เพจเฟซบุ๊ก Nurse Connect เดือด! แจ้งข่าวล่าสุดและ ออกย้ำ!! จะไม่เงียบเดินหน้าร้องเรียนต่อแพทยสภา ถึงเรื่องราวกรณีที่ ศ. พญ. กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ใช้รูปพยาบาลผู้เสียชีวิตจาก COVID ในสื่อการสอนโดยไม่ได้รับอนุญาต
ออกย้ำ!! เดินหน้า ลงชื่อร้องเรียนต่อแพทยสภา เคส ศ. พญ. กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ใช้รูปพยาบาลผู้เสียชีวิตจาก COVID ทำสื่อการสอนโดยไม่ได้รับอนุญาต
เพจเฟซบุ๊ก Nurse Connect เดือด! ออกย้ำ!! และดำเนินงานการร้องเรียน ศ. พญ. กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ต่อแพทยสภา ถึงกรณีที่นำรูปการณ์เสียชีวิตของพยาบาลที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด19 มาใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนในหัวข้อเรื่อง “อย่ามัวรอวัคซีนที่ต้องการ เพราะอาจช้าไป” ทั้งนี้ เพื่อดำเนินการเอาผิดที่ทำผิดต่อจริยธรรมทางการแพทย์ กระทำการณ์ไม่เหมาะสมและไม่ตระหนักถึงสิทธิของผู้ป่วย แม้จะเสียชีวิตลงแล้วก็ตาม Nurse Connect ได้ระบุข้อคาวมว่า
เราจะไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบ !
สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่แพทย์หญิงกุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ได้มีการนํารูปผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นพยาบาลวิชาชีพ ไปใช้ประกอบสื่อการสอนในเรื่อง “ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับวัคซีนโควิดไฟ เซอร์ (Pfizer) และอาการภายหลังได้รับวัคซีน” ซึ่งใช้ในการอบรมบุคลากรของกระทรวงเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ในการบรรยายแพทย์หญิงกุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ได้ทําการเติมถ้อยคําในเอกสารประกอบการบรรยายว่า “อย่ามัวแต่รอวัคซีนที่ต้องการ เพราะอาจช้าไป” กับ “เป็น Hyperthyroidism และไม่ยอมฉีดวัคซีน กลัวแพ้ จะรอ mRNA” โดยได้มีการนํารูปภาพจากข่าวการเสียชีวิตของพยาบาลวิชาชีพท่านนี้ พร้อมกับรูปภาพในงานศพมา ประกอบการสอนโดยมิได้ปิดบังใบหน้าหรือชื่อผู้เสียชีวิต โดยในขณะที่บรรยายยังได้มีการใช้คําพูดว่า “อย่ามามัวรอ ฉีดวัคซีนในฝัน เพราะท่านอาจจะไม่ทันฉีด เสร็จ เจ้าโควิดมันไปซะก่อน” และต่อมาเอกสารประกอบการบรรยายได้ถูกเผยแพร่ออกสื่อจนสาธารณชนได้ทราบเรื่องนี้ทั้งหมด รายละเอียดปรากฏตามเอกสารประกอบการสอนแนบท้ายหนังสือฉบับนี้
ต่อมาทางกลุ่ม Nurses Connect ได้มีการติดต่อญาติผู้เสียชีวิตที่ถูกกล่าวอ้าง ในเรื่องของข้อเท็จจริง และ การขออนุญาตนําภาพผู้เสียชีวิตไปใช้โดยมีการเพิ่มเติมถ้อยคําดังกล่าวลงไปในสื่อการสอน ญาติของผู้เสียชีวิตได้ให้ ข้อมูลว่า “ตนเองรู้สึกเสียใจที่พี่สาวเสียแล้วยังต้องเจออะไรแบบนี้อีก และให้ข้อมูลกับทาง Nurses Connect ว่า ผู้เสียชีวิตมีโรคประจําตัวเป็น Hyperthyroidism ในช่วงปีที่แล้วที่ยังมีการระบาดของโรคยังไม่มาก ผู้เสียชีวิตได้มี การปรึกษาแพทย์ก่อนแล้วในเรื่องของการฉีดวัคซีน ซึ่งแพทย์ได้ลงความเห็นว่า ไม่แนะนําให้ฉีด Sinovac เนื่องจาก คนที่มีโรคประจําตัวแบบผู้เสียชีวิตมีโอกาสที่จะแพ้วัคซีนชนิดนี้ได้”
ต่อมาผู้เสียชีวิตและสามีได้มีการจองวัคซีน AstraZeneca ไว้แล้วด้วย มิใช่ว่าผู้เสียชีวิตประสงค์จะไม่ฉีดวัคซีน แต่เนื่องจากวันนัดฉีดวัคซีน ผู้เสียชีวิตมีไข้ จึงทําให้ไม่สามารถฉีดวัคซีน AstraZeneca ได้ในวันนั้น และต้องสละวัคซีน AstraZeneca โดสนั้นไป ซึ่งวันนั้นสามีของผู้เสียชีวิตเองก็ได้รับวัคซีน AstraZeneca ทําให้ผู้เสียชีวิตยังไม่ได้รับวัคซีนใดๆ มิใช่เพราะว่าผู้เสียชีวิตต้องการรอแต่เพียงวัคซีน mRNA อย่างที่ถูกกล่าวอ้าง และญาติได้แจ้งกับ Nurses Connect ว่า ทางผู้บรรยายไม่ได้มีการขออนุญาตกับทางญาติผู้เสียชีวิตในการนํารูปและข้อมูลส่วนตัวไป ประกอบสื่อการสอนโดยใส่ข้อความที่เพิ่มเติมขึ้นมาเองซึ่งไม่ใช่ข้อเท็จจริงแต่อย่างใด
