ผัวกระหน่ำยิงเมีย เพราะกลัวว่าเธอจะปันใจให้ชายอื่น พี่ชายเผยสลด น้องเขยพยายามตายตาม

โศกนาฎกรรมกลางสวนอาหารดังในสระบุรี หลังคู่รักทะเลาะวิวาทดังสนั่น พูดคุยไม่เข้าใจกันก่อนที่ผัวกระหน่ำยิงเมีย ตายอนาจคาที่ส่วนลูกค้าโต๊ะอื่นวิ่งหนีระทึก..กลัวโดนลูกหลง แรงจูงใจในการก่อเหตุ คือ ฝ่ายชายหึงหวงภรรยาเกรงเธอนอกใจ

ระทึก! ผัวกระหน่ำยิงเมีย กลางร้านอาหารดัง-สระบุรี ปมเกรงโดนนอกใจ พี่ชายคนตายเผย น้องเขยจะยิงตัวตายตาม แต่มันขัดลำก่อน น้องเขยคว้ามีดแทงคออกแทน

กรณี ผัวกระหน่ำยิงเมีย จนกระทั่งดับสลดจมกองเลือดตรงจุดเกิดเหตุ ทั้งสองได้นั่งร่วมโต๊ะกินข้าวภายในสวนอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งที่จังหวัดสระบุรี ไม่นานนักทั้งสองทะเลาะกันและฝ่ายชายคว้าเอาปืนขนาด จุด38 ขึ้นมายิงเมียตายสลด เรื่องเกิดจากพิษรักแรงหึงที่รุนแรงจนขาดสติ

เวลาประมาณ 00.45 น. ของวันที่ 25 กรกฎาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เฉลิมพระเกียรติ ได้รับแจ้งเหตุมีการยิงกันเสียชีวิตที่สวนอาหารแห่งหนึ่ง จุดเกิดเหตุตั้งอยู่ที่บริเวณริมถนนเขตพื้นที่ของตำบลบ้านแก้ง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี ตำรวจและประสานงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก่อนรุดลงพื้นที่ทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ทั้งหมดไปถึงจุดเกิดเหตุพบว่า ที่นั้นคือสวนอาหาร โดยมีการขุดสระน้ำล้อมตัวอาคารเอาไว้ โดยมีการสร้างสะพานข้ามไปยังตัวอาคาร ด้านหน้ามีการจัดตู้โชว์ของเก่า พื้นของอาคารถูกปูด้วยซีเมนต์ ตรงกลางของร้านอาหารมีร่างของเจ้าของร้านอาหารนี้นอนตาย โดนอาวุธปืนจุด38ยิงจำนวน 4 นัด บริเวณศีรษะ-ใต้คาง-หน้าอก และด้านหลัง จุดละ 1 นัด ทราบชื่อผู้ตายคือ นางวารินทร์ วัย 58 ปี (เจ้าของสวนอาหาร)

ถัดมาบริเวณข้างกันนั้นพบกับผู้บาดเจ็บอาการสาหัส คือ นายสรรค์ธกรณ์ วัย 57 ปี ตอนนั้นนอนหายใจรวยริน โดยมีมีดปักบริเวณอก แพทย์เวรและกู้ภัยเร่งเข้าไปช่วยเหลือเร่งนำตัวส่งไปยังโรงพยาบาล สระบุรี ทั้งนี้มีสุนัขชื่อ “โอเลี้ยง” วัย 9 ปี นอนเฝ้าผู้บาดเจ็บอยู่ตรงนั้นด้วย

บนโต๊ะอาหารตรวจพบจานข้าวเครื่องดื่มวางอยู่ และมีซองของปืน ปลอกของกระสุนปืนจุด38 ตกรอบริเวณ จำนวน 4 นัด ซึ่งมีหัวกระสุนที่เป็นชนิดเดียวกัน 3 หัว วางอยู่บนชั้นเก็บของที่อยู่บริเวณด้นหลังของร้าน โดยจุดนั้นเป็นครัวของร้านอาหาร เจ้าหน้าที่พบว่ากระบอกปืนจุด38 และยังมีกล้องวงจรปิดที่ถูกแกะออกมาวางอยู่ เมื่อตรวจสอบก็รู้ว่าภาพขณะที่เกิดเหตุและก่อนเกิดเหตุทั้งหมดได้หายไปแล้ว ตำรวจเลยเก็บรวบรวมนำไปเป็นหลักฐาน

ทางด้านพี่ชายของผู้ตาย(นางวารินทร์) นายมานิตย์ วัย 65 ปี เล่าว่า น้องสาวและผู้บาดเจ็บ(นายสรรค์ธกรณ์)น้องเขย ทั้งสองต่างก็เคยผ่านมาแต่งงานและมีครอบครัวมาแล้ว และทั้งสองก็ผ่านการเลิกราทั้งอดีตสามีและอดีตภรรยาเป็นที่เรียบร้อย ก่อนจะมาพบกันและแต่งงานกันอย่างถูกต้องตามประเพณี ตั้งแต่ 2 ปีที่ผ่านมา โดยพิธีมงคลสมรสจัดขึ้นก่อนที่จะมีโควิดมาระบาด นายสรรค์ธกรณ์ เขาทำธรกิจเปิดโชว์รูมขายรถจี๊ปโบราณ ตั้งร้านบริเวณริมถนนบายพาส โดยบริเวณนั้นก็อยู่ไม่ไกลจากร้านอาหารเท่าไหร่นัก

พี่ชายคนตายเล่าต่อว่า ช่วงค่ำในเกิดเหตุ เขารู้มาว่ามีแก๊งคารวานรถมอเตอร์ไซค์ชอปเปอร์ เดินทางเข้ามาจัดเรียกในร้านอาหารของน้องสาว เวลาผ่านไปจนร้านปิดแล้ว น้องสาวและน้องเขยคงนั่งทานข้าวด้วยกัน ก่อนจะเกิดมีปากเสียงทะเลาะกันรุนแรง คาดว่าน้องเขยคงหึงหวงกลัวว่าน้องสาวจะแอบนอกใจแบ่งใจไปมีชายอื่น จากนั้นน้องเขยหยิบปืนมายิงน้องจนตาย และน้องเขยพยายามใช้กระสุนปืนที่เหลือในกระบอกเดียวกันตัวตายตาม แต่ไม่สามารถยิงได้ เพราะมันคงขัดลำ ทำให้เขาวิ่งเข้าไปหามีดที่ในครัวมาแทงตัวเองเพื่อจะฆ่าตัวตายตามภรรยา

เบื้องต้นเจ้าหน้ที่ได้เก็บเอาพยานหลักฐานทั้งหมดไปตรวจสอบ และเร่งดำเนินการทางกฎหมาย หลังจากผู้ก่อเหตุรักษาหายจากอาการบาดเจ็บใช้มีดแทงอกตัวเอง เพื่อนำมาลงโทษตามขั้นตอนต่อไป