สะเทือนใจ: สาวฉีดฟิลเลอร์ราคาถูก หน้าเบี้ยว-ตาปิด โพสต์เตือนเป็นอุทาหรณ์

สะเทือนใจ: สาวฉีดฟิลเลอร์ราคาถูก กำลังกลายเป็นกระแสร้อนแรงบนโลกโซเชียลข่าวเด่นออนไลน์ เมื่อผู้ใช้ TikTok รายหนึ่งได้ โพสต์คลิปใบหน้าที่บวมเป่งข้างเดียวจนตาปิด พร้อมเล่าเหตุการณ์ว่า สาเหตุน่าจะมาจากการ ฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้เกิดอาการอักเสบและบวมผิดปกติ ซึ่งคลิปดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างมาก โดยมีผู้ชมกว่าแสนครั้งภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง

คลิปเตือนสติ! สาวฉีดฟิลเลอร์ราคาถูก ไม่ได้คุณภาพ ทำหน้าบวม-ตาปิดข้างเดียว

ในคลิปจะเห็นได้ชัดว่าใบหน้าของเธอบวมบริเวณแก้มและรอบดวงตาอย่างรุนแรง โดยเฉพาะข้างขวาที่บวมจนตาแทบปิด เจ้าตัวยืนยันว่าเพิ่งไปฉีดฟิลเลอร์จากคลินิกแห่งหนึ่งที่มีโปรโมชั่นราคาถูก ซึ่งอาจไม่ได้ตรวจสอบคุณภาพหรือใบอนุญาตของคลินิกให้ดีพอ นี่จึงกลายเป็นบทเรียนราคาแพงที่เธอไม่อยากให้ใครต้องเจอซ้ำรอย

หน้าบวมเพราะฟิลเลอร์ เสี่ยงมากกว่าที่คิด

เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงปัญหาที่กำลังระบาดในวงการความงามขณะนี้ข่าวเด่น เพราะหลายคนยังเข้าใจผิดว่า “ฟิลเลอร์ฉีดตรงไหนก็ได้” หรือ “ราคาไม่แพงต้องรีบทำ” แต่ในความเป็นจริง ฟิลเลอร์ปลอม หรือของไม่ได้มาตรฐาน อาจทำให้เกิดอาการแพ้ อักเสบ ติดเชื้อ หรือแม้แต่ตาบอด หากฉีดผิดตำแหน่ง

อุทาหรณ์ความงาม! สาวฉีดฟิลเลอร์ราคาถูก หน้าบวมหนัก ตาปิดข้างเดียว

ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังแนะนำว่า การฉีดฟิลเลอร์ควรดำเนินการโดยแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลที่ถูกต้องเท่านั้น และไม่ควรหลงเชื่อโปรโมชั่นราคาถูกหรือโฆษณาชวนเชื่อบนโลกออนไลน์ที่ไม่มีการรับรอง

คำเตือน! อย่าประมาทกับความสวยแบบฉาบฉวย

เหตุการณ์นี้ข่าวเด่นประจำวันกลายเป็น “อุทาหรณ์จากการฉีดฟิลเลอร์” ที่สาว ๆ ต้องระวังเป็นพิเศษ แม้ผลลัพธ์จากการฉีดจะดูสวยเป๊ะในช่วงแรก แต่หากฟิลเลอร์ไม่ได้มาตรฐาน หรือคลินิกไม่ผ่าน อย. อาจเสี่ยงต่อการสูญเสียความงามถาวร หรือร้ายแรงถึงชีวิต

สรุป: ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ต้องรู้อะไรบ้าง?

จากกรณีนี้ หลายคนในคอมเมนต์ต่างร่วมส่งกำลังใจให้สาวเจ้าของคลิป และแชร์ประสบการณ์คล้าย ๆ กัน เพื่อเตือนผู้หญิงคนอื่นไม่ให้พลาดซ้ำรอย #ฉีดฟิลเลอร์บวม #เตือนภัยฟิลเลอร์ปลอม #อุทาหรณ์สาวๆ

1. ตรวจสอบชื่อคลินิก / แพทย์ ว่ามีใบอนุญาตจริงหรือไม่
2. ฟิลเลอร์ต้องมี อย. เท่านั้น อย่าหลงเชื่อของหิ้ว หรือราคาต่ำกว่าทุน
3. สังเกตอาการหลังฉีดทันที หากปวด บวม แดงเกินปกติ ควรรีบพบแพทย์ทันที
4. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ ทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย