ผู้ป่วยสะสมในอิตาลีเกือบ 100 เวสต์ไนล์ เชื้อที่มาจาก “ยุง” คือ พาหะของโรค ไม่มียารักษา!!

ข่าวต่างประเทศล่าสุด รายงานโรคมาใหม่ที่ยังไม่มียารักษา เชื้อไวรัสเวสต์ไนล์ โดยจะมีการแพร่กระจายซึ่งมียุงเป็นพาหะนำเชื้อโรค มันสามารถติดต่อกันอย่างง่าย แม้ว่าจะไม่มีวัคซีนป้องกัน มันก็ไม่ได้อันตรายถึงอาการร้ายแรงที่สุดคืออัมพาต

น่าเป็นห่วง! อาการของเชื้อสามารถทำให้อัมพาต โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เวสต์ไนล์ เชื้อไวรัสแพร่กระจายในอิตาลี ล่าสุดป่วยสะสมเกือบ 100 ราย

กระทรวงสาธารณสุขแห่งอิตาลี หรือ ISS จากที่ซินหัวออกมารายงานไว้ในวันที่ 4 ส.ค. 65 ค้นพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส เวสต์ไนล์ (West Nile virus) เชื้อที่มีการแพร่เชื้อโรคผ่านยุงซึ่งจะเป้นตัวกลางหรือพาหะนำโรคนั่นเอง ในอินตาลีมีการแพร่มากว่า 2 เท่าตัวในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทว่าก็มีคนที่ไม่สามารถอดทนกับอาการเจ็บป่วยจนเสียชีวิตมากกว่า 7 ราย ทั้งนี้ไม่มียาป้องกัน…

วันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม 2565 อิตาลีตรวจสอบและค้นพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสเวสต์ไนล์สะสมกว่า 94 ราย จำนวนผู้ป่วยนับสะสมมาตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน 2565 และจำนวนที่เพิ่มเข้ามานั้นคือ 42 รายส่วนก่อนหน้าที่มีอยู่แล้วคือ 55 ราย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่คาดว่ามีผู้ป่วยมากกว่าครึ่ง เชื้อดังกล่าวนี้เป้นไวรัสที่สามารถทำร้ายระบบประสาท

สำหรับผู้ป่วย 7 รายที่เสียชีวิตโดยมีอาการป่วยที่ได้รับเชื้อไวรัสเวสต์ไนล์ 5 รายแรกเป็นชาวเมืองเวเนโตพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอิตาลี คนที่ 6 คือชาวเมืองปิเอมอนเต คนที่ 7 คือชาวเมืองเอมีเลีย-โรมัญญา

ทั้งนี้การแพร่เชื้อของไวรัลชนิดดังกล่าวนี้ยังไม่มียารักษา เพราะอยู่ในระหว่างการทำวิจัยโรคในสถาบัน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญออกมาแนะนำให้ประชาชนที่อยู่ในเมืองที่มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตควรเฝ้าระวังอยู่ให้ห่างจากพื้นที่ยุงชุม ไม่ควรสัมผัสตัวยุง และให้มีการกำจัดยุงในบ้านฉีดพ่นไล่แมลง หรือควรสวมใส่เสื้อผ้าที่สามารถปกปิดผิวหนัง สิ่งที่ควรทำอีกอย่างคือกำจัดแหล่งที่มีน้ำท่วมขังรอบบ้านหรือที่พักอาศัย

องค์การอนามัยโลกได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่าอาการป่วยที่เกิดจากเชื้อไวรัลเวสต์ไนล์นั้น มีสาเหตุมาจากเชื้อเดียวกันที่จะทำให้ผู้ที่ติดเชื้อมีอาการปวดหัวไขขึ้นสูง เจ็บคอและเวียนหัวมึนงง หากใครที่ได้รับเชื้อที่รุนแรงเข้าขั้นโคม่าจะมีอาการตัวสั่นและชักแกร่ง และในขณะเดียวกันกล้ามเนื้อก็จะอ่อนแรง และสุดท้ายก็จะสามารถอัมพาตได้ ส่วนให้อาการเหล่านี้อาจจะไม่ทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิต แต่หากจะมีผู้เสียชีวิตอาจจะเกิดขึ้นได้อย่างง่ายในกลุ่มผู้สูงอายุรวมถึงผู้มีโรคประจำตัว