งานวิจัยชี้!!เด็กที่ช่วยทำงานบ้าน เป็นประจำอาจช่วยเพิ่มความสามารถในการจัดการความคิดความจำให้ยืดหยุ่นและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้ในอนาคต

Lifestyle งานวิจัยชี้!!เด็กที่ช่วยทำงานบ้าน เป็นประจำจะมีพัฒนาการทางสมองดีขึ้นอาจช่วยเพิ่มความสามารถในการจัดการความคิดความจำให้ยืดหยุ่นและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้ในอนาคต  แม้การทำงานบ้านของเด็กๆนั้นจะคือหายนะที่ทำให้เด็กๆหลายๆคนนั้นไม่ปลื้มเป็นอย่างมาก

เด็กที่ช่วยทำงานบ้าน มีพัฒนาการทางสมองดีขึ้น!และจะประสบความสำเร็จในชีวิต

สำหรับเด็กๆนั้นการทำงานบ้านช่วยคุณพ่อคุณแม่นั้นเป็นเรื่องที่เด็กๆไม่ชอบมากๆ แถมยังทำให้ขุ่นเคืองในใจถ้าไม่มีสิ่งแลกเปลี่ยนและหลอกล่อให้มีแรงใจในการทำงานบ้าน หนึ่งในเด็กคนที่ว่านั้นก็คือพวกเราไม่ต้องปฏิเสธนะเพราะมันคือเรื่องจริง! 5555 หารู้ไม่ว่าการไม่อยากทำงานบ้านนั้นทำให้เรานั้นพลาดการเรียนรู้บางอย่างไป เพราะว่ามีงานวิจัยบอกเด็กที่ช่วยพ่อแม่ทำงานนั้นจะมีพัฒนาการทางสมองดีที่ดีมากกว่าคนที่ไม่ได้ทำ วารสาร Australian Occupational Therapy นั้นได้เผยแพร่ข้อมูลจากนักวิจัยที่น่าสนนใจว่า คนที่ทำงานบ้านเป็นประจำตั้งแต่เด็กนั้นอาจช่วยเพิ่มความสามารถในการจัดการ (Executive Functions) ซึ่งความสามารถเหล่านั้นมันจะส่งผลต่อความสำเร็จตลอดช่วงชีวิตของคนเราตั้งแต่เด็กจนโต ไม่ว่าจะเป็นด้านผลการเรียนที่ดีขึ้น สุขภาพจิต สุขภาพกาย รวมไปถึงการประสบความสำเร็จทางหน้าที่การงานในอนาคต Executive Functions ที่ว่านั้นก็คือ

ความสามารถในการจำ 

• Working Memory

ความยืดหยุ่นทางความคิด

• Cognitive Flexibility

การควบคุมตนเอง

• Inhibitory Control

จากการศึกษาพ่อแม่ผู้ปกครองที่อาสาสมัครเข้ามาร่วมการทดลองมากกว่า 200 คน ในเด็กอายุระหว่าง 5-13 ปี โดยทางนักวิจัยนั้นจะทำการตั้งคำถามถึงการทำงานบ้านของเด็กๆ ว่าสามารถทำงานบ้านที่ได้รับมอบหมายสำเร็จหรือไม่ หลังจากนั้นนักวิจัย (Deanna Tepper) จาก La Trobe University ก็จะทำการรวบรวมข้อมูลมาตรวจสอบว่า การช่วยทำงานบ้านมีความเชื่อมโยงกันกับความสามารถในการจัดการของเด็กหรือไม่ ส่วนผลการทดลองที่ออกมาในครั้งนี้นั้นบอกว่า กลุ่มเด็กที่ช่วยทำงานบ้าน เช่น การทำอาหารการทำสวนและการช่วยงานบ้านทุกๆวัน

มีแนวโน้มที่จะมีทักษะเป็นเลิศในด้านอื่นๆ เช่น ด้านการเรียนและด้านการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า อีกทั้งเด็กที่ผู้ปกครองจัดการงานบ้านที่เหมาะสมให้เด็กๆทำ ตามช่วงอายุวัยและความสามารถในตอนนั้น มันคือการสอนทักษะในการจัดการ และการพัฒนาของเด็กให้ดีขึ้นส่วนงานบ้านที่ไม่ได้ใช้ความสามารถและไม่กลไกต่างๆ อย่างเช่น การเทอาหารเม็ดให้สัตว์เลี้ยง การกรอกน้ำ การกวดบ้าน และอื่นๆที่ง่ายๆนั้นไม่ได้ช่วยให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีขึ้น

กล่าวโดยสรุปโดยรวมก็คือ งานบ้านที่จะช่วยเพิ่มความสามารถในการจัดการของเด็กๆจะต้องมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ให้เด็กนั้นได้ใช้สมองในการทำงานในการวางแผนจดจ่อ และควบคุมตัวเองในช่วงที่ช่วยทำงานบ้าน ส่วนผู้ปกครองที่ต้องการอยากเริ่มต้นเพิ่มทักษะให้เด็กจัดการตัวเองได้นั้น ตัวของผู้ปกครองจะต้องทำงานบ้านนั้นๆไปพร้อมกับพวกเขาด้วย เพื่อให้เด็กๆได้เห็นรูปแบบการจัดการที่ถูกต้องและเป็นตัวอย่างให้กับพวกเขาในอนาคต แม้ว่างานวิจัยนั้นจะชี้ว่าการทำงานที่บ้านนจะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการที่ดี แต่ก็ยังมีกล่าวเสริมว่าการพาเด็กออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน เช่น เรียนทำอาหาร เรียนศิลปะการต่อสู้ การเล่นเกมส์ นั้นก็คือหนึ่งในกิจกรรมที่ส่งเสริมความสามารถในการจัดการชีวิตของเขาได้ในอนาคต