Friday, 22 November 2024

แผ่นดินไหวครั้งใหญ่สุด เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 3,800 ปีก่อน และนี่คือภัยพิบัติธรรมชาติที่รุณแรงมากที่สุดของมนุษย์ยุคโบราณ

รู้หรือไม่ว่า “แผ่นดินไหวครั้งใหญ่สุด” เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 3,800 ปีก่อน และนี่คือภัยพิบัติธรรมชาติที่รุณแรงมากที่สุดประวัติศาสตร์มนุษย์ยุตโบราณ หลังจากที่นักโบราณคดีพบหลักฐานชิ้นสำคัญในพื้นที่ตอนเหนือของประเทศชิลี บอกเลยว่าเหตุการณ์ที่นักโบราณคดีพบเจอนั้นจะต้องทำให้ผู้คนที่ผ่านมาพบเจอกลัวแน่นอน

สล็อต xo Slotxo

แผ่นดินไหวครั้งใหญ่สุด  ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์นั้นเกิดขึ้นเมื่อ 3,800 ปีก่อน หลังจากที่นักโบราณคดีพบหลักฐานชิ้นสำคัญ

แผ่นดินไหวครั้งใหญ่สุด-ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์

แผ่นดินไหวถือว่าคือหนึ่งในภัยพิบัติธรรมชาติที่สร้างความเสียหายให้กับโลกที่มวลมนุษย์อาศัยอยู่เป็นอย่างมาก เนื่องจากเราไม่สามารถคาดการณ์ได้เลยว่าความเสียหายอันเกิดจากภัยพิบัติที่จะมาจากลาวาระเบิดสึนามิจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่และมันจะรุณแรงมากขนาดไหน หากมองย้อนกลับไปเมื่อปี 1960 ประมาณเดือนนเมษายน นั้นได้มีหนึ่งเหตุการณ์แผ่นดินไหวภัยพิบัติธรรมชาติเกิดขึ้นที่บัลดิเบีย ส่วนความรุณแรงที่สั่นสะเทือนวัดได้ระดับ 9.4 ความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้นสร้างความเสียหายหนักมากไปทั่วทุกพื้นที่ของเมือง แถมว่ายังมีผู้คนจำนวนมากกว่า 6,000 คนเสียชีวิตและสูญหาย ในตอนนั้นมีข่าวลืออกมาว่ารอยร้าวที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในครั้งนี้นั้นรวมขนาดความยาวแล้วได้ 800 กิโลเมตร แต่ถ้าว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในปี 1960 ที่บอกว่ารุนแรงมากที่สุดในประวัติศาสตร์นั้นก็ยังถือว่ายังไม่ใช่

เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในปี 1960

เนื่องจากนักโบราณคดีนั้นได้ไปพบเจอกับหลักฐานบางอย่างใหม่ล่าสุดที่บ่งบอกว่า แผ่นดินไหวครั้งที่ใหญ่มากที่สุดและเรียกว่ารุนแรงมากที่สุในประวัติศาสตร์นั้นเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 3,800 ปีก่อน นักโบราณคดีคาดการณ์ว่าเหตุการณ์รุนแรงในปีนั้นน่าจะเกิดขึ้นที่ประเทศชิลีทางตอนเหนือ บริเวณใกล้เคียงนั้นพบรอยร้าว ที่คาดว่าเป็นสาเหตุทำให้แผ่นดินไหวใหญ่ยาวมากกว่า 1,000 กิโลเมตร ที่มาพร้อมสึนามิหรือคลื่นลูกยักษ์ใหญ่สูงมากถึง 66 ฟุต ระดับความรุนแรงนั้นไม่สามารถประเมินได้เพราะขนาดหินที่ขนาดใหญ่เท่ารถยนตร์หนึ่งคัน คลื่นน้ำหรือสึนามิยังสามารถพัดพามันไปไกลถึงประเทศนิวซีแลนด์ได้

แผ่นดินไหวครั้งใหญ่สุด-เกิดขึ้นเมื่อ 3,800 ปีก่อน

แผ่นดินไหวครั้งนี้ที่นนักโบราณคดีพบเจอนั้นถือว่าเป็นแผ่นดินไหวที่มีพลังมากมหาศาลเนื่องจากมันมีสาเหตุมาจากแผ่นเปลือกโลกสองแผ่นว่างทับกันจากนั้นไม่นานแผ่นเปลือกโลกทั้งสองก็ชนกันจนเกิดแรงเสียดทานกันไปเรื่อย ๆ และสุดท้ายมันก็ได้ปลดปล่อยพลังงานที่มีมากมหาศาลออกมาในแบบที่เราเรียกมันว่า “แผ่นดินไหว” ส่วนหลักฐานชิ้นสำคัญที่ทำให้นักโบราณคดีทราบได้อย่างแท้จริงนั้นมาจาก เศษสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในทะเลที่ตกอยู่บริเวณเนินเขาสูง ที่ไม่น่าจะลอยมาได้จากคลื่นหรือพายุปกติ

แผ่นดินไหวครั้งใหญ่สุดที่ทำร้ายล้างโลก

เพื่อความชัวร์ว่าสิ่งที่พวกเขาคิดนั้นคือเรื่องจริงพวกเขาได้ทำการหาอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสีเพื่อค้นหาอายุวัตถุที่พวกเขาพบเจอให้แน่ชัด สุดท้ายพวกเขาพบว่าเศษซากที่พบเจอนั้นมันมาจากนอกชายฝั่งคาดว่าน่าจะถูกพัดพาเข้าสู่ชายฝั่งเมื่อ 3,800 ปีที่แล้ว ส่วนอีกหนึ่งหลักฐานชิ้นสำคัญนั้นก็คือ กำแพงหินโบราณที่น่าจะถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์ยุคโบราณที่พวกเขานั้นขุดเจอ และนี่คือหลักฐานที่บอกได้อย่างชัดเจนว่าสถานที่แห่งนั้นถูกล้างบางโดยสึนามิเมื่อ 3,800 ปีก่อน

เศษสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในทะเลที่ตกอยู่บริเวณเนินเขาสูง

James Goff นักธรณีวิทยา University of Southampton England กล่าวว่า …

“ผู้คนที่เคยอาศัยอยู่แถวนั้นในอดดีตนั้นเดินททางย้ายถิ่นฐานไปมือเปล่า และนี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ขิงคนในยุคนั้น เนื่องจากว่าพวกเขาต้องใช้เวลาในการเดินทางไกลมากไปอยู่ในที่ที่ไม่มีสึนามิ และมันต้องใช้เวลามากถึง 1,000 ปี ถึงจะสามารถกลับมาอยู่ที่ถิ่นฐานเดิมได้ และนี่เป็นเรื่องที่น่าตกใจเพราะพวกเขานั้นอยู่ในเขตที่ห่างไกลจากทะเล แต่จำเป็นจะต้องนนำอาหารทะเลอยู่”

แผ่นดินไหวครั้งใหญ่สุด-ของโลก

และนี่คือเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างมากสำหรับนักวิจัยและนักโบราณคดี เพราะการค้นพบเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ครั้งนี้นั้นทำให้หลายๆ ส่วนต้อนย้อนกลับมาสำรวจและค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป เนื่องจากการค้นพบครั้งนี้นั้นมีประโยชน์และส่งผลดีให้หลายๆด้าน แถมยังสามารถทำให้ทราบล่วงหน้าถึงอันตรายของแผ่นดินไหวที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย