หมามะเร็ง 33 ล้าน ยอดเงินบริจาค สาวเจ้าของเพจ ลั่น! คนโอนมาก็ต้องรับ!

ข่าวเด่นออนไลน์ ผู้สื่อข่าวรายงานล่าสุด ความคืบหน้าทางคดีความตามกฎหมาย กรณี ยอดเงินบริจาค จากเพจช่วยเหลือน้องหมาชื่อดังที่กำลังเป็นกระแสข่าวในทุกวันนี้ “หมามะเร็ง” สาวเจ้าเพจเครียดสะสมจนล้มป่วย

ตั้งแต่เปิดจนถึงปัจจุบัน 4 ปี ยอดเงินบริจาค หมามะเร็ง 33 ล้าน สาวเจ้าของเพจ ป่วยสะสมกำลังรักษาตัว ทนายตัวแทน เผยทำผิดหลายอย่างเพราะไม่รู้กฎหมาย

หลังกลายเป็นข่าวและเป็นคดีความเมื่อมีการฟ้องร้องเรื่องความไม่โปร่งใส ตรวจสอบการเงินล่าสุด ยอดเงินบริจาค เพจหมามะเร็ง เงินพุ่งทะลุยอด 33 ล้านบาท สาวเจ้าของเพจเผยเดิมทีไม่ได้จะคิดการใหญ่ช่วยเหลือขนาดนี้มาก่อน แต่คิดว่าเพราะมีคนบริจาคช่วยเหลือมาต้องรับไว้เท่านั้น ตอนนี้กำลังรักษาตัวจากอาการป่วย ทนายแจงแทนเจ้าของเพจไม่รู้เรื่องกฎหมายเลยทำผิดหลายประกาศพร้อมน้อมรับ

เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสถานรับเลี้ยงและช่วยเหลือสุนัขที่มีโรคและอาการป่วย ซึ่งมีการเปิดเพจในชื่อ “หมามะเร็ง Dogs Cancer” สถานที่ดังกล่าวตั้งอยู่ใน ม.6 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อไม่นานมานี้หลายคนออกมาตั้งข้อสงสัยถึงความโปร่งใสในการเปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือน้องหมา ก่อนสังเกตเห็นข้อพิรุธหลายประการและยังเข้าข่ายไปในทางไม่ดี ทั้งนี้ ทำให้นายกเทศมนตรี ต.เกล็ดแก้ว ทำการนัดหมายกับสาวเจ้าของเพจหมามะเร็ง “หนูนา” นางสาวกิ่งวราภร ศาลาประทีป ให้เดินทางมาพบพร้อมเอาเอกสารมาด้วย เพื่อทำการที่แจ้งความจริงทั้งหมด

เวลา 10 โมงเช้าของวันที่ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมา ณ เทศบาลตำบลเกล็ดแก้ว อำเภอสัตหีต-ชลบุรี ทนายความสาวเจ้าของเพจหมามะเร็ง นายดรัญซะ สติมั่ เดินทางมาเพื่อเข้าพบแทนสาวเจ้าของเพจ เนื่องจากคุณหนูนากำลังเข้ารักษาอาการป่วยที่เกิดจากความเครียดสะสมที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในอำเภอหัวหิน

นายยศวัฒน์ ภูวรัตน์เลิศคุณ นายกเทศฯตำบลเกล็ดแก้ว ออกมากล่าวชี้แจงพร้อมกับ นายนที ดิษฐบรรจง ปลัดเทศบาล และบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ให้มารับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมดด้วยกัน ทว่าทางฝั่งของสาวเจ้าจองเพจ ทนายที่มาเป็นตัวแทนนั้นกลับไม่มีเอกสารมาสักแผ่นเดียว ที่จะเอามาอธิบายชี้แจงในกรณีที่เกิดขึ้นตามข่าว

เจ้าหน้าที่ได้แบ่งเรื่องออก 2 ประเด็นหลัก ดังนี้

1.ความผิดของสาวเจ้าของเพจ จำนวน 4 ข้อ

1.1กิจกรรมที่ดำเนินนั้นเข้าข่ายทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพร่างกาย

1.2กิจกรรมได้สร้งความรำคาญ ตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ. 2535

1.3การปลูกสร้างสถานทำกิจการโดยไม่ได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่

1.4การเลี้ยงสัตว์ไม่ได้เป็นไปตามบัญญัติ สำหรับการทารุณสัตว์หรือไม่ เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบอีกครั้ง

2.การดำเนินงานไม่ถูกสุขลักษณะ หากยันว่าจะมีการดำเนินงานหรือกิจการช่วยเหลือตามกล่าวอ้างต่อ เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบและให้คำแนะนำในการเลี้ยงดูจัดการให้ถูกวิธี

ทนายความสาวเจ้าของหมามะเร็ง กล่าวว่า จากที่ได้พูดคุยกับเจ้าของเพจหมามะเร็งครั้งแรก เขาบอกว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะทำการช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ เงินบริจาคเมื่อมีคนส่งมาเธอก็เลยต้องรับเอาไว้ ตั้งแต่เปิดรับบริจาคจนมาถึงตอนนี้ ยอดเงินรวมได้ราวๆ 33 ล้านบาท

ทั้งนี้ สาวเจ้าของเพจได้เคยถูกฟ้องร้องคดีความไม่โปร่งใสเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา หลังจากนั้นมาเธอพยายามปรบปรุงและทำทุกอย่างห้ออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ หญิงสาวแจ้งกับทนายว่าทุกอย่าที่เธอทำไปทั้งหมด ทำไปด้วยความไม่รู้กฎหมาย ยอมรับในส่วนที่ผิดและอยากได้คำแนะนำที่ถูกต้องในการดำเนินงานต่อไป

นายกเทศมนตรี ต.เกล็ดแก้ว กล่าวว่า สาวเจ้าของเพจหมามะเร็ง ได้กระทำการฝ่าฝืนคำสั่งมาตั้งแต่ช่วงปี 2565 ตอนนั้นเจ้าฟหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบและทำการปิดกิจการดังกล่าวไปแล้ว และปัจจุบันได้มารับข้อมูลว่ามีการเปิดรับเลี้ยงสุนัขเรื่อยมาก นับมาเป็นการฝ่าฝืนอย่างชัดเจน จึงต้องดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมาย แนวทางแก้ไขและข้อตกลงที่จะต้องทำต่อไป คือ สาวเจ้าของหมามะเร็งจะไม่มีการรับเลี้ยงสัตว์อีก และต้องดำเนินการระงับกลิ่น-เสียง ที่เกิดจากสุนัขในสถานที่เลี้ยงใน 1 เดือน ต้องเร่งดำเนินการเพื่อจัดตั้งมูลนิธิสุนัขโดยด่วน และต้องย้ายสุนัขออกจากพื้นที่ใน 6 เดือน

รายละเอียดส่วนอื่นจะต้องมีการพูดคุยอีกรอบ และจ่อจะดำเนินคดีต่อสาวเจ้าของเพจ หากยังไม่เดินทางมาพบภายในวันที่ 14 มิ.ย. 65 เวลา 10.00 น. ณ เขตเทศบาล ต.เกล็ดแก้ว เจ้าหน้าที่จะเข้าไปรื้อถอนอาคารสถานเลี้ยงสุนัขทันที