ตุ๊กตาผีญี่ปุ่น 3 แบบ ที่หลอนจนแอนนาเบลยังต้องถอย

ตุ๊กตาผีญี่ปุ่น ไม่ใช่แค่ของเล่นหรือของประดับ แต่ในความเชื่อของญี่ปุ่น “ตุ๊กตา” สามารถเป็นร่างจำลองของมนุษย์ ที่รับพลังงานหรือจิตวิญญาณเข้ามาสิงสู่ได้ และบางครั้งก็กลายเป็น “ตุ๊กตาต้องสาป” (Cursed Dolls) ที่มาพร้อมคำสาป ความแค้น และปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ

ญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องความเชื่อและตำนานลึกลับเกี่ยวกับตุ๊กตามาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ตุ๊กตาที่สร้างขึ้นเพื่อ “รับเคราะห์แทนมนุษย์” ไปจนถึง “ตุ๊กตาสาปแช่ง” ที่ทำเพื่อส่งต่อความอาฆาตพยาบาทให้ศัตรู วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ 3 ตุ๊กตาต้องสาปชื่อดังของญี่ปุ่น ที่น่ากลัวจน “แอนนาเบล” ยังต้องหลบทาง

ตำนานตุ๊กตาในวัฒนธรรมญี่ปุ่น : ความงามที่แฝงความสยอง

ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่า “สิ่งที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์” สามารถเป็นที่อยู่ของวิญญาณได้ เมื่อคนเราผูกพันหรือรักตุ๊กตามาก ๆ พลังของอารมณ์และความคิดจะถูกส่งต่อเข้าไปในตุ๊กตานั้น

ในอดีต ตุ๊กตาญี่ปุ่นถูกใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น

• ตุ๊กตาฟาง (Wara Ningyou) ใช้สาปแช่งคน

• ตุ๊กตาลอยเคราะห์ (นากาชิบินะ) ใช้รับเคราะห์แทนมนุษย์

• ตุ๊กตาอิจิมัทสึ (Ichimatsu Ningyou) ใช้เป็นเครื่องออกเรือนของเจ้าสาว

แค่การมี “ใบหน้าเหมือนมนุษย์” ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนรู้สึกไม่สบายใจ — จนเกิดปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาที่เรียกว่า “Uncanny Valley” หรือ “ความกลัวสิ่งที่เหมือนมนุษย์แต่ไม่ใช่มนุษย์” นั่นเอง

3 ตุ๊กตาต้องสาปของญี่ปุ่น ที่น่ากลัวที่สุดในตำนาน

1. ตุ๊กตาโอคิคุ (Okiku Doll) – ผมยาวได้จริง ราวกับมีชีวิต

หนึ่งใน ตำนาน ตุ๊กตาต้องสาปที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่นคือ ตุ๊กตาโอคิคุ เรื่องนี้เกิดขึ้นในปีไทโชที่ 7 เด็กหญิงชื่อ ซุซุกิ คิคุโกะ ซื้อหรือตุ๊กตาไว้เล่น แต่ไม่นานเธอก็เสียชีวิตกะทันหัน ครอบครัวจึงเก็บตุ๊กตาไว้เพื่อระลึกถึงเธอ

เวลาผ่านไป หลายปีต่อมา คนในบ้านสังเกตว่า ผมของตุ๊กตายาวขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งที่ไม่ได้มีใครตัดหรือแต่งทรงให้เลย สุดท้ายตุ๊กตาโอคิคุจึงถูกยกไปไว้ที่ วัดโยโรซุเน็น (Yorozu Nen) จังหวัดฮอกไกโด เพื่อให้พระช่วยดูแลและทำพิธีสวดให้ทุกปี

👉 ในเชิงวิทยาศาสตร์ มีการอธิบายว่าเส้นผมของตุ๊กตาอาจดูยาวขึ้น เพราะการฝังเส้นผมในหนังศีรษะแบบตัว U ทำให้มันค่อย ๆ โผล่ออกมาเมื่อเวลาผ่านไป แต่สำหรับคนญี่ปุ่นจำนวนมาก พวกเขายังคงเชื่อว่าโอคิคุนั้น “มีวิญญาณของเด็กหญิงคิคุโกะสิงอยู่จริง ๆ”

2. ตุ๊กตาฟาง (Wara Ningyou) – เครื่องมือสาปแช่งยุคเอโดะ

ตุ๊กตาฟางเป็นสัญลักษณ์ของ “คำสาปและการอาฆาต” ในญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยโบราณ ถูกใช้ในพิธีกรรมที่เรียกว่า อุชิโนะโคคุไมริ (Ushi no Koku Mairi) หรือพิธีสาปแช่งกลางดึก

พิธีนี้ต้องทำติดต่อกันหลายคืน และในคืนที่ 7 จึงจะสำเร็จ โดยผู้ประกอบพิธีจะ

1. ปั้นตุ๊กตาฟางแทนคนที่ต้องการสาป

2. เขียนชื่อเหยื่อใส่กระดาษแล้วสอดเข้าไปในตุ๊กตา

3. ใช้ “ตะปูเหล็กยาว 5 ซุน (ราว 15 ซม.)” ตอกตุ๊กตาเข้ากับต้นไม้ในศาลเจ้าเวลา ตี 2

