ครม.เคาะ! เยียวยาประกันสังคม ในวงเงิน 7,500 ล้านบาท จ่ายลูกจ้าง 50% ของค่าจ้าง แถมให้อีก 2,000 บาท ส่วนนายจ้างรับ 3,000 บาทต่อจำนวนของแรงงาน
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้กล่าวหลังการประชุมร่วมกับทีมเศรษฐกิจว่า รัฐบาลได้จัดเตรียมงบประมาณกว่า 7,500 ล้านบาทไว้เพื่อจะเตรียมเยียวยาให้แก่ประชาชนในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศ ศบค.ล่าสุด ในกลุ่มของแรงงาน 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ, นครปฐม, นนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ,และสมุทรสาคร ด้วยมารตราการจ่ายค่าชดเชย 50% จากเหตุสุดวิสัย เป็นระยะเวลาใน 1 เดือน พร้อมยืนยันว่าโครงการคนละครึ่งเฟส 3 พร้อมด้วยโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ จะยังดำเนินการตามปกติเหมือนเดิมตามที่ได้กำหนดไว้ จะไม่มีการเลื่อนโครงการออกไปแต่อย่างใด
ด้านนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ได้กล่าวถึงมาตราการเยียวยาด้านธุรกิจก่อสร้าง ร้านอาหาร ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ที่ได้รับผลกระทบจาก ศบค.ฉบับล่าสุด โดยทางด้านกระทรวงแรงงานจะช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคมด้วยการจ่ายค่าชดเชยให้หลักจากเกิดเหตุสุดวิสัยให้กับลูกจ้าง 50% ของจำนวนฐานเงินเดือน สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท และจะจ่ายเงินชดเชยเพิ่มเติมให้กับลูกจ้างในระบบประกันสังคมเพิ่มอีกจำนวน 2,000 บาทต่อราย เนื่องจากอาจมีบางธุรกิจไม่ได้จ่ายเงินเดือนให้แก่ลูกจ้างในช่วง 1 เดือนนี้ หรือถูกลดเงินเดือน ทางรัฐบาลก็จะจ่ายเงินเพิ่มเติมให้
มาตราการ เยียวยาประกันสังคม ใน 6 จังหวัด
สำหรับทางด้านของผู้ประกอบการนั้น รับบาลจะช่วยเหลือเพิ่มเติมอีกจำนวน 3,000 บาทต่อหัวของลูกจ้างที่อย่ในบริษัทสูงสุดได้ไม่เกิน 200 คน เป็นระยะเวลา 1 เดือน
ส่วนแรงงานที่อยู่นอกระบบประกันสังคมนั้น ด้านเลขาธิการ สศช. ได้ระบุว่าจะแบ่งออกเป็น 2 กรณี โดยกรณีแรกที่ผู้ประกอบการ หรือแรงงานที่ยังไม่อยู่ในระบบประกันสังคมต้องการความช่วยเหลือ จะต้องไปขึ้นทะเบียนเข้าระบบประกันสังคม โดยนายจ้างจะเป็นคนได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลจำนวนเงิน 3,000 บาท ส่วนลูกจ้างที่มีสัยชาติไทยก็จะได้รับเงินเยียวยาจำนวน 2,000 บาท
ในกรณีที่สองที่ผู้ประกอบการไม่สามารถขึ้นทะเบียนในระบบประกันสังคมได้นั้น เนื่องจากไม่มีลูกจ้าง ก็สามารถขึ้นทะเบียนผ่านแปพลิเคชั่นถุงเงินได้ ภายใต้ของโครงการคนละครึ่งเฟส 3 ภายในเวลา 1 เดือน โดยขอความร่วมมือจากธนาคารกรุงไทยในการตรวจสอบข้อมูล ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นผู้ประกอบการธุรกิจในหมวดร้านอาหาร-เครื่องดื่ม ซึ่งจะสามารถได้รับเงินเยียวยาช่วยเหลือจำนวน 3,000 บาท เท่ากับว่าจะใช้งบประมาณจากประกันสังคมจำนวน 3,000 ล้านบาท และจากรัฐบาลอีกจำนวน 4,000 ล้านบาท
สนับสนุนโดย
UFABET | UFA365 | UFABET เข้าสู่ระบบ | UFABET เว็บตรง | สล็อต เว็บตรง | SLOTXO | สล็อต | PG SLOT | สล็อต XO | สล็อต | JOKER123 | สล็อต เว็บตรง | สล็อตโจ๊กเกอร์