งานวิจัยชี้!! เห็ดขี้ควายช่วยผู้ป่วยที่มีปัญหา “ติดสุราเรื้อรัง” ให้กลับมาใช้ชีวิตได้ปกติเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์

งานวิจัยชี้!! เห็ดขี้ควายช่วยผู้ป่วย ที่มีปัญหา “ติดสุราเรื้อรัง” ลดปริมาณการดื่มได้ 83 เปอร์เซ็นต์ ให้กลับมาใช้ชีวิตได้ปกติสุขภาพดีเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ สมฉายาที่คนเขาล่ำลือว่ามันคือ “เห็ดวิเศษ” จริงๆ ซึ่งในครั้งนี้มันก็สามารถสร้างความแปลกใจให้กับวงการแพทย์ครั้งยิ่งใหญ่

เห็ดขี้ควายช่วยผู้ป่วย ติดสุราเรื้อรังลดปริมาณการดื่มได้ 83 เปอร์เซ็นต์ สมฉายาเห็ดวิเศษจริงๆ

สารหลอนประสาทจำพวก psilocybin สามารถพบเจอได้กับเก็ดประเภท “เห็ดขี้ควาย” ซึ่งนี้มันคือการสร้างตำนารการประหลาดใจให้กับ medical field ครั้งยิ่งใหญ่ จากผลงานของนักวิจัยล่าสุด ที่เพิ่งปล่อยออกมาบอกอย่างชัดเจนว่า มันอาจเป็นตัวแปรเกมสำหรับปัญหาสุขภาพจิตและอาการเสพติด

งานวิจัยล่าสุดที่ออกมานั้นถูกเผยแพร่ใน medical journal ที่มีชื่อว่า JAMA Psychiatry ที่เขียนอธิบายเอาไว้ประมาณว่านักวิจัยนั้นได้แบ่งกลุ่มอาสาสมัครที่มีปัญหา “ติดสุราเรื้อรัง” จำนวน 93 คน ที่เข้ามร่วมการทดลองออกเป็น 2 กลุ่ม ซึ่งกลุ่มที่หนึ่งนักวิจัยจะให้อาสาสมัครเหล่านั้นได้รับยาเม็ดเห็ดขี้ควาย 2 โดส ส่วนอาสาสมัครกลุ่มที่สองพวกเขานั้นจะได้รับยาปลอมก การทดลองดังกล่าวใช้เวลาทั้งหมด 8 เดือน ควบคู่กับการรักษาทางจิตบำบัด ส่วนผลทดลองที่ออกมานั้นส่งผลให้นักวิจัยงงและแปลกใจเป็นอย่างมาก นักวิจัยพบว่า 83 เปอร์เซ็นต์ ของอาสาสมัครที่รับเห็ดขี้ควาย สามารถลดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ลงได้มากถึง 50 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งยังมีอาสาสมัครบางคนสามารถหยุดดื่มแอลกอฮอล์ได้โยไม่มีข้อแม้ เทียบกับกลุ่มอาสาสมัครที่ได้รับยาปลอมนั้น สามารถลดปริมาณการดื่มได้เช่นกันมากถึงที่ 51 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 25 เปอร์เซ็นต์ก็สามารถเลิกดื่มได้เช่นกัน

Mary Beth Orr หนึ่งในอาสาสมัครที่เข้าร่วมการทดลองในครั้งนี้ที่พบเจอกับปัญหา “ติดสุราเรื้อรัง” และได้รับแคปซูลเห็ดขี้ควายในกลุ่มการทดลองเขาบอกว่า ครั้งแรกที่เขานั้นได้รับยา ระหว่างที่เขานั้นกำลังนอนอยู่ที่โซฟา หลับตา เสียบหูฟัง และมีแพทย์จำนวนสองคนนั่งอยู่ข้างๆเขา เพราะเขาได้เจอกับประสบการณ์ที่ไม่เคยเจอมาก่อน เหมือนอย่างกับความฝันที่ลึกลับและหลากสีสัน “มันเหมือนการแสดงสุดแสนงดงาม เพียบพร้อมไปด้วยอัญมณี เขารู้สึกเหมือนเด้งตัวผ่านอุโมงค์ที่มีพระเจ้าแลสายตาลงมาดูเขาจากบนกำแพง เขายังได้พูดถึงประสบการณ์ครั้งต่อไปว่า เขาได้กลับไปพูดคุยกับครอบครัวที่จากไปอีกครั้ง ครอบครัวที่เคยทำร้ายจิตใจของเขาเอาไว้ในใจมานานแสนนาน แต่ครั้งนี้การพูดคุยกันภายในหัวของเขา เขานั้นสามารถให้อภัยทุกคนได้แถมยังเข้าใจ และกลับมารักมาเข้าใจครอบครัวอีกครั้ง “ฉันไม่กลัวที่จะมีความรู้สึกอีกต่อ ตั้งแต่เวลานี้เป็นต้นไปฉันจะมีชีวิตที่ดีและแข็งแรงต่อตัวเองมากขึ้น”

ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจารณ์แสดงความคิดเห็นต่องานวิจัยชิ้นนี้ต่างกันออกไป ซึ่งบางกลุ่มนั้นก็บอกว่างานวิจัยชิ้นนี้นั้นมีกลุ่มการทดลองที่น้อยจนเกินไป แถมยังไม่อธิบายอะไรเพิ่มเติมให้เข้าใจ บางคนวิจารณ์ว่ากลุ่มตัวอย่างในงานชิ้นนี้น้อยเกินไปที่จะระบุอะไรได้ ขณะที่ Matthew W Johnson นักพฤติกรรมศาสตร์ และนักวิจัยด้านไซคีเดลิคจากมหาวิทยาลัย Johns Hopkins Medicine กล่าวว่านี่คือก้าวแรกที่สำคัญ เพราะช่วงก่อนหน้านี้มีกลุ่มตัวอย่างมีเพียง 10 คนเท่านั้นก็ยังสามารถทำได้

ทีมวิจัยยืนยันว่าการวิจัยด้าน Psychedelic rock จะดำเนินต่อไปให้สำเร็จ และในครั้งหน้ากลุ่มตัวอย่างหรือกลุ่มอาสาสมัครจะถูกเพิ่มจำนวนเป็น 200 คน แล้วจะลดจำนวนปริมาณโดสลงเป็น 1 โดสเท่านั้น และเมื่อล่าสุด ทาง The Food and Drug Administration สหรัฐฯ ก็อนุญาตให้ทีมวิจัยดำเนินการต่อแล้ว เมื่อปีที่แล้ว นักวิจัยได้ทดลองน้ำมันเปรียบ efficiency ผลการทดลองผ่านภาพของ psilocybin กับ Selective Serotonin Reuptake Inhibitors และพวกเขานั้นพบว่ามันมี efficiency เหมือนกันกับยาที่ใช้ในปัจจุบันเลย นอกจากนี้ ทีมนักวิจัยยังให้อธิบายเพิ่มเติมต่อไปอีกว่า psilocybin ซึ่งมันนั้นให้ผลที่ดีกว่า ในมุมมองของการช่วยผู้ป่วยให้สามารถทำงานได้ และการช่วยให้มีสายสัมพันธ์ในสังคม สุขภาพจิต และความสามารถที่จะรู้สึกมีความสุขและดีขึ้น