มาทำความรู้จัก! กับสาเหตุหลักที่พบได้บ่อยของ “อาการหน้ามืดเป็นลม”

มาทำความเข้าใจด้านสุขภาพและทำความรู้จักเกี่ยวกับ อาการหน้ามืดเป็นลม ว่ามีอาการข้างต้นเป็นอย่างไร ตาพร่ามัว ค่อยๆ ดำมืดจนมองอะไรไม่เห็นหรือเรียกว่าอาการภาพตัด ใจสั่น เหงื่อออก มือเย็น เท้าเย็น ใจเต้นรัว ไม่มีแรง ไปจนถึงเป็นลมล้มพับไม่ได้สติ อาการเหล่านี้มีสาเหตุและอาการแตกต่างกัน แต่ที่พบได้บ่อยๆ มีอยู่ 8 สาเหตุหลัก ดังนี้

8 สาเหตุหลักที่พบบ่อยที่สุดของ ” อาการหน้ามืดเป็นลม “

1.เป็นลมธรรมดา  สาเหตุที่พบได้มากที่สุด เกิดจากร่างกายของเราที่อ่อนแอ เพิ่งฟื้นไข้ อดนอน หิวข้าว หิวน้ำ อดอาหาร อยู่ในที่ร้อนอบอ้าวหรือที่แออัดมากจนเกินไปทำให้ร่างกายของเรานั้นปรับสภาพไม่ทันและขาดอากาศ ไปจนถึงสภาพจิตใจที่อ่อนแอ เช่น เครียด วิตกกังวล หงุดหงิด โกรธ หมดความหวัง หรือหวาดกลัว
อาการที่พบ หัวใจเต้นช้าลง ความดันโลหิตตก ผู้ป่วยไม่มีสติอยู่ในเวลาระยะสั้นๆ ถ้าเรานำผู้ป่วยไปนอนในที่ราบร่างกายก็จะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น ภายในเวลา 5-10 นาที แต่อาจจะยังมีอาการมึนงงเล็กน้อย อ่อนเพลีย คลื่นไส้ และไม่มีแรงอยู่อีก 1-2 ชั่วโมง หรือนานกว่านี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน
วิธีการป้องกัน รักษาสุขภาพร่างกายและจิตใจให้แข็งแรงอยู่เสมอ ไม่อยู่ในที่ร้อนอบอ้าวหรืออยู่ในพื้นที่แออัด ไม่ควรที่จะอดข้าวอดน้ำหรืออดหลับอดนอน เพราะเรื่องนอนสำคัญต่อร่างกายของคนเราเป็นอย่างมาก ถ้าหากมีอาการมึนหัว ใจสั่น ใจเต็นเร็ว เหงื่อแตก มือเย็น ให้รีบหาที่นั่งพักก่อน หรือนอนพักในที่ราบก่อนที่จะเป็นลมจนหมดสติ เพราะการนอนราบจะทำให้ร่างกายของเราฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

2.เป็นลมเมื่อเปลี่ยนท่า
อาการที่พบ อาการเป็นลมเมื่อเปลี่ยนท่า ไม่ว่าจะป็นท่านั่ง ท่ายืน ท่านอน โดยเฉพาะหากนั่งหรือนอนอยู่แล้วเกิดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วเพราะเกิดจากความอ่อนเพลีย แม้กระทั้งการยืนอยู่เฉยๆนานๆ ก็อาจทำให้ร่างกายของเรานั้นเหนื่อยล้าปรับตัวไม่ทันก็จะทำให้หน้ามืด เวียนหัว อาจทำให้เป็นลมล้มได้ อาการเหล่านี้ส่วนมากมักจะพบ
•ผู้สูงอายุ
•ผุ้ป่วยที่กำลังกินยาความดันโลหิต
•คนที่ปริมาตรเลือดหรือน้ำในร่างกายน้อย (ลดลง) เช่น คนที่มีอาการตกเลือด
•มีอาการท้องเดินมากๆ (ท้องร่วง ท้องเสีย อุจจาระร่วง)
•ระบบประสาทผิดปกติ เช่น แขนขาอ่อนแรงหรือเหน็บชา
วิธีการป้องกัน ค่อยๆ เปลี่ยนท่านั่ง ท่ายืน เมื่อลุกขึ้นจากเตียงและเก้าอี้ก็ค่อยๆลุกขึ้นอย่างช้าๆ หรือตอนที่ลุกจากที่นอนให้นั่งพักก่อนแล้วค่อยลุกขึ้นจากเตียง ขณะเปลี่ยนท่าก็เปลี่ยนอย่างช้าๆหรือให้เกาะสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัว เช่น หัวเตียง ก่อนลุกจากที่นอน นอกจากนี้การออกกำลังกายบริหารแขน ขา โดยการเดินหรือการย่อตัว ให้ทำวันละหลายๆ ครั้ง ๆ ละหลายๆ นาที ก็จะช่วยลดอาการเป็นลมเมื่อเปลี่ยนท่าได้

3.เป็นลมเพราะเบ่ง
อาการที่พบ หน้ามืด เวียนหัว เป็นลม เพราะกลั้นหายใจเป็นเวลานานและเบ่งมากจนเกินไป เช่น เบ่งอุจจาระเมื่อท้องผูกมากๆ ยกของหนักๆ หรือผลัก/ดันของหนักๆให้เคลื่อนที่ การเบ่งทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจน้อยลง เพราะต้องกลั้นหายใจแล้วเบ่ง ทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดนำไม่ทันหรือไปเลี้ยงร่างกายและสมองน้อยลง
วิธีการป้องกัน ไม่ควรเบ่งอย่างรุนแรง ไม่ควรยกของหนักเกินไป

