พี่ชายฤาษีพระบิดา ไม่ห่วงน้องหลังประกันตัว ยังไม่ได้เจอหน้า

ข่าวล่าสุด เมื่อวันวานนี้ 10 พ.ค. 65 บ่าย 3 โมง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บทสัมภาษณ์ พี่ชายฤาษีพระบิดา ความคืบหน้าหลังน้องชายถูกประกันตัวออกมา หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปสอบปากคำเกี่ยวกับเรื่องที่เกิด

พี่ชายฤาษีพระบิดา เผยหลังน้องชายถูกประกันตัว ยันยังไม่ได้เจอหน้า ไม่ห่วง! เดี๋ยวลูกศิษย์เขาคงพาไปดูแลเอง กำลังทำเรื่องเผาซากศพของแม่พระบิดา

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เข้าพบ พี่ชายฤาษีพระบิดา ณ ไร่อ้อย จำนวน 16 ไร่ พื้นที่ดังกล่าวนี้เป็นที่ดินที่ฤาษีทวี ทำเรื่องยกที่ดินให้ นายทองทิพย์ หนันลา วัย 62 ปี หรือ น้องชายคนสุดท้อง  โดยในตอนนี้พื้นที่ดังกล่าวได้มีการนำอ้อยมาเพาะปลูกลงในพื้นที่เต็มไปหมดแล้ว

เรื่องสืบเนื่องมาจาก ฤาษีทวี หรือ นายทวี หนันลา วัย 74 ปี ได้อ้างตนและตั้งตนเป็นฤาษีและเป็นพระบิดาศูนย์รวมของทุกศาสนา หลังจากนั้นได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติธรรมขึ้นมาแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ในพื้นที่อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ล่าสุดเจ้าตัวได้ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปสอบปากคำในวันที่ 8 พฤษภาคม ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะทำเรื่องเก็บหลักฐานส่งฟ้องศาลภูเขียวและดำเนินเรื่องฝากขัวพระบิดา ตั้งดำเนินคดี 4 ข้อหา ต่อมาศาลจึงได้มีการอนุญาตประกันตัวผู้ต้องหาพระบิดาจากที่คุมขัง

นายบุญตัน หนันลา พี่ชายพระบิดา วัย 77 ปี ได้ออกมากล่าวว่า ภายหลังจากที่นายทองทิพย์ ผู้เป็นน้องชายคนสุดท้องไปประกันฤาษีทวีออกมาแล้วตามที่ศาลท่านอนุญาตให้สามารถประกันตัวออกมาชั่วคราว โดยน้องชายไปประกันฤาษีมาในเวลา 19.00 น.(9 พฤษภาคม) ไปแค่ประกันตัวแต่ฤาษีน้องชายไม่ได้เดินทางกลับมาที่บ้านด้วย จึงไม่รู้ว่าเขาเดินทางไปที่ไหนและใครมารับไปไหน เพราะไม่ได้มีการติดต่อพูดคุยกันเลย

พี่ชายพระบิดา เผยว่า ตนไม่ได้เป็นห่วงน้องชายแต่อย่างไร เพราะคิดว่าลูกศิษย์ลูกหาของเขาเยอะ แต่คาดการณ์ว่าอาจจะเดินทางไปอุดรธานีหรือไม่ก็มหาสาคราม น้องชายคงมีคนมาคอยดูแลอย่างดี ที่ดินจำนวน 16 ไร่ ความจริงแล้วมันคือที่ดินมรดก พ่อแม่ของเราแบ่งให้ลูก 4 คน แต่ภายหลังจากที่ฤาษีใฝ่ในทางธรรมจึงได้ยกที่ดินให้น้องชายคนสุดท้อง (นายทองทิพย์) ต่อมาเมื่อนายทองทิพย์ได้ที่ดินมาแล้วจึงได้นำที่ดินแปลงนี้ไปให้ชาวบ้านเช่าปลูกอ้อยเพื่อสร้างรายได้ แต่ในอนาคตจะมีการจัดสรรปรับเปลี่ยนอะไรกับที่ดินแปลงดังกล่าวต้องขึ้นอยู่กับน้องชาย

สำหรับการย้ายศพแม่ ตนต้องมีการเรียกญาติและครอบครัวมาเจรจาปรึกษากันอีกครั้งก่อน ทีแรกคิดว่าจะรอให้เรื่องดราม่านี้ซาลงไปก่อน ให้สื่อมวลชนเลิกสนใจข่าวฤาษีจากนั้นจึงจะสามารถรู้ได้ว่าจะมีการดำเนินทางคดีความยังไงบ้าง เพราะตนก็ไม่อยากให้ญาติพี่น้องต้องผิดใจระหว่างกัน โดยเฉพาะเรื่องศพของแม่ สิ่งที่เราตั้งใจจะทำและทำแน่คือนำศพแม่มาจัดพิธีกรรมทางศาสนา

พี่ชายพระบิดาได้กล่าวต่อไปว่า ตั้งใจจะดำเนินการเรื่องศพแม่มานานแล้ว แต่ศพสภาพที่เป็นอยู่อาจจะไม่เอื้อต่อการเคลื่อนย้าย ส่วนตนนั้นไม่ต้องการให้มีภาพหลุดของแม่ออกไป เพราะมันสภาพไม่ชวนมอง บวกกับกลิ่นศพตอนนี้นั้นส่งกลิ่นเน่าเหม็น วัดที่เล็งเอาไว้ว่าจะนำศพแม่ไปบำเพ็ญกุศลตามหลักศาสนานั้นคงจะเป็น วัดของหมู่บ้านโนนสะอาด และอาจจะเปลี่ยนเป็นวัดที่ดูแล้วใกล้บ้านมากกว่าก็ว่ากันต่อไป