Monday, 25 November 2024

แยกให้ออกนอนไม่หลับ จริงๆหรือเพียงแค่คิดไปเองในแต่ละคืน!?? Insomnia Identity แยกให้ออกนะ!??

13 Jun 2022
331

แยกให้ออกนอนไม่หลับ จริงๆหรือเพียงแค่ “คิดไปเอง” ว่า “นอนไม่หลับ” และอาการนี้นักวิจัยบอกว่ามันส่งผลร้ายให้กับสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจมากกว่าอาการของคนที่นอนไม่หลับจริงๆ บอกเลยใครที่ตกอยู่ในอาการนี้มานานและไม่สามารถแยกออกได้ต้องดูห้ามพลาดเด็ดขาด

สล็อต xo Slotxo

แยกให้ออกนอนไม่หลับ จริงๆหรือเพียงแค่ “คิดไปเอง” ว่า “นอนไม่หลับ” และอาการนี้ส่งผลร้ายให้ร่างกายมากกว่าอาการนอนไม่หลับจริงๆ

แยกให้ออกนอนไม่หลับ-จริงๆหรือเพียงแค่ “คิดไปเอง”

อาการนอนไม่หลับตีสองตีสามยังนั่งเล่นโซเชียลอยู่เชื่อว่ามีหลายคนมากที่กำลังเป็นอยู่ แต่ในทางกลับกันคุณลองทบทวนสิว่าคุณนอนไม่หลับจริงๆ หรือเป็นเพียงความคิดว่านอนไม่หลับเท่านั้น!!?? น่าคิดใช่ไหมละกับคำถามที่เรากล่าวมา และถ้ามันเป็นคำถามที่น่าคิดนั้นต้องดูห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะว่าในวันนี้นั้นเราไปนำหนึ่งเรื่องราวที่น่าสนใจของอาการนอนไม่หลับที่เกิดขึ้นจากการแยกไม่ออกมาให้ดู

Insomnia Identity คืออาการที่ผู้คนนั้นคิดขึ้นมาเองว่าตัวเองนอนไม่หลับ

“คำว่านอนไม่หลับ (Insomnia) (Insomnia Identity) คืออาการที่ผู้คนนั้นคิดขึ้นมาเองว่าตัวเองนอนไม่หลับ ”

จริงหรือที่เขาบอกว่าการนอนไม่หลับของเรานั้นมาจากความคิด ต้องขอบอกเลยนะว่ามันคือเรื่องจริง เพราะทางนักวิจัยยืนยันและว่าอาการเหล่านี้นั้นส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจเป็นมากกว่าคนที่นอนไม่หลับจริงๆ เพราะเมื่อไม่นานมานี้มีหนึ่งงานวิจัยได้ออกมาเปิดเผย เรื่องราวที่พวกเขานั้นได้ไปทำการศึกษา เกี่ยวกับพฤติกรรมการนอนที่ผ่านมาแล้วมากกว่า 20 ปี และพบกับความซับซ้อนบางอย่างเกี่ยวกับความคิดและพฤติกรรมของแต่ละคน ยกตัวอย่างงานวิจัยเมื่อปี 1995 ที่ได้อาสาสมัครเป็นผู้สูงอายุเข้ามร่วมทดลอง ซึ่งอาสาสมัครนั้นบอกว่าตนเองนอนหลับได้ปกติ ซึ่งมันย้อนแยงกับความเป็นจริงที่คนอายุมากนั้นมักมีปัญหาในการนอน เพราะต้องใช้เวลานานกว่าจะนอนหลับได้สนิทแถมยังพบเจอมากถึง 3 วันต่อหนึ่งอาทิตย์ แต่ถ้าว่าผลที่ออกมาหลังจากทดลอง 6 เดือน และอาสาสมัครกลับปกติไม่มีอาการเหนื่อยล้าหลังตื่นนอน ที่มีผลจากการนอนไม่หลับเลยแม้แต่น้อยนิด

