สาวกลายเป็นอัมพฤกษ์ เตือนเป็นอุทาหรณ์ ไม่ชอบดื่มน้ำเปล่า ทำให้เส้นเลือดในสมองตีบ!!

ข่าวเด่นออนไลน์ ชาวเน็ตแห่กดแชร์ หลังจากสาวกลายเป็นอัมพฤกษ์บอกเล่าประสบการณ์ ไม่ชอบดื่มน้ำเปล่า จนทำให้ไม่สามารถเดินเหินได้ ผลกระทบอย่างหนักที่สุดในชีวิต เพราะร่างกายครึ่งซีกชาไปหมด ก่อนหน้าล้มวูบหมอตรวจพบเสน้เลือดในสมองตีบ

ไม่ชอบดื่มน้ำเปล่า เลือกดื่มแต่น้ำอัดลม สุดท้ายกลายเป็นอัมพฤกษ์ เดินไม่ได้ ปากเบี้ยว ร่างกายซีกซ้ายชาไม่รู้สึก เส้นเลือดในสมองตีบ แชร์ประสบการณ์สลด

เฟซบุ๊กชื่บัญชี ปาล์ม มินิ ออกโพสต์เล่าประสบการณ์แสนสะเทือนใจ เหตุเกิดจากนิสัยนี้! ไม่ชอบกินน้ำเปล่า เจ้าตัวกล่าวว่าขอฝากเรื่องราวต่อไปนี้ เพื่อเป็นวิทยาทานเตือนภัยที่เสี่ยงทำให้เป็นอัมพฤกษ์ มันเป็นภัยเงียบที่หลายคนไม่รู้ตัว การที่เราไม่ชอบดื่มน้ำเปล่ามันอันตรายมาก ก่อนจะรู้ตัวมันก็สายไปแล้ว การที่ใครคนหนึ่งจะเป็นอัมฟฤกษ์มันไม่มีสัญญาบอกหรือแจ้งเตือนเราก่อน

บางคนอาจจะไม่ได้โชคดีเหมือนที่เจ้าของดพสต์นี้ เธอบอกว่าช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ตัวเองไม่เคยดื่มน้ำเปล่าเลย เรื่องจริงที่เธอเป็นคือ ไม่ว่าจะออกกำลังกายหรือทำอะไรเหนื่อยแค่ไหน หรือแม้แต่น้ำที่ใช้กินยาก็ไม่มีน้ำเปล่า เพราะสิ่งที่เธอใช้ดื่มคือ น้ำชา น้ำอัดลม น้ำผลไม้ และเครื่องดื่มชูกำลัง น้ำพวกนี้ที่เธอกินแทนน้ำเปล่าทั้งหมด เนื่องจากคิดว่ามันเป็นน้ำเหมือนกัน(ของเหลว)

กระทั่งปี 2564 เธอเริ่มมีอาการปวดหัว มันปวดแบบจี๊ดขึ้นสมอง ปวดคล้ายกับปวดหัวไมเกรน เมื่อกินยามันก็หายไปเป็นอยู่แบบนี้ติดต่อกัน 2 เดือน กระทั่งในวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 เธอเข้าห้องน้ำเพื่อทธุระส่วนตัว แต่เธอก็รู้สึกว่ามีคนมาเปิด-ปิดไฟในห้องน้ำสลับสลับไปมา เมื่อเธอลุกข้นยืนตัวก็เอียงไปทางด้านซ้ายทันที พยายามเรียกสติตัวเองเพื่อเดินออกไปจากห้องน้ำ ก่อนที่จะตัดสินใจเรียกแฟนมาช่วย เมื่อแฟนเข้ามาเธอก็ล้มทั้งยืน ตัวชาทั้งซีกซ้าย และปากเริ่มเบี้ยว ก่อนที่จะอาเจียนร่วมด้วย

คนในครอบครัวตกใจและเร่งพาตัวส่งโรงพยาบาลในครึ่งชั่วโมง แพทย์และเจ้าหน้าที่พาเธอเข้าอุโมงค์ตรวจแบบ MRI เมื่อผลสแกนออกว่า พบว่าเสน้เลือดในสมองมันตีบบวกกับมีอาการสมองบวม และหากสมองบวมไม่ลง ต้องทำการผ่าตัดสมอง ทำให้ตอนนั้นเธอต้องนอนที่ ICU จำนวน 2 คืน เพื่อดูว่าการเต้นของหัวใจจะผิดปกติด้วยหรือไม่ แต่พบว่ามันปกติดีทุกอย่าง

แต่ยังนับว่าเป็นความโขคดีที่อาการบวมของสมองลดลง แต่สิ่งที่เธอต้องรับสภาพคือไม่สามารถเดินได้  เพราะร่างกายด้านซ้ายทั้งหมดไม่สามารถใช้งานได้เลย แม้แต่ตาด้านซ้ายก็ตกลงมา ปากเบี้ยวจนพูดไม่ชัด ไม่สามารถอาบน้ำได้เอง ตั้งแต่เกิดเหตุก็นอนรักษาที่โรงพยาบาล 1 สัปดาห์ ทำกายภาพบำบัดเพื่อให้สามารถกลับมาเดินได้อีกครั้ง เธอใช้เวลาฟื้นฟูตัวเองร่วม 2 เดือน เข้ารักษาทุกวิธีทางทั้งกินยาหรือฝั่งเข็มไปทำหมด จนกระทั่งตอนนี้สามารถกลับมาเดินได้ 80 % แค่นี้มันก็ถือว่าดีมากแล้ว

หากจะหาข้อสรุปที่ทำให้เกิดอาการป่วยนี้ คือ “น้ำเปล่า” ร่างได้ไม่ได้รับนำเปล่า เลือดในร่างกายจึงเข้มข้นจนเหนียวหนืดมากจนเกินไป ไหลเวียนไม่สะดวก และจับตัวกันเป็นก้อน สำหรับเหตุการณ์ที่เธอเจอยังคงคิดว่าโชคดีที่มันไม่ไปกระทบกับเส้นเลือดในสมอง ไม่ส่งผลต่อความจำ หรือส่งผลให้เส้นเลือดแตกในสมอง เพราะถ้าหากเป็นเช่นนั้นเธอคงไม่ได้มาเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนชาวเน็ตได้รับรู้ถึงภัยเงียบนี้ ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2565 วันคบรอบ 1 ปี อาการป่วยอัมพฤกษ์ บางดีน้ำเปล่าก็คือยาที่ดีที่สุด ไม่ต้องเสี่ยงมาเสียค่ารักษาในราคาแพง