วิจัยชี้!! คนวัยกลางคนและวัยชราหาก “ยืนขาเดียวไม่ได้” 10 วินาที เสี่ยงตายภายใน 10 ปี

วิจัยชี้!! ยืนขาเดียวไม่ได้ 10 วินาที เสี่ยงตายภายใน 10 ปี เพราะเสี่ยงโรคสุขภาพเช่นหลอดเลือดสมองตีบและหลอดเลือดสมองตีบแตก มากกว่าคนปกติสำหรับวัยกลางคนและวัยชรา เนื่องจากผลงานวิจัยที่ผ่านมานั้นสอดคล้องกันกับวิจัยใหม่ที่ทางนักวิจัยจากสหรัฐฯทำขึ้นมา

ยืนขาเดียวไม่ได้ 10 วินาที เสี่ยงหลอดเลือดสมองตีบหรือแตก (stroke) สูงกว่าคนทั่วไป

ทางทีมนักวิจัยนานาชาตินั้นได้นำเสนอวิธีทดสอบระดับความแข็งแรงของร่างกายด้วยการใช้วิธี “ยืนขาเดียว” ในระยะเวลา 10 วินาที สำหรับผู้ที่อยู่ในวัยชราและวัยกลางคน ซึ่งวิธีนี้นั้นคือมาตรฐานในการทดสอบความแข็งแรง เนื่องจากก่อนหน้านี้พวกเขานั้นพบว่า วัยกลางคนและวัยชรามีความเสี่ยงเสียชีวิตภายใน 10 ปีข้างหน้า เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า ถ้าหากว่าพวกเขานั้นไม่สามารถยืนขาเดียวเป็นเวลา 10 วินาทีได้

British Journal of Sports Medicine รายงานผลการวิจัยในครั้งนี้ที่ได้รับความร่วมมือจากหลายส่วนเช่น ทีมนักวิทยาศาสตร์จากสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย ฟินแลนด์ และบราซิล ว่า

หลังจากที่ทางนักวิจัยนั้นได้ทำการติดตามผลการศึกษาจากอาสาสมัครที่มีอายุประมาณ 51-75ปี จำนวนมากกว่า 1,702 คน จากปี 2008-2020 นั้นพบว่าอาสาสมัครที่เข้าร่วมการทดลองในครั้งนี้นั้นมีสภาพขาและเท้าเป็นปกติทั้งหมด และไม่มีปัญหาในการก้าวเดินเลยแม้แต่คนเดียว แต่ 1 ใน 5 หรือประมาณ 21 เปอร์เซ็นต์ นั้นไม่สามารถทำท่ายืนขาเดียว ในระยะเวลา 10 วินาทีได้ ซึ่งในการทดสอบครั้งนี้นักวิจัยจะให้อาสาสมัครมองตรงไปด้านหน้า ปล่อยแขนทั้งสองข้างแนบไปกับลำตัว จาหนั้นให้เอานิ้วเท้าข้างที่ยกขึ้นมาแตะเอาไว้ที่หน่องขาข้างที่ใช้ยืน ในการทดสอบนักวิจัยจะให้อาสาสมัครทำท่านี้จำนวน 3 ครั้ง ด้วยขาทั้งสองข้างสลับกันไปมา

ผลการศึกษาในช่วง 10 ปีต่อมา พบว่าจำนวนผู้เสียชีวิตทั้ง 123 คน นั้นเสียชีวิตด้วยเหตุผลลที่แตกต่างกันออกไป แต่หนึ่งในสาเหตุที่มีความสัมพันธ์กับการทดลองเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมานั้นบอกว่ากลุ่มคนไม่สามารถยืนขาเดียวได้ถึง 10 วินาที นั้นมีอัตราการเสียชีวิตมากกว่าที่คนทั่วไปถึง 84 เปอร์เซ็นต์ หรือสูงกว่าเกือบสองเท่านั้นเอง ในช่วงก่อนหน้านี้นั้นมีงานวิจัยหลายชิ้นนั้นชี้ให้เห็นเลยว่า คนที่ไม่สามารถยืนขาเดียวในระยะเวลา 10 วินาที นั้นเสี่ยงต่ออาการหลอดเลือดสมองตีบหรือแตก มากกว่าคนปกติอีกทั้งยังเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อมมากกว่าคนอื่นอีกด้วย

ถึงแม้ว่าการทดลองที่นักวิจัยทำขึ้นมาในครั้งนี้นั้นยังไม่สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนว่า การทรงตัวในครั้งนี้นั้นมีความสัมพันธ์อะไรกับอายุขัยของมนุษย์ ซึ่งทางทีมนักวิจัยนั้นบอกว่าการทรงตัวที่พวกเขาได้ทดลองในครั้งนั้นคือ ตัวชี้วัดค่าความแข็งแรงภายในร่างกายได้เป็นอย่างดี ของคนกลุ่มวัยชราและกลุ่มของวัยกลางคน เนื่องจากความสามารถเรื่องการทรงตัวของคนปกติทั่วไปเมื่อถึงอายุ 60 ปี จะลดลงอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถคาดเดาได้ในบางครั้ง

แม้ว่าผลการทดลองในครั้งนั้นจะมีข้อจำกัดที่มาก เพราะสามารถทดลองได้แต่เพียงสัญชาติเดียว แต่ทางทีมนักวิจัยนั้นได้บอกว่าการทดลองในครั้งนี้นั้นมีความแม่นยำมากพอ ที่จะกลายไปเป็นวิธีใช้ทดสอบมาตรฐานในการตรวจสุขภาพประจำปีของคนกลุ่มวัยชราได้เลย เพราะวิธีนี้นั้นสามารถทำได้ง่ายเห็นผลการทดลองที่รวดเร็วและไม่เปลืองค่าใช้จ่าย