สาวยูเครนตัดพ้อ แม่อยู่รัสเซีย ไม่เชื่อลูกหลบภัยอยู่ในห้องน้ำ ถูกรุกราน!!

ข่าวต่างประเทศ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานสลด สาวยูเครนตัดพ้อ ออกมาพูดด้วยความผิดหวังขระหลบภัยการรุกรานของกองทหารรัสเซีย เล่าให้แม่ฟังแต่แม่ไม่เชื่อ เพราะแม่อยู่ที่ประเทศศัตรู

เศร้า! สาวยูเครนตัดพ้อ ตัวเองต้องพาสุนัข 4 ตัว ไปหลบภัยในห้องน้ำ ขณะที่กองทัพรัสเซียเข้ารุกรานคาร์คิฟบ้านเกิด แต่แม่ที่อยู่ในรัสเซียกลับไม่เชื่อ!!

สาวยูเครนตัดพ้อ น้อยใจแม่ที่ไปอาศัยอยู่ที่รัสเซียเลือกที่จะเชื่อสื่อสารทางนั้นมากว่าผู้เป็นลูกสาวแท้ๆซึ่งอาศัยอยู่ที่เมืองคาร์คิฟ หนึ่งในเมืองที่อยู่ในการปกครองของประเทศยูเครน ขณะนี้กำลังถูกโจมตีและรุกรานอย่างหนัก

หญิงสาวเล่าอย่างหมดหวัง คาดว่าครอบครัวจะถูกล้างสมองจากทางการรัสเซีย ประเทศจอมบ้าอำนาจ เมื่อเธอได้ยินเข้ากับเสียงระเบิดที่ดังสนั่นเป็นลูกแรกที่ทหารรัสเซียเปิดโจมตี เธอรีบพาสุนัขทั้ง 4 ตัว วิ่งหนีเอาหลบภัยภายในห้องน้ำ ทุกคนทั่วบริเวณต่างแตกตื่นและหวาดกลัวไม่ต่างจากเอ

โอเลกซานดรา หญิงสาวมีอายุเพียง 25 ปี ได้ติดต่อเข้าพุดคุณกับแม่ที่ไปอาศัยอยู่ในกรุงมอสโก และเอตัดสินใจเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ผู้เป็นแม่ฟัง และคลิปการโจมตีเมืองจากกองทหารรัสเซียก็ไม่สามารถทำให้แม่เชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นได้เลย ทั้งที่เธอตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายเสี่ยงตาย จากเดิมที่เธอไม่ได้บอกผู้ปกครอง เพราะกลัวว่าพวกเขาจะเป็นห่วง

อย่างไรก็ตามพ่อแม่ของหญิงสาวก็ได้แสดงความห่วงใยลูกสาว แต่พูดลงท้ายด้วยคำว่า การโจมตีหรือการรุกรานในครั้งนี้มันเกิดขึ้นเพราะอุบัติเหตุเท่านั้น เพราะทหารของรัสเซียไม่มีวันไปยุ่งวุ่นวายกัลป์ประชาชนพลเรือนทั่วไป แต่ที่คนยูเครนตายก็เพราะทหารยูเครนเป็นคนฆ่าประชาชนของตัวเอง

สิ่งที่เราควรรู้คือ ส่วนใหญ่มันเป็นเรื่องปกติที่มา ชาวยูเครนจะไปอาศัยอยู่ที่รัสเซีย เช่นเดียวกับครอบครัวของ โอเลกซานดรา แต่หยิงสาวเลือกที่จะอยู่ในยูเครนไม่ไปอยู่กับสมาชิกในครอบครัวคนอื่นในรัสเซีย จากคำตอบที่เธอได้จากพ่อแม่ หยิงสาวเชื่อว่าตอนนี้รัสเซียล้างสมองครอบครัวของเอไปแล้ว เพราะความเข้าใจที่พ่อแม่เธอได้รับจากสื่อรัสเซียมันแตกแยกออกไปจากความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในยูเครนที่ต้องนี้พลเมืองตายเพราะการโจมตีของทหารรัสเซียไม่ใช่อย่างที่แม่บอกว่ายูเครนฆ่ากันเอง

โอเลกซานดรา เล่าต่อสลด แม่ของเธอได้บอกว่า แม่ได้ฟังข่าวทีวีรัสเซีย ได้นำกองกำลังโจมตียูเครน เพื่อไปปลดแอกให้กับชาวยูเครน ทหารรัสเซียไม่ได้จะไปสร้างความเสียหาย พวกทหารแทบจะไม่แตะต้องชาวเมืองหรือลูกแน่นอน เพราะเขามุ่งเป้าไปที่กลุ่มทหารด้วยกันเอง

หญิงสาวไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า แม่ของเธอจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ แม่บอกข้อมูลได้เป๊ะตามข่าวที่ออกในสื่อรัสเซีย ถ้าข่าวออกมารายงานอะไรคนก็ไม่คิดเองเลยเหรอ ทำไมเชื่อไปทุกเรื่อง ทั้งที่ความจริงชาวยูเครนถูกโจมตีด้วยปืนใหญ่คุกคามบ้านเรือนพังเสียหายและชาวเมืองที่หนีไม่ทันก็ล้มตาย

เธอได้ออกสัมภาษณ์กับ BBC ขณะเดียวกันรัสเซียก็ยิงปืนใหญ่โจมตีอย่างต่อเนื่องแทรกออกมา สาเหตุนี้ทำให้สัญญาณขาดหาย สำนักข่างจึงเปลี่ยนมาสัมภาษณ์ โอเลกซานดรา ผ่านทางการส่งข้อความเสียงแทน หญิงบอกกับสำนักข่าวดังว่า ตอนนี้ฉันแทบจำไม่ได้แล้วว่า “เสียงแห่งความสงบ” มันเป็นเสียงเช่นไร

ในวันเดียวกันนั้น ทางสื่อทีวีทั่วรัสเซีย ไม่ได้มีการรายงานเกี่ยวกับการรุกเข้าโจมตียูเครน เมืองคาร์คิฟ จากฝีมือกองทัพเลยแม้แต่น้อย เพราะความสูญเสียที่เกิดขึ้นทำให้ชาวยูเครนที่เป็นเหยื่อของสงครามระหว่างประเทศล้มตาย ทั้งที่พวกเขาบริสุทธิ์ 4 คน ได้มาตายขณะเข้าคิวกรองน้ำไปใช้ที่บ้าน

โดยรัสเซียให้สื่อรายงานโต้ว่า สงครามที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นมาเพราะรัสเซีย แต่เป็นยูเครนเองที่แสดงความก้าวร้าว รัสเซียจึงต้องเข้าไปช่วยปลดแอกไม่ใช่การรุกราน ยูเครนใช้พลเรือนเป็นเกาะป้องกันหรือโล่ ทำให้คนล้มตายเอง รัสเซียได้ปิดกั้นการรายงานข่าวรุกรานยูเครน โดยอ้างว่าข่าวนั้นเป็นเรื่องเท็จไม่มีข้อมูลจริง

ทั้งนี้ ในรัสเซียเอง ชาวเมืองที่ไม่เชื่อและรับรู้ความจริงที่ทางการรัสเซียกระทำต่อยูเครน ได้ออกมาประท้วงเป็นจำนวนมาก แต่สื่อสารมวลชนในรัสเซียกลับไม่ให้ความสนใจนำไปเสนอข่าว ชาวรัสเซียต่อต้านประท้วงยุติสงคราม ไม่ให้การสนับสนุนการทำสงครามระหว่างประเทศ