4.เป็นลมเพราะไอ
อาการที่พบ หน้ามืดหรือเป็นลม เพราะไอติดต่อกันนานๆ เช่น ผู้ป่วยโรคไอกรน (พบมากในเด็ก) โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง หรือโรคถุงลมพอง ที่มาจากการสูบบุหรี่หรือได้รับควันบุหรี่ โดยการไอหนักๆ ติดๆ กัน ทำให้ร่างกายต้องกลั้นหายใจ และหัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายและสมองไม่เพียงพอ เช่นเดียวกันกับการเบ่ง
วิธีการป้องกัน อย่าไออย่างรุนแรง หรือไอติดๆกัน หากเป็นโรคที่มีอาการไอก็จค่อยๆจิบน้ำ หรื ควรรีบไปหาหมอเพื่อรับการรักษา

5.เป็นลมเพราะปัสสาวะ
อาการที่พบ ในบางรายเบ่งปัสสาวะ เพราะปัสสาวะไม่ออก จึงเกิดอาการเป็นลมหน้ามืดเหมือนการเบ่งอุจจาระ รวมถึงคนที่เป็นลมหลังปัสสาวะ เพราะกระเพาะปัสสาวะโป่ง (เพราะกลั้นและไม่ได้ปัสสาวะเป็นเวลานาน หรือเพราะดื่มสุรา หรือน้ำ ทำให้มีปัสสาวะมาก) พอถ่ายปัสสาวะจนสุด กระเพาะปัสสาวะที่โป่งแล้วแฟบลงทันที จึงทำให้หลอดเลือดทั่วร่างกายขยายตัว ทำให้ความดันเลือดตก เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ จึงเกิดอาการหน้ามืดเป็นลมได้ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับผู้ชายที่ดื่มแอลกอฮอล์จำนวนมาก
วิธีการป้องกัน อย่ากลั้นปัสสาวะเป็นเวลานานๆ ถ้ากลั้นปัสสาวะมานานแล้วควรนั่งปัสสาวะ (ไม่ยืน) อย่าปัสสาวะจนสุดมากแล้วค่อยกลับมาปัสสาวะต่ออีกในเวลา 5-10 นาที หากมีอาการบ่อยๆ หลังดื่มแอลกอฮอล์ ควรลดการดื่มลง

6.เป็นลมจากอารมณ์
อาการที่พบ มีทั้งเป็นลมจากอารมณ์เสียใจ ตกใจ โกรธ เครียด อ่อนเพลีย หรือหลวาดกลัว รวมถึงเป็นลมจากการผิดหวังอย่างรุนแรง หรือรู้สึกถูกทอดทิ้ง โดยผู้ป่วยจะยังมีอาการปกติ (ไม่หมดสติ) ไม่มีอาการหน้าซีด มือเท้าซีด ตัวเย็น หรือเหงื่อแตก ไม่ดีขึ้นแม้จะนอนราบลงแล้ว แต่อาการจะดีขึ้นหรือหายไปถ้าอยู่คนเดียวนอกจากเป็นลมยังอาจพบอาการอื่นๆ เช่น ชัก ปวดศีรษะรุนแรง ปวดท้องรุนแรง เป็นต้น
วิธีการป้องกัน แก้ไขความผิดหวังที่เป็นสาเหตุให้เบาบางลง อธิบายให้เข้าใจ ไม่ดุด่าหรือว่าผู้ป่วยที่แกล้งเป็นลม เพราะที่จริงแล้วผู้ป่วยไม่ได้แกล้ง แต่ความผิดหวังนั้นถูกเปลี่ยนเป็นอาการทางกาย ดังนั้นครอบครัวควรให้ความใกล้ชิด ความอบอุ่น และความช่วยเหลือแก่คนไข้ วิธีนี้จะป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยเป็นลมเพราะอารมณ์อีก

7.เป็นลมเพราะหัวใจ
อาการที่พบ หัวใจทำงานผิดปกติ เช่น หัวใจเต้นจังหวะ หัวใจหยุดเต้น หัวใจเต้นช้ากว่าปกติ หรือหัวใจเต้นเร็วเกินไป รวมไปถึงความผิดปกติของหัวใจอื่นๆ เช่น ลิ้นหัวใจตีบ กล้ามเนื้อหัวใจตาย หัวใจถูกบีบอัด หลอดเลือดปอดถูกอุด หลอดเลือดเอออร์ตาแยก
วิธีการป้องกัน รักษาโรคหัวใจที่เป็นอยู่ให้มีอาการดีขึ้น ดูแลสุภาพและออกกำลังกาย

8.เป็นลมเพราะสมองหรือระบบประสาท
อาการที่พบ เป็นหนึ่งในอาการที่พบได้บ่อยที่สุดของโรคประจำตัวที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคลมชัก แต่พบอาการเป็นลมได้เพียงส่วนน้อย
วิธีการป้องกัน รักษาโรคประจำตัวที่เกี่ยวกับระบบประสาทให้ดีขึ้น หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