รู้ไหมว่า “ยีราฟยุคดึกดำบรรพ์” ไม่ได้ “คอยาว” แถมยังมีกะโหลกศีรษะค่อนข้างหนาคาดว่าน่าจะใช้เพื่อต่อสู้

รู้ไหมว่า “ยีราฟยุคดึกดำบรรพ์” เมื่อสิบเจ็ดล้านปี ก่อนประวัติศาสตร์ ไม่ได้ “คอยาว” แถมยังมีกะโหลกศีรษะเหมือนกันกับหมวกนิรภัยค่อนข้างหนาคาดว่าน่าจะใช้เพื่อป้องกันตัว จากงานวิจัยของ Chinese academy of sciences (CAS) ทีเปิดเผยออกมาเมื่อไม่นานที่ผ่านมา

ยีราฟยุคดึกดำบรรพ์ คอสั้นแถมมีกะโหลกทรงหมวกนิรภัยสุดแปลกไปจากยุคนี้มาก

ทีมนักบรรพชีวินวิทยาของ Chinese academy of sciences (CAS) เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาฟอสซิลกระดูกสัตว์อายุเก่าแก่สิบเจ็ดล้านปี ที่พบเจอในแหล่ง Junggar Basin ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีนเมื่อปี 1996 เนื่องจากพบว่ามันคือสัตว์โบราณที่อยู่ในตระกูลยีราฟที่สาบสูญไปเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าว่าพวกมันนั้นกลับมีตัวเล็กเท่ามากกว่าในตอนนี้ มีลำคอที่สั้นป้อและยังมีรูปลักษณ์กะโหลกศีรษะที่ค่อนข้างหนารูปทรงคล้ายหมวกนิรภัยอีกด้วย ซึ่งนักวิจัยนั้นได้ทำการตั้งชื่อให้เจ้านี้ว่า Discokeryx xiezhi และชื่อที่ว่านี้มาจากชื่อสัตว์ที่อยู่ในตำนานของประเทศจีน

นักวิจัยนั้นให้ให้ข้อมูลว่า Discokeryx xiezhi ที่พวกเขานั้นพบเจอคือหลักฐานที่บ่งบอกว่าในอดีตนั้นลำคอยาวขของยีราฟนั้นไม่ได้วิวัฒนาการขึ้นเพื่อการอาหารกินในที่ที่อยู่พื้นที่สูงแต่อย่างใด แม้ว่าในยุคปัจจุบันคอของยีราฟนั้นจะมีความยาวมากถึง 3 เมตร จะมีเอาไว้ใช้เพื่อเป็น “อาวุธ” ในการต้อสู้เพื่อสิ่งต่างๆ เช่นการอหาอาหารและการผสมพันธุ์ ส่วนการใช้งานนั้นคือมันจะนำเอาหัวที่หนาๆแข็งๆของมันนั้นฟาดไปที่จุดอ่อนจุดสำคัญของอีกฝั่งตรงข้าม ซึ่งนี่มันคือพฤติกรรมที่คล้ายกันกับบรรพ์ในยุคดึกดำบรรพ์มากๆ เพราะลำคอนั้นคือส่วนสำคัญที่มันเอาไว้พุ่งเข้าชนคู่ต่อสู้เหมือนแพะอย่างไม่มีผิดเพี้ยน แถมว่าส่วนฐานของกะโหลกศีรษะและกระดูกคอของสัตว์โบราณชนิดนี้นั้น  ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้รองรับแรงการกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม

“สิ่งต่างๆเหล่านี้ที่กล่าวมานั้นสามารถบ่งบอกได้อย่างชัดเจนเลยว่าสัตว์ตระกูลยีราฟนั้นวิวัฒนาการลำคอขึ้นมาตามยุคตามสมัยของมันและมันขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ด้วย และมันน่าจะไม่สามารถวิวัฒนาการแบบต่อเนื่องได้ ซึ่งมันเป็นเหตุผลที่ว่าพวกเรานั้นไม่สามารถค้นหาฟอสซิลของยีราฟที่มีความยาวลำคอขนาดพอดีไม่พบสักที ทีมผู้วิจัยกล่าวสรุป”