ส่วนอีกหนึ่งงานวิจัยที่ถูกยกมานั้นบอกว่าคนที่นอนไม่หลับมักพบว่าความดันในเลือดนั้นเสี่ยงที่จะเพิ่มสูงขึ้น 350-500 เปอร์เซ็นต์ ในทางกลับกันคนที่บอกว่าตัวเองนอนหลับปกติและที่จริงแล้วนอนไม่หลับกลับไม่มีความเสี่ยงเหมือนคนกลุ่มที่นอนไม่หลับเลย และในยุคปัจจุบันมีผู้คนจำนวนมากมักพร่ำบอกว่าตัวเองมีอาการนอนไม่หลับทั้ง ๆที่จริงแล้วตัวเองนอนหลับสนิทได้ปกติ จากผลการทดลองนั้นบอกมาว่า 37 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มคนดังกล่าวไม่ได้มีปัญหาเรื่องการนอน และถึงแม้ว่าคนกลุ่มนี้จะนอนหลับเต็มที่พวกเขาก็ยังคงเหนื่อยและวิตกกังวลเสมอ และ“มันก็หมายความว่าคนที่นอนไม่หลับมีสุขภาพดีกว่าคนนอนหลับ!”

แยกให้ออกนอนไม่หลับ-หรือแค่คิดไปเองว่านอนไม่หลับ

Michael J. Sateia อาจารย์จาก Dartmouth’s Geisel School of Medicine อธิบายอาการนี้ว่า

“ Self-fulfilling Prophecy ที่ให้ค่าอาการนอนไม่หลับจนกลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจ มันจะส่งผลให้เกิดเป็นความคิดที่นำไปสู่การนอนไม่หลับจริงๆ” แม้ว่าจะไม่สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนว่า อาการนอนไม่หลับมาจากความผิดปกติหรือมาจากอะแน่แท้จริง แต่อาจารย์ท่านนี้นั้นเชื่อว่ามันน่าจะมีผลมาจากพฤติกรรมเช่น คนที่มีอาการทางประสาทและโรคอุปาทาน มักจะคิดเยอะและคิดไปไกลเกินนกว่าเหตุ ถ้าหากต้องการแยก Insomnia Identity ออกจาก Insomnia มันถือว่าเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร เนื่องจากการวินิจฉัยอาการของผู้ป่วยเหล่านี้นั้นส่วนใหญ่มาจากการตั้งคำถามกับบุคคลที่ป่วยเอง และผู้ป่วยส่วนใหญ่นั้นก็มักจะพูดให้ตัวเองดูแย่และมีอาการนอนไม่หลับอย่างหนักมาก ดังนั้นการตรวจนั้นจึงเป็นเพียงขั้นตอนที่แพทย์สอบสอบเพื่อให้แน่ใจกับความคิดของผู้ป่วยเท่านั้น

ถึงแม้ว่าอาการนอนไม่หลับจะเข้ากับตำราที่บอกว่า “จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว”  ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่ามันมีอยู่สองเรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกัน และเรื่องว่านั้นก็คือจิตวิทยาและชีวภาพ ดังนั้นเมื่อผู้ป่วยมีความคิดว่าตัวเองป่วยไม่สบายมีภาวะนั้นภาวะนี้ ในกรณีที่ป่วยจริงและไม่จริงมันก็เป็นไปได้ว่า ร่างกายของเรานั้นจะเปลี่ยนแปลงไปตามคำพูด ดังนั้นคนที่มักบ่นว่านอนไม่หลับอยู่เป็นประจำจึงต้องหันมาในในความคิดของตัวเองเพิ่มมากขึ้น ด้วยการเลิกคิดเลิกพูดว่าตัวเองมีอาการนอนไม่หลับ เพราะนี้อาจคือหนึ่งวิธีที่ทำให้พวกคุณนอนนอนหลับได้อย่างสบายๆ แต่ถ้ายังไม่สามารถลบความคิดที่บอกว่าตัวเองนอนไม่หลับออกจากหัวไปได้เป็นระยะเวลายายาวนาน แนะนำว่าควรไปพบแพทย์ผู้ที่เชียวชาญ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและเข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธีและทันเวลา เพราะปัญหาของอาการนอนไม่หลับนั้นนส่งผลร้ายแรงมากกว่าที่คิด