Friday, 22 November 2024

ทำความรู้จัก!! เจียงซือสัมภเวสีคืนชีพ 僵尸หนึ่งในผีสุดน่ากลัวที่เป็นตำนานความเชื่อของประเทศจีน

ทำความรู้จัก!! เจียงซือสัมภเวสีคืนชีพ 僵尸หนึ่งในผีสุดน่ากลัวที่เป็นตำนานความเชื่อของประเทศจีน ไม่ว่าจะที่ไหนหรือประเทศอะไรก็มีเรื่องลึกลับ เรื่องน่ากลัวเล่าขานต่อกันมาให้เราได้ยินอยู่เสมออย่างเช่นเรื่องผีดิบของประเทศจีน ที่เรารู้จักกันในชื่อผีกองก่อย

สล็อต xo Slotxo

เจียงซือสัมภเวสีคืนชีพ 僵尸หนึ่งในผีสุดน่ากลัวที่เป็นตำนานความเชื่อของประเทศจีน

เจียงซือสัมภเวสีคืนชีพ-สุดหลอน

ถ้าหากให้เราพูดถึงตำนานความเชื่อเรื่องภูตผีปีศาจของประเทศจีน เชื่อว่าต้องมีหลายๆ คนคิดถึงภาพของผีดิบที่มีลักษณะตัวแข็งทื่อ เคลื่อนไหวร่างการด้วยการกระโดดกระดึบๆไปข้างหน้า ด้วยขาสองข้างพร้อมกับยื่นมือไปด้านหน้าทั้งสองข้าง ในขณะพวกมันกำลังกระโดด แถมว่าพวกมันยังชอบแต่งตัวด้วยชุดขุนนางในยุคราชวงศ์ชิง แล้วเจ้าผีตัวที่ว่านั้นมันก็คือผี เจียงซือ (僵尸) ส่วนความหมายของคำนี้คือคำว่า ซากศพ หรือคนไทยเราเรียกว่า ผีดิบ ประเทศไทยของเรานั้นเริ่มรู้จักเจียงซืออย่างจริงจังในช่วงปี 1985 และรู้จักผีชนิดนี้ผ่านภาพยนตร์เรื่องเรื่องผีที่โด่งดังที่สุดเรื่อง ผีกัดอย่ากัดตอบ (僵尸先生 เจียงซือเซียนเซิง) ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้มีให้เราดูทั้งหมด 5 ภาค แต่ถ้าผีดิบในภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง ผีกัดอย่ากัดตอบ ที่เริ่มเข้ามาฉายในประเทศไทยครั้งแรกนั้นกลับไม่ค่อยมีใครรู้จักผีชนิดนี้ในชื่อ “เจียงซือ”

ภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง ผีกัดอย่ากัดตอบ

แต่ถ้าว่าผู้คนนั้นมักเรียกติดปากกันว่า “ผีกองกอย” การเรียกชื่อนี้นั้นอาจจะมาจากการเคลื่อนไหวของผีดิบ และอาจจะมาจากเสียงพากย์เป็นภาษาไทยในภาพยนตร์มักส่งเสียงให้เราได้ยินติดหูว่า ก่อย ก่อย ในขณะที่ผีดิบกำลังกระโดด ดังนั้นคนไทยเราจึงอาจไปเหมารวมเรียกผีดิบประเภทนี้ว่าผีกองกอย ส่วนความจริงบางอย่างนั้นบอกว่าผีกองกอยคือ ผีป่าตามตำนานความเชื่อของประเทศไทย ลาว และรวมไปถึงมาเลเซีย โดยพวกมันนั้นจะมีลักษณะเป็นผีที่มีขาเพียงข้างเดียว เท่านั้นที่สามารถเคลื่อนไหวด้วยการกระโดดดึบๆไปมา แล้วผีตัวนี้นั้นมักปรากฏในวรรณคดี อาทิ พระอภัยมณี เพชรพระอุมา เป็นต้น

