Sunday, 29 September 2024

นักจดหมายเหตุประท้วง “ยูทูบ” หลังมี “เกรียนคีย์บอร์ด” รุมกดรีพอร์ตว่า “ละเมิดลิขสิทธิ์” ภาพถ่ายและคลิปวิดีโอขณะที่ยาน “อะพอลโล 11” ลงจอดบนดวงจันทร์ในปี 1969

นักจดหมายเหตุประท้วง1 YouTube บันทึกเหตุการณ์เหยียบดวงจันทร์ต้องเป็นสมบัติของทุกคนสามารถนำไปใช้ได้! ข่าวต่างประเทศหลังมี “เกรียนคีย์บอร์ด” รุมกดรีพอร์ตว่า “ละเมิดลิขสิทธิ์” ภาพถ่ายและวิดีโอต่างที่ถูกถ่ายทอดในขณะที่ยาน “Apollo XI” ลงจอดบนดวงจันทร์ในประวัติศาสตร์เมื่อปี 1969 ที่ทาง National Aeronautics and Space Administration อนุญาตให้ทุกคนสามารถนำคลิปวีดีโอไปเผยแพร่ได้ เพราะมันคือ “สมบัติสาธารณะ”

สล็อต xo Slotxo

นักจดหมายเหตุประท้วง1 YouTube บันทึกเหตุการณ์เหยียบดวงจันทร์ต้องเป็นสมบัติสาธารณะ!

นักจดหมายเหตุประท้วงYouTube

ภาพถ่ายและคลิปวิดีโอในขณะที่ยาน “Apollo XI”  ลงจอดบนดวงจันทร์ในประวัติศาสตร์เมื่อปี 1969 นั้นถูกบันทึกเอาไว้เพื่อให้ทุกคนทราบว่า ทีมนักบินอวกาศชาวอเมริกันได้ลงไปเหยียบพื้นผิวดวงจันทร์เป็นครั้งแรกของโลก จนหลายๆคนนั้นตั้งฉายาให้ว่าคือ “ก้าวเล็กๆ ของมนุษย์” ที่เหมือน “ก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ” National Aeronautics and Space Administration คือหน่วยงานที่บันทึกเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ที่โลกต้องจดจำเอาไว้ครั้งนั้น เมื่อวันเวลาผ่านไปพวกเขานั้นก็ได้ปล่อยทั้งภาพ

และคลิปวีดีโอที่เกี่ยวข้องกับภารกิจสำรวจดวงจันทร์จำนวนหนึ่งออกมาให้มนุษย์โลกเห็น โดยมีข้อแม้ว่ามันคือ “สมบัติของสาธารณะ” หรือที่เรียกกันว่า “Public Domain” ที่มนุษย์ทุกคนที่อยู่อาศัยบนดาวดวงนี้นั้นสามารถนำรูปภาพถ่าย และนำวีดีโอที่ถ่ายเอาไว้พวกนั้นไปเผยแพร่หรือนำไปดัดแปลงต่อได้ ในแบบที่ไม่ต้องขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ และเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2020 ที่ผ่านมานั้นคือวันครบรอบ 53 ปีที่มนุษย์สามารถเดินทางขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ได้

บันทึกเหตุการณ์เหยียบดวงจันทร์ต้องเป็นสมบัติสาธารณะ!

Fran Blanche นักจดหมายเหตุภาพยนตร์ ที่ทำหน้าที่เป็น “ยูทูบเบอร์” ที่มียอด Follow ประมาณ 200,000 คนเขานั้นได้นำวีดีโอเหตุการณ์ “นักบินอวกาศชาวอเมริกันได้ลงไปเหยียบพื้นผิวดวงจันทร์เป็นครั้งแรกของโลก” ที่ทาง National Aeronautics and Space Administration เป็นคนถ่ายเอาไว้มาลงบนช่อง YouTube ของเธอพร้อมกับเขียนข้อความบรรยายที่สำคัญๆ เอาไว้ในการประกอบวีดีโอที่เขานั้นได้ลงเอาไว้ แต่เรื่องราวนั้นกลับไม่เป็นไปอย่างราบรื่น เพราะเขานั้นถูกพวกเกรียนคีย์บอร์ดหรือที่เรารู้จักกันในชื่อ copyright troll เข้ามารุมกดรีพอร์ตว่าเขานั้น “ละเมิดลิขสิทธิ์”

