หญิงวัย 55 หัดขี่จยย.ที่ลานวัดเสียหลักล้มทถูก“ที่พักเท้า”รถ“เสียบ”เข้าที่ขาข้างซ้ายเจ็บหนัก!!

หญิงวัย 55 หัดขี่จยย ที่ลานวัดเสียบิดคันเร่งแรงเกินไปพุ่งชนกำแพงวัดทำรถล้มทับซ่ำถูก “ที่พักเท้า” รถ “เสียบ” เข้าที่ขาข้างซ้ายเจ็บหนัก ข่าวทั่วไทย หลังจากเกิดเหตุหน่วยกู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมอุดรธานีก็ได้ลงไปยังจุดเกิดเหตุ แล้วพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บนอนร้องโอดครวญอยู่ที่บริเวณลานวัดจึงได้เข้าช่วยเหลือ

หญิงวัย 55 หัดขี่จยย บิดคันเร่งแรงเกินไปพุ่งชนกำแพงวัด ทำรถล้มทับขาเจ็บ

เมื่อช่วงเช้าทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมอุดรธานีได้รับแจ้งเหตุว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงรีบไปช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นยังจุดเกิดเหตุที่ลานวัดแห่งหนึ่ง เมื่อเดินทางไปถึงก็พบกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทราบชื่อคือ “นางวิลาวรรณ” อายุ 55 ปี เมื่อเดินทางไปถึงคุณป้าท่านนี้นั้นได้นอนคร่อมรถจักรยานยนตร์อยู่ที่พื้นวัด พร้อมร้องร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด เนื่องจากว่าคุณป้านั้นได้รับบาดเจ็บที่บริเวณเท้าข้างซ้ายเพราะถูกพักเท้ารถเสียบเข้าไปแถมรถจักรยานยนตร์ของคุณป้าก็ยังทับอยู่บนตัวอีกด้วย ในการเข้าช่วยเหลือนั้นทางเจ้าหน้าที่ต้องไปจัดหารเครื่องตัดถ่างเข้ามาทำการช่วยเหลือคุณป้ารายนี้ เพราะที่พักเท้านั้นเสียเข้าไปที่เท้าคุณป้าค่อนข้างลึกต้องใช้เวลามากถึง 20 นาที กว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถตัดเหล็กที่เสียบขาออกมาได้

จากการสอบถามชาวบ้านผู้ที่เข้ามาเห็นเหตุการณ์นั้นได้ความว่า คุณป้าที่ได้รับบาดเจ็บคนนี้นั้นเขาได้เดินทางมาที่วัดแห่งนี้ เพื่อที่จะเข้ามาหัดขับนรถจักรยานยนตร์ภายในลานวัด เพราะมันเป็นพื้นที่โลงๆที่สามารถลองและหัดขับรถได้ทุกชนิด หลังจากที่คุณป้าคนดังกล่าวเข้ามาหัดขับรถได้สักพัก ก็ได้ยินเสียงดังตามหลังมาก แล้วก็มองไปเห็นรถจักรยานยนต์ของคุณป้านั้นเสียหลัก พุ่งชนเข้ากับกำแพงศาลาวัดอย่างแรง และรถจักรยานยนตร์ยนตร์นั้นล้มลงมาทับป้า และพบว่ามีเหล็กเสียบเข้าที่ขาของป้าด้วย แล้สทางคุณป้านั้นก็นอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ส่วนทางเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือคุณป้านั้นบอกว่า คุณป้าที่ได้รับบาดเจ็บนั้นอาจจะตกใจ เลยทำให้เกิดอุบติเหตุเนื่องจากว่าป้านั้นเป็นมือใหม่หัดขับ และยังไม่คุ้นชิ้นกับรถจักรยานยนต์จนทำให้บิดคันเร่งแรงจนเกินไป แล้วก็ส่งผลให้ป้านั้นได้รับบาดเจ็บเพราะความตกใจ หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น แล้วก็ได้นำตัวของคุณป้าไปส่งที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อทำการรักษาต่อไปแล้ว