ไม่ปลอดภัยแล้ว! คุณภาพน้ำ แม่น้ำกก รายงานล่าสุดจาก กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนและนักสิ่งแวดล้อมทั่วประเทศ เมื่อผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำในแม่น้ำสายสำคัญของภาคเหนืออย่าง แม่น้ำกก, แม่น้ำสาย, แม่น้ำรวก, และแม่น้ำโขง พบการปนเปื้อนของ “สารหนู” ในระดับที่สูงเกินค่ามาตรฐาน ข่าวทั่วไทย ในทุกจุดตรวจวัด ซึ่งตอกย้ำถึงวิกฤตสิ่งแวดล้อมที่กำลังคุกคามชีวิตผู้คนและระบบนิเวศอย่างรุนแรง และเป็นภัยร้ายที่กำลังคืบคลานเข้าใกล้ชุมชนริมน้ำโดยไม่รู้ตัว

ช็อก! คุณภาพน้ำ แม่น้ำกก รายงานฉบับที่ 8 ชี้ชัด “แม่น้ำทุกสาย” เจอสารพิษถล่ม

รายงานสถานการณ์คุณภาพน้ำดังกล่าวเป็นผลมาจากการเก็บตัวอย่างน้ำครั้งที่ 8 ระหว่างวันที่ 21-25 กรกฎาคม 2568 โดย คพ. ซึ่งจากการตรวจวิเคราะห์อย่างละเอียด พบว่าปริมาณสารหนู (Arsenic) ในแหล่งน้ำทั้งหมดมีค่าเกินกว่าค่ามาตรฐานคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำผิวดินที่กำหนดไว้ไม่เกิน 0.01 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งหมายความว่าน้ำในแม่น้ำเหล่านี้ไม่สามารถนำไปใช้อุปโภคบริโภคได้อย่างปลอดภัยอีกต่อไป

ต้นตอมาจากไหน?: ภัยเงียบจาก “การทำเหมือง” ข้ามพรมแดน

แหล่งกำเนิดหลักของสารหนูที่ปนเปื้อนในแม่น้ำเหล่านี้ถูกวิเคราะห์ว่ามีที่มาจาก การทำเหมืองแร่ ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะในฝั่งประเทศเมียนมา ซึ่งมีพื้นที่ติดกับต้นน้ำของแม่น้ำสายและแม่น้ำกก ข่าวท้องถิ่น เมื่อเกิดฝนตกหรือการชะล้าง หน้าดินและตะกอนที่ปนเปื้อนสารหนูจากแหล่งทำเหมืองก็จะถูกชะล้างลงสู่แม่น้ำ ก่อให้เกิดมลพิษข้ามพรมแดนที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย

ผลกระทบระยะสั้น-ระยะยาว: อันตรายถึงชีวิตที่ซ่อนในน้ำ

การได้รับสารหนูเข้าสู่ร่างกายไม่ว่าจะจากการดื่ม, สัมผัส, หรือบริโภคปลาและสัตว์น้ำที่ปนเปื้อน มีผลกระทบที่ร้ายแรงต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ในระยะสั้นอาจทำให้เกิดอาการทางผิวหนัง, ผื่นคัน, อาเจียน หรือท้องร่วง แต่หากได้รับสะสมเป็นเวลานาน สารหนูจะส่งผลต่อระบบประสาท, ระบบทางเดินอาหาร, และเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งในอวัยวะต่างๆ เช่น มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ, มะเร็งผิวหนัง, และมะเร็งไต

รับมืออย่างไร?: รัฐบาลสั่งตั้งศูนย์เฝ้าระวัง

เพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้ รัฐบาลได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดตั้ง ศูนย์เฝ้าระวังคุณภาพน้ำ ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ เพื่อตรวจสอบคุณภาพน้ำและแจ้งเตือนประชาชนแบบทันที นอกจากนี้ยังมีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศเมียนมาเพื่อเจรจาหาแนวทางควบคุมและแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุอย่างยั่งยืน

ภัยร้ายที่ไม่ควรมองข้าม!

การค้นพบสารหนูปนเปื้อนในแม่น้ำสายหลักของภาคเหนือเป็นสัญญาณอันตรายที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม เพราะไม่ใช่แค่เรื่องของสิ่งแวดล้อม แต่คือภัยคุกคามต่อสุขภาพและชีวิตของประชาชนอย่างแท้จริง การร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ, องค์กรสิ่งแวดล้อม, และประชาชนในการเฝ้าระวังและกดดันให้มีการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง ทันเหตุการณ์ข่าวทั่วไทย ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยฟื้นฟูแม่น้ำให้กลับคืนสู่สภาพที่ปลอดภัย และปกป้องชีวิตของพวกเราทุกคนจากภัยร้ายที่มองไม่เห็น

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมสดใหม่ทุกวันได้ที่นี่