Fran Blanche เขาตัดสินใจอัดวีดีโอพูดให้เราฟังว่าเขาต้องใช้วิธีมากมายมาโต้แย้งกับระบบอัตโนมัติของ YouTube ที่สร้างขึ้นมาเพื่อยืนยันว่า เขานั้นไม่ได้ไปละเมิดลิขสิทธิ์ผู้ใดเลย เนื่องจากว่าคอนเทนต์ภาพและวิดีโอที่เขานำมาแชร์ต่อนั้นถูกกำหนดเอาไว้แล้วว่ามันคือ “สมบัติของสาธารณะ” พร้อมกับต่อว่าทาง YouTube ด้วยว่า ควรเปลี่ยนกฎการรีพอร์ตหรือการอ้างลิขสิทธิ์ผลงานในแพลตฟอร์มให้ครอบคลุมมากกว่านี้ ซึ่งความหมายที่เขาต่อว่านั้นให้ YouTube นั้นเหมือนประนามระบบของ YouTube ที่มีช่องโหว่ทำให้เข้ามาแสวงหาประโยชน์จากกาแอบรอ้างเรื่องของ “ลิขสิทธิ์”

นักจดหมายเหตุประท้วง1 ยูทูป

เพื่อที่จะขอส่วนแบ่งรายได้ เพราะการเข้าไปดูวีดีโอแต่ละวีดีโอนั้นคนที่เข้าไปดูแล้วเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ตัวจริง เข้ามาทักท้วงนั้นก็ไม่เป็นปัญหาสามารถยอมรับได้ ส่วนคนที่ไม่ใช่เจ้าของลิขสิทธิ์ตัวจริงเหมือนดังกกลุ่มคนที่เขามาแกล้งเธอที่เรียกกันว่า copyright troll  คือกลุ่มคนที่ฉวยโอกาสแอบอ้างสิทธิ์ จากภาพและวีดีโอที่ไม่ใช่ของตัวเองที่เป็นสมบัติของสาธารณะ เนื่องจากว่าคนกลุ่มนี้ที่เข้ามากด “รีพอร์ต” นั้นเพียงต้องการให้ YouTube นั้นปิดกั้นการเข้ารับชม เพราะถูกกล่าวหาว่าละเมิดลิขสิทธิ์ของบุคคลอื่น ซึ่งเขามองว่ามันเข้าข่าย “ก่อกวนชวนให้โมโหเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง”

เรื่องแบบนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกและไม่ใช่ครั้งเดียว Fran Blanche บอกว่าเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาเขานั้นเคยได้นำเอาวีดีโอ “เสียงของลม” ที่มีคนบันทึกเอาไว้ได้เมื่อปี 1973 ซึ่งวีดีโอเสียงที่ว่านี้มันถูกนำมาเก็บไว้ในฐานข้อมูล “สมบัติของสาธารณะ” ของสหรัฐอเมริกา แต่ถ้าว่าวีดีโอดังกล่าวนั้นได้ถูกนำเอาไปใช้ประกอบเพลงในสังกัด Sony Music เมื่อเวลาผ่านไปเพลงของพวกเขาเสร็จสิ้นพวกเขาก็ได้นำมาลงบน YouTube ในปี 2003 ในเวลาต่อมา Fran Blancheได้นำวีดีโอเสียงลมต้นฉบับมาแชร์ลงบนช่อง YouTube ของเธอตามหลัง

นักจดหมายเหตุประท้วง1 หลัฝยูทูปถูกแบน

แต่ดันถูกกด “รีพอร์ต” พร้อมบอกว่าเขานั้นละเมิดลิขสิทธิ์ที่เป็นผลงานของศิลปิน Sony Music   Fran Blanche บอกว่าเขานั้นได้เถียงกันผ่านระบบของ YouTube ส่วนผลที่ออกมานั้นคือระบบของ YouTube ตัดสินให้เขาผิดและไปเข้าข้าง Sony Music

ด้วยเหตุผลที่ว่าการนำวีดีโอที่เป็นสมบัติของสาธารณะมาเปลี่ยนแปลงจะได้รับการคุ้มครองด้านลิขสิทธิ์โดยชอบธรรม เพราะถือได้ว่าทำการเปลี่ยนแปลงให้เป็นผลงานที่ปรับขึ้นใหม่ แต่ Fran Blanche มองว่าเรื่องแบบนี้ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเงื่อนไข “สมบัติสาธารณะ” อย่างมาก และเรียกร้องให้ YouTube พิจารณาระบบกำกับดูแลแพลตฟอร์มที่ยังมีช่องโหว่นี้ใหม่อีกที ข้อกำหนดให้สื่อหรือผลงานสร้างสรรค์รูปแบบต่างๆ ให้กลายมาเป็น “สมบัติสาธารณะ” คือ “การอนุญาตแบบเปิด”

ที่ไม่ส่งผลกระทบใดๆต่อลิขสิทธิ์ต้นฉบับของผู้ที่เป็นเจ้าของงาน แต่สามารถเปิดบุคคลที่ 2 ที่ 3 สามารถเข้าถึงหรือนำชิ้นงานของเราเหล่านั้นไปใช้ต่อแบบสาธารณะได้แทบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการต่อยอดการนำไปพัฒนาการนำไปดัดแปลงให้เป็นชิ้นงานใหม่ หรือไปสร้างเป็นแรงบันดาลใจก็ล้วนแต่สามารถทำได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจากเจ้าตัวจริง ส่วนคนที่นำผลงานเหล่านี้ไปเปลี่ยนแปลงไม่สามรรถอ้างสิทธิ์ได้ว่าเป็นเจ้าของชิ้นงานดังกล่าว เพราะถือว่าสิ่งเหล่านั้นที่นำมามีพื้นฐานนั้นมาจากสิ่งที่เป็นสมบัติของสาธารณะ

นักจดหมายเหตุประท้วงถูกยูทูปแบรนด์ช่อง

กรณีของ Fran Blanche มันคล้ายกันกับปัญหาที่ไม่จบไม่สิ้น เนื่องจากเธอนำวีดีโอที่เป็นสมบัติของสาธารณะมาแชร์ต่อ แต่ดันถูกกลุ่มคนบางคนที่นำผลงานต้นฉบับไปเปลี่ยนแปลงและได้ “แอบอ้างสิทธิ์” เข้าไปยื่นแจ้งให้ YouTube ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหาที่เธอนำมาแชร์ ทั้งที่จริงๆแล้วคนที่จะอ้างสิทธิ์ได้น่าจะมีเพียงคนเดียวคือเจ้าของต้นฉบับที่แชร์ออกมา

Fran Blanche บอกด้วยว่ามีคนมากมายบอกให้เขานั้นทำเรื่องฟ้องร้อง เพราะมองว่า Fran Blanche มีโอกาสที่จะชนะคดีสูง เนื่องจากเหจุผลที่เขียนไว้อย่างชัดเจนว่า “คนที่นำงานต้นฉบับที่เป็นสมบัติของสาธารณะไปปรับเปลี่ยนไม่สามารถแอบอ้างตนว่าเป็นคนสร้าง และเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ได้แต่ Fran Blanche บอกว่าการทำเรื่องฟ้องร้องจำเป็นจะต้องมีค่าใช้จ่ายมากมาย แน่นอนว่าเธอนั้นไม่น่าจะมีแรงและมีเงินไปสู้กับแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ได้