Wednesday, 7 May 2025

เกาหลีปะทะไทยในสนามเทนนิส: ดราม่าทุบไม้ -ไม่จับมือ จบที่คำขอโทษ?

เกาหลีปะทะไทยในสนามเทนนิส: ดราม่าทุบไม้ กระแสร้อนแรงในวงการกีฬาเอเชียล่าสุดข่าวทั่วไทย ตกเป็นของ นักเทนนิสชายทีมชาติเกาหลีใต้ หลังเกมการแข่งขันกับนักกีฬาไทยในรายการระดับนานาชาติ โดยจุดแตกหักเกิดขึ้นช่วงท้ายเกมเมื่อเขาแสดงพฤติกรรมที่ถูกวิจารณ์อย่างหนัก ทั้ง ทุบแร็กเก็ตกลางสนาม และปฏิเสธจับมือกับนักกีฬาไทยหลังจบการแข่งขัน ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมที่สำคัญของกีฬาเทนนิส

สล็อต xo Slotxo

ดราม่าทุบไม้ นักเทนนิสเกาหลีเดือดจัดใส่ไทย ก่อนโค้งขอโทษสังคม

นักเทนนิสเกาหลีใต้ ทุบแร็กเก็ต-ไม่จับมือไทย

ภาพเหตุการณ์ถูกบันทึกและแพร่กระจายอย่างรวดเร็วบน TikTok, X (Twitter), Instagram และแพลตฟอร์มข่าวกีฬาทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ #นักเทนนิสเกาหลีใต้ไม่จับมือ และ #ดราม่าเทนนิสเอเชีย ติดเทรนด์อันดับต้น ๆ ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

เสียงวิจารณ์ล้นโซเชียล: พฤติกรรมไม่มืออาชีพหรือแค่อารมณ์ชั่ววูบ?

สรุปดราม่าร้อน นักเทนนิสเกาหลีใต้ (2)

ชาวเน็ตจำนวนมาก โดยเฉพาะฝั่งไทยและเกาหลีใต้ แสดงความคิดเห็นแตกเป็นสองฝั่งทุกทิศทั่วไทย บางคนมองว่า “นักเทนนิสคนนี้แสดงความไม่เป็นมืออาชีพ” และ “ขาดสปิริตนักกีฬา” ขณะที่อีกฝ่ายเชื่อว่าอาจเกิดจากแรงกดดันในการแข่งขันระดับสูง ทำให้เขาหลุดอารมณ์และไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ในขณะนั้น

หลายคอมเมนต์ยังตั้งคำถามถึง “การอบรมจิตวิทยานักกีฬา” และ “มาตรฐานจริยธรรมของทีมชาติ” พร้อมเรียกร้องให้สมาคมเทนนิสเกาหลีออกแถลงการณ์แสดงความรับผิดชอบ

ทีมไทยยังคงเงียบ…แต่น้ำใจคนไทยสะท้อนชัด

แม้ทีมชาติไทยและนักเทนนิสผู้เกี่ยวข้องไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์โดยตรง แต่คลิปช่วงท้ายเกมเผยให้เห็นภาพของนักกีฬาชาวไทยที่ยังยิ้มแย้มและพยายามเดินเข้าไปจับมือ แม้จะไม่ได้รับการตอบกลับ สิ่งนี้ทำให้เกิดกระแสชื่นชมในความสุภาพและความเป็นมืออาชีพของฝั่งไทย

แฮชแท็ก #RespectTeamThailand จึงเริ่มขึ้นในโซเชียลทันเหตุการณ์ข่าวทั่วไทยเพื่อส่งกำลังใจให้ทีมชาติไทย พร้อมเรียกร้องให้วงการกีฬาเอเชียยกระดับมารยาทการแข่งขัน

จุดเปลี่ยน: นักเทนนิสเกาหลีใต้ขอโทษอย่างเป็นทางการ

ภายหลังจากดราม่าร้อนเกือบ 48 ชั่วโมง นักเทนนิสเกาหลีใต้คนดังกล่าวได้ออกแถลงการณ์ผ่านบัญชีโซเชียลของตนเองว่า “ผมขอโทษอย่างจริงใจต่อแฟน ๆ ชาวไทย และนักกีฬาไทย สำหรับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ผมอยู่ในภาวะกดดันสูงและขาดการควบคุมอารมณ์ แต่ไม่มีเจตนาดูหมิ่นหรือไม่เคารพใคร ขอรับผิดชอบต่อการกระทำนี้”

แถลงการณ์ดังกล่าวช่วยบรรเทาความไม่พอใจในระดับหนึ่ง แต่หลายคนยังเรียกร้องให้มีการดำเนินการหรือบทลงโทษจากสมาคมเทนนิสเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก

บทเรียนของวงการกีฬา: อารมณ์นักกีฬาเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม

ดราม่าครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของ “การฝึกจิตใจควบคู่กับทักษะกีฬา” โดยเฉพาะในเวทีระดับนานาชาติที่แรงกดดันมหาศาลอาจทำให้เกิดเหตุการณ์กระทบภาพลักษณ์วงการกีฬาและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้อย่างไม่คาดคิด

โค้ชและผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาการกีฬาจำนวนมากเริ่มออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความจำเป็นในการจัดอบรม “Soft Skill” ด้านอารมณ์ การเคารพคู่แข่ง และการแสดงออกในที่สาธารณะ

เทรนด์มาแรง: กีฬากับการแสดงออกที่โลกจับตามอง

ในยุคที่ทุกเหตุการณ์ถูกบันทึกและกระจายอย่างรวดเร็ว “พฤติกรรมนักกีฬา” กลายเป็นจุดสำคัญที่สามารถส่งผลต่อชื่อเสียงประเทศได้ทันที ดราม่านี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัวของนักเทนนิสคนหนึ่ง แต่กลายเป็นบทเรียนของวงการกีฬาทั้งระบบ

แฟนกีฬาหลายคนหวังว่าจะได้เห็น การพัฒนาเชิงจิตใจของนักกีฬาให้ทันกับยุคสมัย ควบคู่ไปกับการรักษามาตรฐานทางเทคนิค เพราะการเป็นแชมป์ไม่ใช่แค่เรื่องคะแนน…แต่ยังเกี่ยวกับ “ความมีน้ำใจ” และ “เกียรติของกีฬา”

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่