โควิดกลับมาหนัก: 7 วันติดเชื้อกว่า 5 หมื่น กทม.นำโด่งยอดป่วย 7 วัน 53,596 ราย วัยทำงานเสี่ยงสุด

โควิดกลับมาหนัก: 7 วันติดเชื้อกว่า 5 หมื่น กลุ่มวัยทำงานติดสูงสุด กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยสถานการณ์ โควิด-19ล่าสุดในประเทศไทย พบจำนวนผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 7 วันล่าสุด (ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2568) มีผู้ป่วยสะสมสูงถึง 53,596 ราย ซึ่งนับเป็นจำนวนที่พุ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยหลายสัปดาห์ก่อนหน้า สะท้อนถึงการระบาดระลอกใหม่ที่กำลังคืบคลานกลับมาอย่างเงียบ ๆ

📍 กทม.ครองแชมป์ กลุ่มวัยทำงานติดสูงสุด กทม.ครองอันดับ 1 เมืองติดโควิดมากที่สุด

จากรายงานล่าสุด พบว่า กรุงเทพมหานคร ยังเป็นพื้นที่ที่มี ผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุดในประเทศ โดยมียอดผู้ป่วยสะสมเกิน 12,000 รายภายใน 7 วัน คิดเป็นกว่า 20% ของผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ รองลงมาได้แก่ จังหวัดปริมณฑล เช่น สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี และบางจังหวัดในภาคตะวันออกที่มีประชากรหนาแน่น

ปัจจัยหลักคือการที่ กทม. เป็นเมืองศูนย์กลางธุรกิจ มีการเดินทางเข้าออกจำนวนมาก และประชากรแฝงที่ไม่ได้อยู่ในทะเบียนบ้านจำนวนไม่น้อย ทำให้ การควบคุมโรคมีความท้าทายสูง

⚠️ กลุ่มวัยทำงานเสี่ยงสูงสุด ติดเชื้อมากที่สุด!

หนึ่งในประเด็นที่น่ากังวลคือ กลุ่มผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในช่วงวัยทำงานอายุ 25-45 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการเดินทาง ใช้ชีวิตในที่สาธารณะ และอยู่ในแวดวงที่มีการสัมผัสคนจำนวนมาก เช่น พนักงานออฟฟิศ พนักงานบริการ ขนส่ง รวมถึงสายงานอีเวนต์ต่าง ๆ

กว่า 60% ของผู้ป่วยทั้งหมดเป็นผู้ไม่มีอาการหรืออาการน้อย ทำให้หลายคนไม่รู้ว่าตัวเองติดเชื้อ และยังคงใช้ชีวิตตามปกติ จนเป็นพาหะแพร่กระจายเชื้อในวงกว้าง

🏥 โรงพยาบาลเอกชนเริ่มแน่น คลินิก ARI ยอดจองพุ่ง

จากการสำรวจของผู้สื่อข่าว พบว่าโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เริ่มมีผู้ป่วยเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคระบบทางเดินหายใจเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะบริการ คลินิก ARI (Acute Respiratory Infection) หรือคลินิกโรคหวัด-ไข้หวัดใหญ่-โควิด มีจำนวนการจองคิวสูงกว่าช่วงต้นเดือนถึง 3 เท่า

ผู้ป่วยส่วนใหญ่ระบุว่า เริ่มมีอาการคล้ายโควิด เช่น เจ็บคอ มีไข้ ปวดเมื่อย หรือสูญเสียการรับกลิ่น แม้จะไม่ได้ตรวจ ATK แต่ต้องการความมั่นใจจากแพทย์

🧬 สายพันธุ์ใหม่? ความเสี่ยงจาก BA.2.86 และ XBB ยังต้องเฝ้าระวัง

แม้จะไม่มีการประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่ในแวดวงวิชาการเริ่มมีการพูดถึง สายพันธุ์ย่อยของโอมิครอน เช่น BA.2.86 และ XBB ว่าอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้คนติดเชื้อได้ง่ายขึ้นแม้เคยได้รับวัคซีนหรือเคยติดมาแล้ว

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อยู่ระหว่างการเฝ้าระวังการกลายพันธุ์ พร้อมจับตาการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของไวรัสในกลุ่มที่กลับมาป่วยซ้ำ

• 📢 กรมควบคุมโรคแนะ “กลุ่มเสี่ยง” รีบฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น

แม้จะไม่ใช่การระบาดใหญ่ระดับวิกฤต แต่กระทรวงสาธารณสุขเน้นย้ำว่า ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ 60+, ผู้มีโรคประจำตัว, หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อ ควรรีบเข้ารับวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันโดยเร็ว

ขณะนี้มี บริการฉีดวัคซีนโควิดฟรี ที่โรงพยาบาลรัฐและจุดฉีดวัคซีนเฉพาะกิจในเขตชุมชน โดยใช้วัคซีนสูตรใหม่ที่รองรับสายพันธุ์ย่อยโอมิครอนได้ดีกว่าเดิม

💬 บทสรุป กทม.ยอดพุ่งทะลุ 5 หมื่นใน 7 วัน วัยทำงานติดสูงสุดในประเทศ

ข่าวโควิด 19  2568 ยังไม่จบ! แม้จะไม่รุนแรงเหมือนช่วงปี 2564–65 แต่การระบาดแบบเงียบในกลุ่มวัยทำงาน โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังเป็นสัญญาณอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม หากไม่เร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่และเข้มงวดกับมาตรการป้องกันเบื้องต้น อาจทำให้ยอดผู้ป่วยรายสัปดาห์พุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่