เคลื่อนไหวด้วยการกระโดดดึบๆ

ตามความเชื่อของประเทศจีนนั้นบอกมาว่า “เจียงซือ” นั้นคือผีดิบที่มักเข้าไปนอนแอบอยู่ในโลงศพหรือถ้ำช่วงเวลาที่แดดออกหรือที่เราเรียกกันว่าตอนกลางวัน และเจ้าผีดิบพวกนี้นั้นจะเริ่มออกหากินตอนกลางคืนด้วยการดูดเลือดของมนุษย์หรือสัตว์สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ลักษณะของเจ้าเจียงซือนั้นว่ากันว่ามันมีผิวสีขาวซีดแถมยังมีขนยาวเฟื่อ สองสิ่งที่ว่านั้นเกิดขึ้นจากเชื้อราที่เจริญเติบโตในร่างกายของผีดิบ แต่ถ้าเจ้าผีดิบเจียงซื่อ กระโดดข้ามกระสอบข้าว ว่ากันว่ามันจะก้มลงเก็บและนับเมล็ดข้าวทุกเมล็ดที่เจอ และนี้คือวิธีป้องกันเจียงซือไม่ให้เข้าบ้านนั้นก็คือ การโปรยเมล็ดพืชหรือเมล็ดข้าวเอาไว้ตามทางเดินของบ้านและหลังคาบ้าน การกระทำเช่นนี้นั้นทำเพื่อถ่วงเวลาให้เจียงซือนับเมล็ดข้าวจนถึงเช้า

เจียงซือสัมภเวสีคืนชีพ-จะก้มลงเก็บและนับเมล็ดข้าวทุกเมล็ด

ส่วนอีกหนึ่งข้อสันนิษฐานที่น่าสนใจนั้นก็คือ “เจียงซือ” อาจจะมีที่ไปที่มาจากการนำศพคนตายกลับบ้าน หรือที่ผู้คนนิยมเรียกกันว่า การส่งศพพันลี้ (千里行尸 เชียนหลี่สิงซือ) และเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจากกรณีที่มีคนตายนอกพื้นที่ แล้วญาติของคนที่ตายไปแล้วนั้นไม่มีเงิน เพื่อจ่ายค่ายานพาหนะมากมายพอที่จะหารถไปรับศพของญาติกลับมาทำพิธีที่บ้าน ดังนั้นพวกเขาเลยได้ทำการจัดจ้างนักพรตไปนำศพคนตายที่เป็นญาติพี่น้องกลับมาบ้าน ส่วนวิธีการนำศพกับบ้านนั้นจะทำโดยนำทางกลับบ้านมาในเวลากลางคืน แล้วนักพรตก็จะเริ่มทำพิธีเตรียมกระดิ่งเอาไว้สั่น เพื่อให้คนที่อยู่แถมนั้นรู้รับทราบเพราะได้ยินเสียงและรู้ว่ากำลังมีพิธีนี้อยู่แถว ๆ นี้ ที่ต้องทำแบบนั้นเป็นเพราะพิธีนี้ถือว่าเป็นพิธีที่ไม่ดีและเรียกว่า “ลางร้าย”

湘西趕尸 เซียงซีก่านซือ

และอาจโชคร้ายสำหรับผู้พบเห็น คาดว่าพิธีนี้อาจเรียกอีกแบบได้ว่าพิธี ขนศพในเซียงซี (湘西趕尸 เซียงซีก่านซือ)  วิธีการส่งศพนี้ทำด้วยการที่นำศพที่จัดให้อยู่ในท่ายืน ด้วยการสอดลำไม้ไผ่เข้าไปที่ใต้รักแร้พร้อมผูกแขนทั้ง 2 ข้างของศพเอาไว้กับไม้ไผ่ และจะใช้คนจำนวนหนึ่งในการแบกปลายลำไม้ไผ่ส่วนด้านที่อยู่ข้างหน้า และฝั่งคนที่อยู่ด้านหลังฝั่งละ 1 คน และในบางครั้งอาจต้องขนศพมากถึง 2-3 ศพในครั้งเดียว เมื่อเป็นเช่นนั้น ผู้คนที่พบเห็นเลยคิดว่าสิ่งที่เห็นคือเจียงซือหรือผีดิบนั้นเอง