ตี 2 ของญี่ปุ่นในสมัยก่อนถือเป็น “ยามอุชิ” ช่วงเวลาที่โลกมนุษย์กับโลกวิญญาณเชื่อมต่อกัน หากพิธีสำเร็จ คนที่ถูกสาปจะล้มป่วยหรือเสียชีวิต

แต่หากมีใครเห็นในระหว่างทำพิธี คำสาปจะถูกยกเลิกทันที เพราะถือว่า “ความลับถูกเปิดเผย”

🩸 ทุกวันนี้ ตุ๊กตาฟางในญี่ปุ่นบางแห่งยังถูกพบตามศาลเจ้า ซึ่งถือเป็นของอัปมงคลและต้องทำพิธีปลดคำสาปโดยพระเท่านั้น

3. ตุ๊กตามีชีวิต (Iki Ningyou) – เมื่อหุ่นเชิดถูกวิญญาณเข้าสิง

อีกหนึ่งตำนานสุดหลอนมาจากประสบการณ์จริงของนักแสดงชื่อ อินากาวะ จุนจิ ที่เล่าว่าเขาเคยเผชิญกับ “ตุ๊กตาที่มีชีวิต” เรื่องเล่าระบุว่า นักเชิดหุ่นชื่อ มาเอโนะ ฮิโรชิ ได้ตุ๊กตาตัวใหม่มาใช้ในการแสดงละครเวที แต่หลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดต่อเนื่อง — ช่างทำตุ๊กตาหายสาบสูญ บ้านนักเขียนบทถูกไฟไหม้ และลูกทีมหลายคนเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ

เมื่อคนทรงมองตุ๊กตานั้น ก็กล่าวว่า “ตุ๊กตาตัวนี้มีชีวิต มันถูกความเคียดแค้นของผู้หญิงมากมายสิงสู่อยู่” ทำให้คนทั้งวงการถึงกับขนหัวลุก ในภาษาญี่ปุ่น “Iki Ningyou” แปลว่า “ตุ๊กตาที่มีชีวิต” ซึ่งแต่เดิมเป็นเพียงหุ่นจำลองในพิธี แต่เมื่อมีเหตุลึกลับเกิดขึ้น ผู้คนจึงเชื่อว่ามันกลายเป็นสิ่งมีชีวิตไปแล้ว

ตุ๊กตาสาปแช่ง ทำได้จริงไหม?

ในตำราญี่ปุ่นโบราณมีขั้นตอน “การสร้างตุ๊กตาสาปแช่ง” เพื่อใช้แทนคนที่ต้องการลงโทษ ได้แก่

1. ผ่าท้องตุ๊กตายัดนุ่น

2. ใส่ของเน่าและกระดาษที่เขียนชื่อเหยื่อ

3. เย็บปิด แล้วทิ้งไว้ 30 วันเพื่อรอให้วิญญาณเข้าสิง

4. จากนั้นสามารถ “สาป” โดยการแทง ตัด หรือทำลายตุ๊กตา

เชื่อกันว่าสิ่งที่ทำกับตุ๊กตาจะเกิดขึ้นกับคนที่ถูกสาป — แต่แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ สิ่งสำคัญคือ ความเชื่อและเจตนา หากทำด้วยความแค้น ก็อาจกลายเป็นพลังลบที่ย้อนกลับมาทำร้ายตนเองได้

ตุ๊กตากับจิตวิญญาณในมุมมองญี่ปุ่น

ชาวญี่ปุ่นให้ความเคารพต่อ “สิ่งของที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์” เพราะเชื่อว่ามีจิตวิญญาณสิงสู่ เช่นเดียวกับพิธี “นิงเกียวคุโย” (Ningyo Kuyo) หรือพิธี “เผาตุ๊กตา” เพื่อส่งวิญญาณคืนสู่ธรรมชาติ แม้ตุ๊กตาบางตัวจะดูน่ากลัว แต่แท้จริงแล้วมันเป็นเพียงภาพสะท้อนของ “ความรู้สึก” ที่มนุษย์ส่งให้สิ่งของเหล่านั้น

สรุป: ตุ๊กตาเซ่นผีญี่ปุ่น คือกระจกสะท้อนความเชื่อของมนุษย์

ไม่ว่าจะเป็น ตุ๊กตาโอคิคุที่ผมยาวได้, ตุ๊กตาฟางในพิธีสาปแช่ง, หรือ ตุ๊กตามีชีวิต iki ningyou ทุกเรื่องล้วนสะท้อนให้เห็นว่า คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับจิตวิญญาณและพลังลึกลับของสิ่งของมากเพียงใด ตุ๊กตาอาจเป็นแค่ของตกแต่ง แต่เมื่อผสมความเชื่อเข้ากับอารมณ์ ความรัก หรือความแค้น มันก็สามารถกลายเป็นสิ่งที่ “มีชีวิต” ได้ในจิตใจของมนุษย์เอง ถ้าคุณชอบเรื่องลึกลับแบบนี้ อย่าลืมแชร์บทความนี้ให้เพื่อน ๆ ที่ชอบเรื่องผีญี่ปุ่นได้อ่านกัน แล้วคุณล่ะ…กล้าเก็บตุ๊กตาไว้ข้างเตียงไหม?