Sunday, 19 May 2024

ประตูเอเลียนเกิดจาก”การกัดเซาะตามธรรมชาติ” นักธรณีวิทยาดาวอังคารชี้ไม่ได้เกิดจากเรื่องลึกลับแต่อย่างใด

ประตูเอเลียนเกิดจาก”การกัดเซาะตามธรรมชาติ” นักธรณีวิทยาดาวอังคารชี้ไม่ได้เกิดจากเรื่องลึกลับจากฝีมือมนุษย์หรือเอเลียนแต่อย่างใด เพราะล่าสุดผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาออกมาอธิบายเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าเกิดจากการ “กัดเซาะตามธรรมชาติ” ไม่ใช่ประตูสู่มิติที่สามแต่อย่างใด

สล็อต xo Slotxo

ประตูเอเลียนเกิดจาก การกัดเซาะตามธรรมชาติ!นักธรณีวิทยาดาวอังคารชี้ไม่ได้เกิดจากเรื่องลึกลับ

ประตูเอเลียนเกิดจาก-การกัดเซาะตามธรรมชาติ

หลังจากองค์การนาซาได้ทำการเปิดเผยรูปภาพถ่ายทที่หลายๆคนมองว่าเป็นเรื่องลึกลับของภูมิประเทศบนดาวอังคาร ส่วนภาพถ่ายที่เราได้เห็นที่ออกมานั้นได้มาจาก หุ่นยนต์ตระเวนสำรวจคิวริออซิตี (Curiosity Rover) ที่ได้บันทึกภาพช่องหิน ที่ดูคล้ายกับประตูทางเข้าสถานที่อันลึกลับซ่อนอยู่เอาไว้นั้น และผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาของดาวอังคารนั้นได้ออกมาบอกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องลึกลับแต่มันเกิดมาจาก “ร่องรอยการกัดเซาะตามธรรมชาติ” ซึ่งมันไม่ใช่ประตูลึกลับที่ถูกทำขึ้นจากฝีมือของคนหรือเอเลียนแต่อย่างใด

นีล ฮอดจ์กินส์ นักธรณีวิทยาชาวอังกฤษ รองประธานบริษัทวิจัยทางธรณีศาสตร์ Searcher

นักธรณีวิทยาดาวอังคารชี้ไม่ได้เกิดจากเรื่องลึกลับ

ผู้ที่ทำการศึกษาสภาพภูมิประเทศของดาวอังคารมานานแสนนานได้บอกว่า “ช่องหินที่ถูกเก็บรูปภาพมาได้นั้นเป็นรูปสี่เหลี่ยม มีลักษณะเหมือนถูกตัดหรือขุดเจาะด้วยมือ ที่น่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาทำขึ้นมา แต่สำหรับเขาแล้วมองดูแล้วว่ามันดูเหมือนร่องรอยการกัดเซาะจากลมหรือน้ำตามธรรมชาติมากกว่า

ดร. นิโคลาส แมนโกลด์ นักธรณีวิทยาดาวเคราะห์จากมหาวิทยาลัยน็องต์ของฝรั่งเศส

ระบุว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างในภาพที่ถูกถ่ายออกมานั้นบ่งชี้ว่ามันไม่ใช่ “ประตูเอเลียน” อย่างที่หลายๆคนนั้นเข้าใจแน่นอน สิ่งแรกที่เห็นคือ ขนาดที่ประเมินแล้วน่าจะมีความสูงไม่ถึง 1 เมตร บวกกับแสงและเงาที่ปรากฏออกมาทำให้ดูเสมือนว่า เป็นช่องลึกสามารถเปิดเข้าไปด้านในได้ ทั้งๆที่จริงแล้วเป็นเพียงช่องวางตื้น ๆ ในเนื้อหินเท่านั้น

ฮอดจ์กินส์บอกว่า

ประตูเอเลียนประหลาด

เนินเขาอยู่ที่ช่องหินมีลักษณะคล้ายประตูตั้งอยู่ และจะสังเกตเห็นได้ว่ามีชั้นหินหลายๆอย่าง ทับถมของดินและทรายที่ตกเป็นตะกอนก้นแม่น้ำ หรืออาจจะเป็นเนินทรายที่ถูกลมพัดมาทับถมกันมาประมาณ 4,000 ล้านปีก่อน ส่วนของทรายที่แข็งกว่านั้นจะมีลักษณะยื่นออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัด และบริเวณใกล้เคียงนั้นยังเห็นได้ว่ามี “รอยแตก” ในแนวตั้งหลายๆรอย จากการสังเกตนั้นพบว่ารอยแตกหลายๆอย่างนั้นส่งผลให้เกิด “คล้ายกับมุมเหลี่ยม” ซึ่งจากในภาพยังคงมีชิ้นส่วนของหินที่แตกหลุดออกมาให้เรานั้นนมองเห็นได้อยู่ ทีมนักวิจัยบอกว่านี้คือ “เรื่องธรรมชาติ” สามารถพบได้ตามพื้นที่แห้งแล้งหลายแห่งทั่วโลก

ดร. แมนโกลด์กล่าวสรุป

แผ่นดินไหวน่าจะมีผลต่อการกัดเสาะจนชั้นหินหลุดร่วง เมื่อเทียบกับแรงเค้นที่กระทำต่อเนื้อหิน และนี้อาจจะเป็นเพราะจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิตามฤดูกาลบนดาวอังคาร ซึ่งประตูปริศนาที่หลายคนนั้นคิดว่าคือประตูลึกลับนี้ เป็นภาพที่บันทึกได้จากภูเขาชาร์ป (Mount Sharp) ภายในแอ่งหลุมเกล (Gale Crater) ซึ่งเจ้าหุ่นยนต์สำรวจคิวริออซิตีนั้นสามารถภ่ายรูปภาพของมันได้ ในช่วงที่มันกำลังไต่ระดับขึ้นเขาสูง 5,500 เมตร โดยตั้งอยู่ตรงส่วนเนินเขาชันที่เรียกว่า Greenheugh Pediment ที่มีพื้นผิวขรุขระคล้ายหลังจระเข้