ไม่ใช่อื่นไกล! ลูกศิษย์ยอกเงินพระ อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร

ข่าวล่าสุด เรื่องฮือฮาในรั้ววัด กลายเป็นข่าวดังอีกครั้งหลังมีการรายงาน ลูกศิษย์ยอกเงินพระ ขณะที่พระสงฆ์ผู้เป็นเจ้าของเงินกำลังอาพาต ส่วนยอดเงินดังกล่าวนั้นมีจำนวนมากถึงเกือบ 200 ล้าน บอกได้โดยเสน่หา

ส่องเบื้องลึกเบื้องหลัง ลูกศิษย์ยอกเงินพระ ออกอุบายกลโกงยักยอกเงินขณะพระวันรัต อาพาส 190 ล้านบาท อ.จตุรงค์ ลั่น!! ไม่ใช่เงินส่วนตัว นี่เป็นเงินสำหรับบูรณะ

กรณี ลูกศิษย์ยอกเงินพระ ซึ่งกำลังเป็นดราม่าร้อนแรงในรั้ววัดดัง “วัดบวรนิเวศวิหาร” ลูกศิษย์รายนี้ได้นำเงินของวัดและสาขาใกล้เคียงไปใช้จ่ายส่วนตัว โดยเงินนั้นมีจำนวนมาก มีการสืบตามหาลูกศิษย์ได้ชื่อย่อว่า “น” เขาเป็นฆราวาสศิษย์คนสนิทของพระวันรัต และได้ใช้ความไว้ใจของพระฉวยโอกาสขณะที่พาพระท่านไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล จัดการปลอมเอกสารเพื่อเซ็นดำเนินทำธุรกรรมทางการเงินโดยพละการ

นาย น. ลึกศิษย์คนสนิทนั้นได้ทำการโยกย้ายเงินที่เป้นทรัพย์สินของทางวัดบวรนิเวศวิหารร่วม 100 ล้าน และเงินที่ได้ยักยอกจากวัดอื่นๆที่อยู่ในสาขาอีกร่วม 80 ล้าน จากความเสียหายที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ในเบื้องต้นนั้นได้โกยเงินไปมากกว่า 190 ล้าน ซึ่งขณเดียวกันเจ้าหน้าที่พยายามกำลังเร่งตรวจสอบเพิ่ม

ทั้งนี้ ลูกสาย์คนสนิทรายนี้ได้มีการปฏิบัติการยอกเงินมาตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม ปีที่ผ่านมา 2564 โดย นาย น. นำเอาบัญชีเงินฝากพร้อมกับบัตรซึ่งเป็นของพระวันรัต จัดการเปลี่ยนและปลอมข้อมูลขึ้นใหม่กับทางธนาคารและทำธุรกรรมการเงินทั้งหมดผ่านทางออนไลน์ ก่อนจะโอนเงินในบัญชีวัดบวรฯและวัดอื่นเข้าไปยังบัญชีตัวเอง

เมื่อพฤศจิกายน ปี 2564 นาย น. ได้ใช้กลอุบายลวงพระวันรัตให้ท่านเซ็นเขียนชื่อในใบถอนฝากเงิน โดย นาย น. จะเป็นคนเติมและเขียนตัวเลขจำนวนเงินใส่ในกระดาษเอง  กระทั่งผ่านมาถึงเดือนมกราคม ปี 2565 นาย น. ได้กลับมาลวงพระโดยใช้อุบายแบบเดิมๆ แต่เปลี่ยนให้คนใกล้ชิดพระวันรัตอีกคนไปนำเอาเงินออกมาจากบัญชี ภายในการยักยอกครั้งนี้วัดที่เป้นสาขาวัดบวรฯ เริ่มสังเกตเห็นข้อพิรุธ โดยตอนนั้นพบว่าได้รับความเสียหายไปกว่า 80 ล้าน ทางสาขาวัดได้ดำเนินการแจ้งความเอาไว้เรียบร้อย

เมื่อเดือนมีนาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปควบคุมตัว นาย น. ผู้เป็นศิษย์คนสนิทพระวันรัต ขระที่เขาอยู่ภายในคอนโด ก่อนจะสำรวจพบว่าลูกศิษย์คนนี้มีทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก อาทิ รถหรูและเงินสด รวมไปถึงมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และของแบรนด์เนม พระเครื่องต่างๆ ทั้งหมดรวมกันได้มูลค่า 100 ล้าน

ตำรวจได้แจ้งข้อหาฉ้อโกงและปลอมแปลงในเรื่องของเอกสาร ส่วนทางของ นาย น. ให้การภาคเสธทุกอย่าง และได้บอกอีกว่าทุกอย่างที่มีและได้มาทั้งหมดก็เพราะความเสน่หา เนื่องจากเขาเองได้อยู่รับใช้พระวันรัตมามากกว่า 20 ปีมาแล้ว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ไม่ได้ปักใจเชื่อ และไม่อนุญาตให้มีการประกันตัว ตำรวจยังเร่งสอบเพิ่มหาคนร่วมกระบวนการยักยอก

อ.จตุรงค์ จงอาสา ผู้เป็นนักวิชาการทางด้านศาสนา ได้ออกมากล่าวว่า อย่างให้ทุกคนเข้าใจก่อนว่า เงินที่ นาย น. ยักยอกนำออกไปนั้นไม่ใช่เงินในส่วนของพระวันรัต แต่เป็นเงินที่ใช้ในวัดบูรณะศาสนสถานทั้งวัดบวรฯและวัดลูกในสาขา ตนอย่างแนะนำให้ผู้รู้เห็นกับ นาย น. เดินทางมาให้การกับตำรวจ อย่างให้ต้อสืบและรอหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่อยู่แบบนั้น

นอกจากนี้ นายจตุรงค์ ได้โพสต์ข้อความอันเป้นการยืนยันว่า พระวันรัตนั้นถือเรื่องเงินว่า ในที่นี่คือไม่รับจำนวนมาก และอาจจะเป็นเพราะสาเหตุนี้ผู้เป็นโจรจึงใช้ความใกล้ชิดและโอกาสรอบทำธุรกรรมทางการเงินในช่องทางออนไลน์ในช่วงที่พระท่านเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล เรื่องที่คนขับรถไปถอนเงินไม่ควรมาด่าพระที่ท่านมรณภาพไปแล้ว เพราะท่านไม่เคยคิดจะเอาเงินมาเก็บไว้เป็นส่วนตัว ท่านเพียงแต่ดูแลเงินของส่วนกลางเก็บให้ไว้บูรณะวัดต่างๆ