Tuesday, 4 November 2025

โรคซึมเศร้า (Depression) ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม อาการ สาเหตุ และแนวทางการรักษา

04 Nov 2025
205

โรคซึมเศร้า (Depression) เป็นภาวะความผิดปกติของอารมณ์ที่ส่งผลกระทบทั้งต่อ ความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรม ของผู้ป่วย ทำให้รู้สึกเศร้าหมอง เฉยชา ไม่สนใจสิ่งรอบตัว และขาดแรงจูงใจในการดำเนินชีวิต ผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้ามักรู้สึกหมดหวัง ไร้ค่า หรือมองไม่เห็นคุณค่าของชีวิต ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน การเรียน และความสัมพันธ์กัผู้อื่น ภาวะนี้ ไม่ใช่แค่ความเศร้าชั่วคราวหรืออารมณ์ไม่ดีทั่วไป แต่เป็นโรคทางจิตเวชที่ควรได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง เช่น การใช้ยาและจิตบำบัด ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้

สล็อต xo Slotxo

อาการของโรคซึมเศร้า

อาการของโรคซึมเศร้ามักเกิดขึ้นเป็นระลอก และอาจกลับมาได้อีกในอนาคต อาการสำคัญที่พบบ่อย ได้แก่

  • รู้สึกเศร้า ว่างเปล่า หรืออยากร้องไห้อย่างไม่มีสาเหตุ 
  • สิ้นหวัง มองโลกในแง่ร้าย 
  • หงุดหงิดง่าย หรือโกรธกับเรื่องเล็กน้อย 
  • หมดความสนใจในสิ่งที่เคยชอบ เช่น กีฬา งานอดิเรก หรือเพศสัมพันธ์ 
  • นอนไม่หลับ หรือนอนมากผิดปกติ 
  • เหนื่อยล้า ไม่มีแรง ขาดความกระตือรือร้น 
  • เบื่ออาหาร น้ำหนักลด หรือกินมากเกินไป 
  • รู้สึกไร้ค่า โทษตัวเอง หมกมุ่นกับความล้มเหลวในอดีต 
  • สมาธิสั้น ความจำแย่ ตัดสินใจลำบาก 
  • คิดถึงความตาย หรือมีความคิดอยากฆ่าตัวตาย 
  • มีอาการปวดเมื่อย เช่น ปวดหัว ปวดหลัง โดยไม่มีสาเหตุทางกาย 

อาการเหล่านี้อาจรุนแรงขึ้นจนกระทบต่อการเรียน การทำงาน และชีวิตประจำวัน

โรคซึมเศร้า ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม อาการ สาเหตุ และแนวทางการรักษา

ภาวะซึมเศร้าในแต่ละช่วงวัย

เด็กและวัยรุ่น

  • เด็กอาจมีอาการเศร้า รำคาญ หงุดหงิด ติดพ่อแม่ ไม่อยากไปโรงเรียน หรือมีอาการเจ็บป่วยทางกายบ่อย 
  • วัยรุ่นมักมีอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิด ขี้น้อยใจ ไม่เข้าสังคม หรือใช้สารเสพติดเพื่อหลีกหนีปัญหา บางรายอาจทำร้ายตัวเอง 

ผู้สูงอายุ

ภาวะซึมเศร้าในผู้สูงวัยมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องปกติของวัย แต่จริง ๆ แล้วต้องได้รับการรักษา

  • มักมีอาการเหนื่อยล้า เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ 
  • ความจำถดถอย พฤติกรรมเปลี่ยน 
  • รู้สึกหมดคุณค่า หรืออยากจบชีวิต โดยเฉพาะในเพศชายสูงวัย 

สาเหตุของโรคซึมเศร้า

โรคซึมเศร้าเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน ทั้งทางชีวภาพ จิตใจ และสิ่งแวดล้อม

  1. ความแตกต่างทางชีวภาพของสมอง
    พบว่าผู้ป่วยบางรายมีการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างสมอง ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับอาการของโรค 
  2. สารเคมีในสมองผิดปกติ
    การทำงานของสารสื่อประสาท เช่น เซโรโทนิน และโดปามีน มีผลโดยตรงต่ออารมณ์ 
  3. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
    ระดับฮอร์โมนที่ไม่สมดุล เช่น ช่วงตั้งครรภ์ หลังคลอด หรือวัยหมดประจำเดือน สามารถกระตุ้นให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้ 
  4. พันธุกรรม
    หากสมาชิกในครอบครัวเคยมีประวัติเป็นโรคซึมเศร้า ความเสี่ยงของโรคในรุ่นถัดไปจะสูงขึ้น 

