เป็นลม ล้มพับคาผ้าเหลือง! พระเจ้าคณะอำเภอพล สวมพีพีอี ทำหน้าที่ท่ามกลางอากาศอบอ้าวสื่อสารดูแลผู้ป่วยติดโควิด

จากการรายงานข่าวล่าสุดเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2564 พระเจ้าคณะอำเภอพล สวมชุดพีพีอีลงพื้นที่ ปฏิบัติหน้าที่เต็มกำลัง เพื่อลงสำรวจสอบถามดูแลความเป็นอยู่ของผู้ติดเชื้อโควิดร่วมถึงกลุ่มเสี่ยงที่กำลังรักษาตัวที่ศูนย์พักคอยโนนแท่นพระ ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ บ้านโนนแต้ ตำบลเพ็กใหญ่ อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น

ทำหน้าเต็มกำลังจนเป็นลม พระเจ้าคณะอำเภอพล ลงพื้นที่ถามไถ่ชาวบ้านที่มารักษาจากการติดเชื้อโควิดที่ศูนย์พักคอยโนนแท่นพระ

กรณี พระมหาสวัสดิ์ สจฺจ วาที พระเจ้าคณะอำเภอพล สวมชุดพีพีอี พร้อมกับสะพายเครื่องขยายเสียงเดินท่ามกลางแดดร้อนอบอ้าว เพื่อเข้าไปสอบถามผู้ป่วยที่อยู่อาศัยในจุดพักคอย เพราะเป็นห่วงกลุ่มเสี่ยงและผู้ติดเชื้อเผื่ออยากจะได้อะไรเพิ่มเติมหรือขาดเหลือสิ่งใดที่ยังได้ไม่ครบ พระมหาสวัสดิ์ ยังได้แนะนำกลุ่มเสี่ยงและผู้ป่วยติดเชื้อถึงการปฏิบัติตนในเบื้องต้นด้วย เมื่อได้สอบถามและให้คำแนะนำเสร็จแล้วจึงจะเดินกลับมายังพื้นที่ควบคุมเพื่อมาฉีดแอลกอฮอล์ใส่ชุดพีพีอีฆ่าเชื้อ แต่ยังไม่ทันจะได้ฉีด พระมหาสวัสดิ์ ได้มีอาการอ่อนแรงเป็นลมนอนลงคาผ้าเหลือง ผู้ติดตามต่างพากันวิ่งมาช่วยประครองและถอดชุดให้ และปฐมพยาบาลให้โดยให้นอนพักลงบนพื้นเสื่อแล้วนำกระดาษลังมาพัดให้ เพิ่มความเย็นและจะได้หายใจได้สะดวกขึ้น

เบื้องต้น พระมหาสวัสดิ์ สจฺจวาที ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอพล และยังร่วมกับทำหน้าที่เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ เมื่ออาการดีขึ้น พระมหาสวัสดิ์ ได้เล่าให้ฟังว่า ตนได้ถูกร้องขอความช่วยเหลือจากทางหน่วยงานราชการ เพื่อจะสร้างให้สำนักสงฆ์ของโนนแท่นพระ เป็นศูนย์พักคอยกลุ่มเสี่ยงและผู้ติดเชื้อโควิดจะได้เข้ามารับการรักษา จัดให้ศูนย์เป็นประจำอำเภออีกแห่ง เนื่องมาจากโรงพยาบาลพลและโรงพยาบาลสนาม มีผู้ป่วยเยอะมากจนมีพื้นที่ไม่พอต่อการรักษา ประกอบกับยังมีชาวอำเภอพลจำนวนมากที่ไปทำงานในพื้นที่เสี่ยงและอยากจะกลับมายังบ้านของตัวเอง พระมหาสวัสดิ์ จึงได้มีคำสั่งให้พระจำนวน 3 รูป ที่จำพรรษาอยู่ที่สำนักสงฆ์ให้หาและย้ายไปจำพรรษาให้สถานที่ในพื้นที่ที่ใกล้เคียงกัน

เมื่อจัดสถานที่เสร็จและเปิดรับผู้ป่วยจากการติดเชื้อโควิดและกลุ่มเสี่ยง ทำให้เกิดปัญหาเพราะศูนย์พักคอยยังไม่ได้มาตรฐานเท่าที่ควร น้ำและไฟฟ้าไม่เพียงพอต่อจำนวนความต้องการของผู้ป่วยที่มีจำนวนมาก อีกทั้งขยะที่เกิดจากผู้อยู่อาศัยก็ยังมีการจัดการที่ยังไม่ถูกต้องและเหมาะสม ทั้งอาจจะเป็นแหล่งกระจายเชื้อโรคเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย พระมหาสวัสดิ์ได้กล่าวแสดงความเป็นห่วงพระที่ตนได้สั่งย้ายไปจำพรรษาในพื้นที่ใกล้กลัวว่าจะติดเชื้อโควิดจากผู้ป่วย จึงไม่ได้ให้เข้ามาช่วยและลงปฏิบัติงานเอง เพื่อชี้แนะการจัดระเบียบใหม่ให้สถานที่ศูนย์พักคอยเป็นสัดเป็นส่วนมากยิ่งขึ้น จุดนั้นจะได้รับเชื้อด้วยจึงลงมา ทั้งนี้ พระมหาสวัสดิ์ ยังได้มี่คำสั่งให้ทำพื้นที่จัดสำหรับควบคุม เพื่อดูแลและคอยห้ามการเข้า-ออก ยังได้จัดตั้งสัญญาณ wifi เพื่อให้บรรดาญาติโยมที่ศูนย์พักคอย ทั้งยังมอบหน้าที่ให้ อสม.ดูแลในเรื่องของอาหรพร้อมจัดหาทำอาหารให้ผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยง จะมีอาหารบริการให้วันละ 3 มื้อ บงประมาณในส่วนนี้เป็นการสนับสนุนมาจากโรงพยาบาลพล

พระมหาสวัสดิ์ กล่าวต่อว่าจะเข้าไปพูดคุยชี้แนะแนวทางชีวิตกับกลุ่มเสี่ยงและผู้ป่วยทุกเช้า-เย็น เพื่อคลายความเครียดลงบ้าง โดยได้จัดการหาสมุดปากกา เพื่อให้ผู้คนที่ศูนย์พักคอยได้เขียนความต้องการลงไปแล้วตนจะได้ให้ทีมงานประชาสัมพันธ์ผ่านเพจกลุ่ม เพื่อเป็นการลดการแพร่กระจายของเชื้อ

การเปิดรับผู้ป่วยมีมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม และผู้ป่วยที่เดินทางมารักษาส่วนใหญ่ก็มาจากโรงพยาบาลสนามและโรงพยาบาลพล ศูนย์พักคอยโนนแท่นพระมีพื้นที่ 100 ไร่ และจะอยู่ห่างจากหมู่บ้านเป็นระยะ 500 เมตร มีถนนตัดผ่านไปถึงหมู่บ้าน ตอนนี้มีผู้อาศัยทั้งหมดประกอบด้วย ผู้ป่วยติดเชื้อโรคโควิด 19 เป็นจำนวนกว่า 40 ราย และในส่วนของกลุ่มเสี่งนั้นประกอบด้วย 16 ราย พระจำพรรษาประจำวัดอีก 3 รูป ทั้งนี้ยังมีอีก 8 จากผู้ป่วยอาการไม่ดีได้ย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลสนามแล้ว