ดังนั้น ญาติได้แจ้งความประสงค์ผ่านทาง Nurses Connect ว่า ต้องการให้ผู้บรรยายคนนี้ลบข้อความทุกอย่างที่เกี่ยวกับผู้เสียชีวิตออกจากเอกสารประกอบการบรรยายและออกจากสื่อสาธารณะต่างๆ ทั้งหมดโดยทันที และให้หยุดนําผู้เสียชีวิตมาเป็นเครื่องมือเรื่องวัคซีน
ทาง Nurses Connect ได้มีการชี้แจงผ่านทางเพจ Nurses Connect ในแง่ของข้อเท็จจริงและข้อเรียกร้อง เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา แต่ทางผู้บรรยายมิได้มีการตอบรับข้อเสนอทั้งของญาติและของ Nurses Connect แต่อย่างใด Nurses Connect ตระหนักถึงการกระทำผิดดังกล่าวว่าเป็นการผิดต่อข้อบังคับแพทยสภา ว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2549 ดังนี้
ข้อที่ 27 ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมต้องไม่เปิดเผยความลับของผู้ป่วย หรือผู้ป่วยที่เสียชีวิตแล้วซึ่งตนทราบมาเนื่องจากการประกอบวิชาชีพ เว้นแต่ได้รับความยินยอมโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเมื่อต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามหน้าที่
ข้อ 33 ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมพึงยกย่องให้เกียรติและเคารพในศักดิ์ศรีของผู้ร่วมงาน
ข้อ 34 ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมต้องไม่ทับถมให้ร้ายหรือกลั่นแกล้งผู้ร่วมงาน
โดยทาง Nurses Connect มองว่าการใช้คำกล่าวว่า “อย่ามัวรอวัคซีนที่ต้องการ เพราะอาจช้าไป” และการนำรูปผู้เสียชีวิตไปเพิ่มเติมข้อความโดยไม่ได้รับการอนุญาตจากญาติผู้เสียชีวิตก่อนนั้น เป็นการกล่าวโทษผู้เสียชีวิตว่าถึงแก่กรรมเนื่องจากรอฉีดวัคซีนนานเกินไปอย่างไม่สมเหตุสมผล และเป็นการหยามเกียรติและศักดิ์ศรีของผู้เสียชีวิต และหยามเกียรติในความเป็นพยาบาลวิชาชีพของผู้เสียชีวิตอย่างร้ายแรง
Nurses Connect และเครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์ เห็นสมควรในการเรียกร้องมายัง คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ให้มีการดำเนินการสอบจริยธรรมทางการแพทย์ของแพทย์หญิงกุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ว่าพฤติกรรมดังกล่าวมีความผิดเชิงจริยธรรมการแพทย์หรือกฎหมายของวิชาชีพแพทย์หรือไม่ และขอเรียกร้องให้แพทย์หญิงกุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ แสดงความรับผิดชอบด้วยการทําตามความประสงค์ของญาติผู้เสียชีวิต พร้อมทั้งชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรและให้ขอโทษผู้เสียชีวิตและญาติผู้เสียชีวิตต่อสื่อสาธารณะต่อไป ไม่ควรมีใครที่ถูกกล่าวโทษที่ยังไม่ได้รับวัคซีน นอกจากรัฐบาลและคณะกรรมการจัดสรรวัคซีน หากนำ mRN เข้ามาเป็นวัคซีนหลัก เพื่อนเราและประชาชนคงไม่ต้องจากไปเช่นนี้
#นำmRNAvaccineเข้ามาเป็นวัคซีนหลัก
ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม (แพทย์) สามารถลงชื่อเพื่อร้องเรียนต่อแพทยสภา เพื่อการสืบสวนหาข้อเท็จจริงและการจัดการที่เหมาะสมของแพทยสภาได้ที่ลิงค์นี้
https://forms.gle/T6tqXM7oWAUH1Em16
อ้างอิงจาก: ข้อบังคับแพทยสภา ว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2549
สนับสนุนโดย
UFABET | UFA365 | UFABET เข้าสู่ระบบ | UFABET เว็บตรง | สล็อต เว็บตรง | SLOTXO | สล็อต | PG SLOT | สล็อต XO | สล็อต | JOKER123 | สล็อต เว็บตรง | สล็อตโจ๊กเกอร์