Lifestyle ทำความรู้จัก “ดอพเพลแกงเกอร์” (Doppelganger) ความเหมือนที่ AI ไม่สามารถแยกแยะความแตกต่าง เพราะมี “ใบหน้า” เหมือนกันมี “DNA” เหมือนกัน แค่เพียงไม่รู้จักกันก็เท่านั้น ปรากฏการณ์ดังกล่านั้นนักวิจัยบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องเหนือธรรมชาติ แต่มันคือ “เรื่องปกติ” ที่สามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ
ดอพเพลแกงเกอร์ คนที่ “หน้าตา” เหมือน กันมี “DNA” เหมือนกัน แต่จะไม่รู้จักกัน
หลายๆคนนั้นอาจเคยได้ยินผ่านหูผ่านตามาบ้างที่มีคนบอกว่า มนุษย์เรานั้นจะมีคนที่หน้าตาที่เหมือนๆกันอยู่ประมาณ 7 คน ซึ่งทุกคนที่มีหน้าตาเหมือนกันนั้นไม่มีความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกันเลยสักคน แล้วก็ไม่ใช่พี่น้องไม่ใช่ฝาแฝด ที่มีสายเลือดเดียวกันหรือที่เรียกว่าครอบครัว ซึ่งสิ่งที่เรากล่าวมานั้นทาง Scientists เรียกมันว่าคือ ปรากฏการณ์ (doppelgänger)
เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ถ้าหากว่าเรานั้นได้เจออีกคนที่มีหน้าจาเหมือนกับเราอย่างกับส่องกระจกที่เป็น (Doppelganger) ของเราแน่นอนว่าคนที่สนใจเรื่องรางแบบนี้นั้นน่าจะไม่ใช่คนธรรมดา และน่าจะเป็น Scientists หรือพวกนักวิจัยนักวิทยาศาสตร์ แถมพวกเขานั้นยังบอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นแบบนี้นั้นมันไม่ใช่เรื่อง “เหนือธรรมชาติ” หรือเรื่องแปลกประหลาดพิสดารที่ไม่สารมารเกิดขึ้นได้ แต่ความเป็นจริงมันคือเรื่อง “ปกติ” ที่สามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ ซึ่งมันสามารถเกิดขึ้นได้จากสภาพแวดล้อมที่หล่อหลอมให้คนเรามีหน้าตาที่เหมือนกันอย่างกับส่องกระจก
สื่อข่าว CNN เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า Dr. Manel Esteller, จาก a researcher at the Josep Carreras Leukaemia Research Institute in Barcelona, Spain, คือคนที่ได้รึเริ่มทำการวิจัยชิ้นนี้ขึ้นมา เพื่อต้องกาค้นหาคำตอบให้แก่การตั้งข้อสมมุติฐานข้อนี้เพื่อไขข้อข้องใจ ซึ่งผลการทดลองในขั้นแรกจากการค้นหา Doppelganger ที่เข้าร่วมการทดลองเป็นอาสาสมัครจำนวน 32 คู่ นั้นเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากว่า เพราะนอกจากพวกเขาจะมีหน้าตาที่คล้ายกันมากๆแล้ว พวกเขานั้นกลับมี สารพันธุกรรม หรือ DNA ที่เหมือนกันมากอีกด้วย
ทีมนักวิจัยได้เริ่มการทดลองโดยการนำเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้า เข้ามาใช้วิเคราะห์ใบหน้าของอาสาสมัครที่เข้ามาร่วมการทดลองในครั้งนี้ แล้วพวกเขาก็พบว่ามีอาสาสมัครจำนวน 16 คู่จากอาสาสมัครทั้งหมด 32 คู่ เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้า ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าอาสาสมัครแต่ละคนเป็นใคร
ในเวลาต่อมานักวิจัยเลยทำการศึกษา สารพันธุกรรม หรือ DNA ของคู่อาสาสมัครที่เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้า ไม่สามารถทำงานแยกแยะความแตกต่างได้ต่อไป แล้วผลการศึกษาที่ออกมานั้นก็พบว่า อาสาสมัครที่เข้ามาร่วมทดลองในครั้งนี้ มีสารพันธุกรรมที่คล้ายกัน โดยเฉพาะ DNA ที่ทำหน้าที่กำหนดรูปร่างบนใบหน้า เช่น จมูก ปาก และ ดวงตา
Dr. Manel Esteller บอกว่า ผลการทดลองในขั้นต้นนี้สามารถบอกบางอย่างได้ว่า ในยุคนี้โลกของเรามีประชากรเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้มนุษย์โลกนั้นสามารถผลิตสารพันธุกรรมที่ซ้ำกันขึ้นมา จนเป็นเกิดเป็นเรื่อวให้เราพบเจอกับปรากฏการณ์ Doppelganger จากการที่ทีมนักวิจัยได้ทำการศึกษาเจาะเข้าไปลึกกว่าที่ควรจะเป็นพบว่า แม้จะมี DNA ที่คล้ายกันมากมาย แต่ถ้าว่าการทำงานยังคงไม่เหมือนกันอีกเช่นเคย ซึ่งทำให้พวกเขานั้นเข้าใจได้ว่า ถึงแม้จะมีรูปร่างหน้าตาที่เคล้ายๆกัน ก็อาจจะมีลักษณะนิสัยใจคอที่เหมือนๆกันด้วยก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม ผลการทดลองที่ออกมาในครั้งนี้นั้นยังไม่ข้อจำกัดในการทดลองอยู่ไม่น้อย เนื่องจากจำนวนของกกลุ่มอาสาสมัครที่เข้ามมาร่วมการทดลองในครั้งนี้นั้นมีจำนวนคนที่น้อยมากเกินไป ซึ่งการทดลองดังกล่าวนั้นมีอาสาสมัครเข้ามาร่วมทดลองเพียงแค่ 32 คู่ก็คือจำนวน 64 คนเท่านั้น
แถมว่าอาสาสมัครที่เข้ามาร่วมการทดลองดังกล่าวนั้นยังมีเพียงอาสาสมัครที่เป็นชาวยุโรป ซึ่งเมื่อนำตัวเลจและจำนวนของประชากรทั่วโลกมาเปรียบเทียบกัน นั้นยังถือว่าน้อยเกินไปมากๆ และมันก็อยู่ห่างไกลจากความสำเร็จมากๆ ที่จะทำให้ผลการทดลองดังกล่าวสามารถเป็นข้อสรุปทางวิทยาศาสตร์ได้
สนับสนุนโดย
UFABET | UFA365 | UFABET เข้าสู่ระบบ | UFABET เว็บตรง | สล็อต เว็บตรง | SLOTXO | สล็อต | PG SLOT | สล็อต XO | สล็อต | JOKER123 | สล็อต เว็บตรง | สล็อตโจ๊กเกอร์