ปัจจัยเสี่ยงที่กระตุ้นให้เกิดภาวะซึมเศร้า

  • มีบุคลิกมองโลกในแง่ร้าย ขาดความมั่นใจ หรือพึ่งพาผู้อื่นมากเกินไป 
  • ผ่านเหตุการณ์กระทบกระเทือนทางจิตใจ เช่น การสูญเสีย การหย่าร้าง การถูกทำร้าย หรือความล้มเหลวในชีวิต 
  • มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคซึมเศร้า ติดสุรา หรือฆ่าตัวตาย 
  • มีโรคทางกายเรื้อรัง เช่น มะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง 
  • ใช้ยาบางชนิด เช่น ยานอนหลับ ยาลดความดันโลหิต โดยไม่ปรึกษาแพทย์ 
  • ภาวะติดสุราหรือสารเสพติด 
  • ความเครียดจากปัญหาการเงิน ความสัมพันธ์ หรือการทำงาน 

ภาวะแทรกซ้อนของโรคซึมเศร้า

หากไม่ได้รับการรักษา โรคซึมเศร้าอาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น

  • น้ำหนักเกิน โรคอ้วน โรคหัวใจ หรือเบาหวาน 
  • การติดสุราและสารเสพติด 
  • โรควิตกกังวล โรคกลัวสังคม 
  • ปัญหาครอบครัว ความสัมพันธ์ หรือการทำงาน 
  • การแยกตัวจากสังคม 
  • การทำร้ายตัวเอง หรือพยายามฆ่าตัวตาย 

แนวทางการรักษาโรคซึมเศร้า

การรักษาที่เหมาะสมจะช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจและกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

  1. การใช้ยา (Medication)
    แพทย์จะให้ยาต้านเศร้า เช่น SSRIs หรือ SNRIs เพื่อปรับสมดุลสารเคมีในสมอง ต้องใช้ต่อเนื่องตามคำแนะนำ 
  2. จิตบำบัด (Psychotherapy)
    เช่น การบำบัดพฤติกรรมทางความคิด (CBT) เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเรียนรู้วิธีจัดการกับความคิดด้านลบ 
  3. การดูแลตนเอง (Self-care)
    ออกกำลังกาย นอนหลับเพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และหากิจกรรมที่ทำให้รู้สึกดี 
  4. การสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อน
    การพูดคุยและให้กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการฟื้นตัวของผู้ป่วย 

การป้องกันโรคซึมเศร้า

แม้ไม่สามารถป้องกันได้ทั้งหมด แต่สามารถลดความเสี่ยง สุขภาพ ได้ด้วยการ:

  • เรียนรู้วิธีจัดการกับความเครียดอย่างเหมาะสม 
  • ฝึกคิดบวกและยอมรับตนเอง 
  • ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญเมื่อเริ่มมีอาการ 
  • เข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ 

ปัจจัยเสี่ยงที่กระตุ้นให้เกิดภาวะซึมเศร้า

ควรพบแพทย์เมื่อใด

หากรู้สึกเศร้า เบื่อชีวิต หรือมีความคิดอยากทำร้ายตัวเอง ควรรีบพบจิตแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางสุขภาพจิตทันที
เพราะยิ่งรักษาเร็ว โอกาสฟื้นตัวก็จะยิ่งสูง

FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคซึมเศร้า

ถาม: โรคซึมเศร้าหายได้ไหม?
ตอบ: หายได้ หากได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีและต่อเนื่อง ทั้งการใช้ยาและจิตบำบัด

ถาม: โรคซึมเศร้าเกิดจากความอ่อนแอหรือไม่?
ตอบ: ไม่ใช่ โรคซึมเศร้าเป็นภาวะทางสมองและเคมีในร่างกาย ไม่ใช่ปัญหาด้านนิสัยหรือจิตใจอ่อนแอ

ถาม: คนใกล้ชิดควรช่วยอย่างไร?
ตอบ: ควรรับฟังด้วยความเข้าใจ ไม่ตัดสิน และสนับสนุนให้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาจากแพทย์