น้ำฝนปนเปื้อนสารเคมี forever chemicals สูงเกินระดับปลอดภัยตามที่รัฐบาลสหรัฐฯ กำหนดไว้

น้ำฝนปนเปื้อนสารเคมี เรื่องน่ารู้คู่สุขภาพทั่วทั้งโลก เพราะ forever chemicals สูงเกินระดับปลอดภัยอย่างที่รัฐบาลของสหรัฐฯ กำหนดเอาไว้และไม่มีที่ใดปลอดจากสาร PFAS เลยบนโลกใบนี้จากผลการศึกษาล่าสุดของนักวิทยาศาสตร์จากสถานบันชื่อดังของประเทศสวีเดนที่พึ่งทำขึ้นมาเมื่อไม่นานนี้

น้ำฝนปนเปื้อนสารเคมี ชั่วนิรันดร์!!ทั่วทั้งโลกเกินความระดับปลอดภัยแล้ว

แม้งานวิจัยที่ผ่านมายังไม่อาจหาข้อเท็จจริงได้ว่าสาร PFAS ที่เป็นสารเคลือบเครื่องครัวเทฟลอน ที่ถูกนำมาใช้ในการผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหลายอย่างที่พวกเรานั้นเห็น เช่นสี กาว กระดาษ เสื้อกันฝนและบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ว่ามันคือสารก่อมะเร็งที่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพร่างกายของมนุษย์ในระยะยาวจริงหรือเท็จ แต่ทางนักวิจัยบางกลุ่มนั้นเชื่อกันว่าหากเราไม่กำหนดปริมาณการใช้สาร PFAS ตั้งแต่เวลานี้จะทำให้เกิดเสียอย่างมากมายต่อมนุษย์ในระยะยาวได้อย่างแน่นอน สาร PFAS หรือ polyfluoroalkyl และ Perfluoroalkyl เป็นสารประกอบฟลูออรีนที่มีอยู่ประมาณ 4,500 ประเภท สามารถตกค้างอยู่ในดิน น้ำ และบรรยากาศได้นานมากกว่าพันปี จนได้รับสมยานามว่าเป็นสารเคมีชั่วนิรันดร์ การขยายวงจรตัวของสาร PFAS นั้น มาจากการเป็นอนุภาคที่ไม่ใหญ่ซ่อนอยู่ในเม็ดน้ำเล็กๆน้ำทะเล สามารถถูกลมนำขึ้นไปบนอากาศ และตกลงมาปนกับน้ำฝนที่แทรกซึมลงมาออยู่ในพื้นดินเบื้องล่างได้ สามารถพบได้แม้แต่ในพื้นที่ห่างไกลความเจริญ เช่น ทวีปแอนตาร์กติกา

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสตอกโฮล์มของสวีเดน อธิบายเรื่องนี้เอาไว้ว่าผลการตรวจสอบสาร PFAS 4 ประเภทที่อยาน้ำฝนที่ตกลงมาทั่วโลก พบว่ามีสารประเภทนี้อยู่หนึ่งชนิดที่มีปริมาณการปนเปื้อนสูงมากๆในน้ำฝนของทุกหนทุกแห่ง ซึ่งสารประเภทนี้มันเกินระดับมาตรฐานความปลอดภัยของน้ำดื่มที่รัฐบาลสหรัฐฯ เขียนเอาไว้ อีกทั้งยังพบการปนเปื้อนในดินทั่วโลกอีกด้วย ศาสตราจารย์เอียน เคาซินส์ กล่าวว่าบนโลกใบนี้ของเราใบนี้ไม่ได้ปลอดภัยอีกอย่างเหมือนในอดีตแล้ว เนื่องจากพวกเรานั้นตรวจพบสารเคมีทุกๆสถานที่บนโลกใบนี้ แถมเรายังไม่สามารถที่จะกำหนดปริมาณให้มันกลับมาอยู่ในระดับที่ปลอดภัยได้เลย แต่มันไม่ได้หมายความว่าพวกเราทุกคนจะต้องตาย แค่เพียงเรานั้นไม่สามารถมั่นใจว่าสถานที่ที่เราอยู่อาศัยนั้นจะปลอดภัย

เมื่อไม่นานมานี้มีงานวิจัยบอกว่าถ้าเราได้รับสาร PFAS ในปริมาณที่มากจนเกินไปเราจะมีแนววโน้มที่จะเป็นโรคมะเร็งบางชนิด รวมถึงปัญหาการเจริญพันธุ์ และพัฒนาการที่ล่าช้ากับคนอายุน้อย แต่ก็มีงานวิจัยอีกจำนวนมากที่บอกว่าเรื่องนี้มันไม่มีความเกี่ยวข้องกันระหว่างสาร PFAS กับโรคที่พวกเขาแอบอ้าง ทางด้านศาสตราจารย์คริสปิน ฮัลแซลล์ บอกว่าแค่น้ำฝนแค่ชนิดเดียวปริมาณสาร PFAS นั้นมันก็สูงเกินกว่าที่จะควบคุมแล้ว และไม่ต้องไปนับรวมการปนเปื้อนที่อยู่กับสิ่งรอบตัวของเรา มันก็ส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพร่างกายของมนุษย์โลกได้อย่างแน่นอน เป็นเพราะว่าการปนเปื้อนของสารเคมีในน้ำดื่ม