หากมองจากสายตาคนนอก พิธีกรรมบางอย่างในโลกอาจดูแปลก ประหลาด 5 พิธีกรรมสุดแปลก หรือแม้แต่น่าหวาดเสียว แต่สำหรับผู้ที่ปฏิบัติ พิธีกรรมเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องประหลาดเลย หากแต่เป็น “ภาษาแห่งความเชื่อ” ที่ใช้สื่อสารกับชีวิต ความตาย ธรรมชาติ และสิ่งที่มองไม่เห็น
พิธีกรรมไม่ใช่เพียงการกระทำซ้ำ ๆ ตามประเพณี แต่คือผลลัพธ์ของประวัติศาสตร์ ความกลัว ความหวัง และความพยายามของมนุษย์ในการควบคุมสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ บทความนี้จะพาไปสำรวจ 5 พิธีกรรมสุดแปลกจากทั่วโลก ในมุมที่ต่างออกไป — ไม่ใช่แค่ “มันแปลกแค่ไหน” แต่คือ “มนุษย์กำลังเชื่ออะไรอยู่”
เมื่อพิธีกรรมไม่ใช่เรื่องงมงาย แต่คือกลไกทางวัฒนธรรม
ในทุกสังคม พิธีกรรมทำหน้าที่บางอย่างร่วมกัน
- ลดความกลัวต่อสิ่งที่อธิบายไม่ได้
- สร้างความเป็นหนึ่งเดียวในชุมชน
- กำหนดจังหวะสำคัญของชีวิต
พิธีกรรมที่ดูสุดโต่งในบางวัฒนธรรม จึงมักเกิดขึ้นในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต เช่น การเกิด การเป็นผู้ใหญ่ การแต่งงาน หรือความตาย

1. กระโดดข้ามทารก เพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย – สเปน
ที่หมู่บ้าน Castrillo de Murcia มีพิธีกรรมที่อาจทำให้ผู้พบเห็นต้องตั้งคำถามกับสัญชาตญาณความปลอดภัย นั่นคือชายที่แต่งกายเป็นปีศาจ กระโดดข้ามทารกที่เกิดใหม่
ในมุมมองสมัยใหม่ ภาพนี้อาจดูอันตราย แต่สำหรับชุมชนท้องถิ่น นี่คือการ “ป้องกัน” ไม่ใช่การ “เสี่ยง”
สิ่งที่พิธีกรรมนี้สะท้อน มนุษย์มักพยายามปกป้องชีวิตใหม่จากสิ่งที่มองไม่เห็น พิธีกรรมนี้จึงเป็นการทำให้ “ความกลัว” กลายเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ผ่านพิธีที่ชุมชนยอมรับร่วมกัน
2. อยู่กับความตาย เพื่อยืนยันความผูกพัน – มาดากัสการ์
พิธีฟาทาดิฮานา หรือการนำศพบรรพบุรุษขึ้นมาเปลี่ยนผ้าใหม่ อาจดูขัดกับความเข้าใจเรื่องความตายของหลายวัฒนธรรม แต่สำหรับชาวมาลากาซี ความตายไม่ใช่การจากลาแบบถาวร
สิ่งที่พิธีกรรมนี้สะท้อน แทนที่จะตัดขาดจากความตาย พิธีนี้เลือก “อยู่ร่วมกับมัน” ความทรงจำ ความรัก และคำขอพรจากบรรพบุรุษ ถูกมองว่ายังคงมีบทบาทต่อชีวิตของคนเป็น
3. ความเจ็บปวดในฐานะใบเบิกทางสู่ความเป็นผู้ใหญ่ – บราซิล
ในป่าแอมะซอน เด็กหนุ่มชนเผ่าซาเตเร-มาเว ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดระดับรุนแรงจากมดกระสุน เพื่อพิสูจน์ความพร้อมในการเป็นผู้ใหญ่
สิ่งที่พิธีกรรมนี้สะท้อน หลายสังคมเชื่อว่า “ความเป็นผู้ใหญ่” ต้องแลกมาด้วยบางสิ่ง ความเจ็บปวดจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความอดทน ความรับผิดชอบ และการควบคุมตนเอง
4. เพศสภาพและความอุดมสมบูรณ์ ในฐานะเรื่องศักดิ์สิทธิ์ – ญี่ปุ่น
เทศกาลคานามาระ มัตสึริ ที่ Kanayama Shrine มักถูกมองจากภายนอกว่าเป็นเทศกาลหวือหวา แต่แท้จริงแล้ว มีรากฐานจากความกังวลเรื่องสุขภาพ การให้กำเนิด และความอยู่รอดของมนุษย์
สิ่งที่พิธีกรรมนี้สะท้อน สิ่งที่หลายสังคมหลีกเลี่ยงจะพูดถึง กลับถูกยกให้เป็นเรื่องศักดิ์สิทธิ์ในอีกวัฒนธรรมหนึ่ง เพราะเพศและการให้กำเนิดคือหัวใจของการดำรงเผ่าพันธุ์
5. เสี่ยงอันตราย เพื่อรักษาจิตวิญญาณของชุมชน – อังกฤษ
เทศกาลกลิ้งชีสที่ Cooper’s Hill อาจไม่มีความหมายทางศาสนาชัดเจน แต่ยังคงอยู่เพราะมันสร้าง “ตัวตนร่วม” ให้กับชุมชน
สิ่งที่พิธีกรรมนี้สะท้อน ไม่ใช่ทุกพิธีกรรมต้องมีเหตุผลลึกซึ้ง บางครั้ง การทำสิ่งเสี่ยง ๆ ร่วมกัน คือวิธีสร้างความผูกพันและอัตลักษณ์ของคนในพื้นที่
พิธีกรรมสุดแปลก กับคำถามที่มนุษย์ยังตอบไม่ได้
พิธีกรรมเหล่านี้ไม่ได้มีไว้เพื่อให้คนภายนอกเข้าใจ แต่มีไว้เพื่อให้ “คนใน” รู้สึกมั่นคงกับชีวิต ท่ามกลางโลกที่ไม่แน่นอน เมื่อเหตุผลไปไม่ถึง มนุษย์จึงสร้างความหมายผ่านพิธีกรรม ความเชื่อ และนั่นคือสิ่งที่ทำให้วัฒนธรรมของโลกยังคงหลากหลายและมีชีวิต

สรุป เมื่อความแปลก คือกระจกสะท้อนตัวตนของมนุษย์
พิธีกรรมสุดแปลกไม่ใช่เรื่องน่าหัวเราะหรือเรื่องน่ากลัว หากแต่เป็นหลักฐานว่ามนุษย์ทุกที่ต่างพยายามรับมือกับความไม่แน่นอนของชีวิตในแบบของตนเอง การเปิดใจเรียนรู้พิธีกรรมเหล่านี้ คือการทำความเข้าใจมนุษย์ให้ลึกขึ้นอีกขั้น
คุณคิดว่าพิธีกรรมแบบไหน “เข้าใจยากที่สุด” หรือ “น่าสนใจที่สุด” และถ้าคุณต้องสร้างพิธีกรรมหนึ่งขึ้นมาเพื่อชีวิตตัวเอง มันจะเป็นแบบไหน ลองแชร์มุมมองของคุณได้เลย
สนับสนุนโดย
UFABET | UFA365 | UFABET เข้าสู่ระบบ | UFABET เว็บตรง | สล็อต เว็บตรง | SLOTXO | สล็อต | PG SLOT | สล็อต XO | สล็อต | JOKER123 | สล็อต เว็บตรง | สล็อตโจ๊กเกอร์ | Gclub | จีคลับ | Sbobet | Sbobet9






