หากอีการ้องตอนกลางวันจะเสียสัตว์เลี้ยง หากอีการ้องตอนบ่ายของที่หายจะได้คืน หากอีการ้องตอนเย็นคนในบ้านจะป่วยไข้

หากอีการ้องตอนร้องจากทิศตะวันออกในตอนเช้าจะเกิดเรื่องมงคล หากอีการ้องตอนสายจะมีโชคลาภ หากอีการ้องตอนกลางวันจะเกิดเรื่องถ้อยร้อยความ หากอีการ้องตอนกลางวันจะได้ของกำนัล หากอีการ้องตอนต่อไปมิตรสหายจะมาเยี่ยมเยียน ถ้าการ้องมาจากทางทิศตะวันตก ถ้าอีการ้องตอนเช้าจะมีคนมากินข้าวด้วย หากอีการ้องตอนสายจะเกิดเหตุร้าย เวลากลางวันจะได้ของกำนัล หากอีการ้องตอนบ่ายจะมีโชคลาถ หากอีการ้องตอนต่อไปจะมีแขกแปลกหน้ามาหา

ความเชื่อเรื่อง อีกา เรื่องลึกลับของคนโบราณ

5.ความเชื่อเรื่องของอีกาของชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าอีกานั้นช่วยนำทางให้กษัตริย์ญี่ปุ่นที่นำทัพไปทำสงครม ให้หาทางกลับบ้านจนเจอ คนญี่ปุ่นเรียกอีกาว่า “การาสุ” ที่เรียกแบบนี้เพราะเชื่อว่ามันเป็นนกที่นำข่าวไม่ดีมากให้ เชื่อกันว่าถ้ามันไปเกาะอยู่บ้านใครบ้านนั้นจะต้องมีคนตาย เพราะนี่คือเหตุผลที่คนญี่ปุ่นถึงไม่อยากได้ยินเสียงกา

ความเชื่อของชาวญี่ปุ่นเรื่องอีกาก็ไม่ได้ร้ายไปทั้งหมดเพราะว่า พวกเขาเชื่อว่าถ้าอีกามาต้อนตอนเวลา 12.00 น. จะทำให้บ้านมีความสุขความเจริญ และถ้าอีกามาร้องตอนเวลา 18.00 แปลว่าบ้านนั้นจะได้สมบัติล้ำค่า แม้จะมีความเชื่อเรื่องที่ดีแต่เรื่องที่ร้ายนั้นพวกเขาจะเชื่อมากกว่าเชื่อมาจนถึงยุคสมัยนี้

เวลาที่คนญี่ปุ่นต้องการค้นหาความจริงนิยมเขียนรูปของอีกาเอาไว้บนกระดาษสีขาวที่มีชื่อว่า “กยุโอะ” เป็นกระดาษที่เยื้อยาว เชื่อกันว่ามันคือกระดาษจับคนที่ทำผิดได้ เวลาจะสาบานว่าสิ่งคนๆนั้นพูดเป็นจริง จะต้องเผากระดาษแล้วกลืนขี้เถ้านั่นไป ถ้าใครทำผิดจะไม่กล้ากลืนเพราะเชื่อว่าถ้าคนผิดกลืนเข้าไปจะอ้วกออกมาเป็นเลือด

ความเชื่อเรื่องสีดำของอีกา

อีกหนึ่งความเชื่อที่สยองของคนญี่ปุ่นนั้นก็คือมีชามูไรคนหนึ่งทำกระป๋าเงินตกที่ร้านค้าแห่งหนึ่ง แล้วเจ้าของร้านเก็บได้แต่ไม่ยอมคืนให้กับซามูไรพร้อมบอกว่าไม่รู้ไม่เห็น ซามูไรเลยไปจับอีกามาตัวหนึ่งแล้วบอกเจ้าของร้านว่าคอยดูว่าร้านจะเป็นอย่างไรในอนาคต แล้วเขาก็เอาลูกตาของอีกาออกมาโยนใส่เจ้าของร้าน ในเวลาต่อมาซามูไรคนนั้นได้ฆ่าตัวตาย ส่วนทางเจ้าของร้านนั้นก็ตาบอดต้องไปเป็นขอทาน เพราะร้านค้าของเขานั้นเจ้งไปต่อไม่ได้ คนญี่ปุ่นเลยเชื่อว่าเป็นฤทธิ์เดชของอีกาเลยทำให้พวกเขาทั้งสองคนนั้นตกต่ำแบบนี้

6.ความเชื่อเรื่องของอีกาของคนไทยนั้นเชื่อกันว่าอีกาเป็นรางบอกเหตุ เพราะครั้งที่ไทยจะเสียกรุงครั้งที่ 2 ได้มีอีกาหนึ่งตัวมาส่งเสียงร้องแล้วตกลงมาเสียบอยู่บนยอดพระเจดีน์วัดราชบูรณะตายจนมีคำเปรียบเทียบว่า “จงเอาเยี่ยงอย่างกา แต่อย่าเอาอย่างกา” ที่มีความหมายว่ากาเป็นสัตว์ที่รอบคอบและเอื้อเฟื่อเผื่อแผ่คนอื่นให้เอาเป็นแบบอย่าง แต่อย่าไปลักกินขโมยกินของคนอื่นเหมือนกา ซึ่งสรุปง่ายๆก็คือให้เอาอีกาเป็นแบบอย่างในเรื่องที่ดี แลละอย่าไปทำตามสิ่งที่ไม่ดีตามมัน

อีกาสัตว์ที่เชื่อว่าเป็นรางร้าย

ความเชื่อเรื่องสีดำของอีกา

นิทานในตำนานกรีก โรมันนั้นเล่ากันปากต่อปากมาว่าในอดีตอีกานั้นมีสีขาว และครั้งหนึ่งในอดีตอีกานั้นได้คาบข่าวมาบอก “อพอลโล่” รู้ว่าฉายาของพระองค์ที่มีชื่อว่า “โคโรนิส” ว่านางนั้นคบชู้ ส่งผลให้ “อพอลโล่” นั้นโมโหและโกรธมากๆ เลยพาลไปสาปให้อีกากบายเป็นสีดำ

นิทานพื้นเมืองอินโดนีเซียบอกว่าในสมัยโบราณอีกามีขนสีขาวสวยและมีหน้าที่ส่งข่าวสารให้กับเทพเจ้า ในวันหนึ่งเทพเจ้าแห่งสายฝนนั้นได้ใช้อีกาไปส่งสารและของขวัญให้คนรัก แต่กานั้นมันมัวแต่ไปกินอาหารเลยมีคนแอบมาเปลี่ยนข้อความและของขขวัญที่ส่งให้คนรักของเทพเจ้า

จนทำให้หญิงสาวนั้นโมโหหนักมากเลยมีคนเข้าไปขอความรักจากหญิงสาวคนนั้นแทน พอเทพเจ้าแห่งสายฝนไปขอหญิงสาวแต่งงานแต่ไม่สำเร็จเลยบันดาลให้น้ำท่วมจนศัตรูคู่แข่งจมน้ำตาย เมื่อเทพเจ้าได้ทราบความจริงจากปากของอีกกาจึงสาปกาเป็นสีดำ