Friday, 22 November 2024

สลด! ชีวิตรัดทด เพราะพิษโควิด! ตายายโรคภัยรุมเร้า ไร้งาน เหลือเงินเพียง 10 บาท ต้องกินข้าวคลุกเกลือ

22 Aug 2021
355

จากการรายงานข่าวล่าสุด ตายายโรคภัยรุมเร้า ไร้งาน เหลือเงินเพียง 10 บาท คุณตาเคยประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ แต่เพราะพิษโควิดทำให้ไม่มีผู้โดยสาร ซึ่งตอนนี้ตาบอดไปแล้วหนึ่งข้าง

สล็อต xo Slotxo

ตายายโรคภัยรุมเร้า คิดฆ่าตัวตาย พิษโควิดทำให้ไร้งาน ทั้งตัวเหลือเงิน 10 บาท ค้างค่าเช่าบ้าน 7 เดือน ไม่มีเงินจ่าย

ตายายโรคภัยรุมเร้า คิดฆ่าตัวตาย พิษโควิดทำให้ไร้งาน ทั้งตัวเหลือเงิน 10 บาท ค้างค่าเช่าบ้าน 7 เดือน ไม่มีเงินจ่าย

จากรายงานของผู้สื่อข่าว ตายายโรคภัยรุมเร้า คิดฆ่าตัวตาย พิษโควิดทำให้ไร้งาน ทั้งตัวเหลือเงิน 10 บาท ค้างค่าเช่าบ้าน 7 เดือน ไม่มีเงินจ่าย ซึ่งอยู่ในพื้นที่บริเวณ ถนนซอยประเสริฐอิสลาม 25 ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

คุณตา คือ นายภัฏพงษ์ เรืองเครือ วัย 66 ปี ป่วยโรคความดัน เดิมประกอบอาชีพขับแท็กซี่แต่เพราะเชื้อโรคไวรัสโควิดระบาดจึงทำให้ไม่ได้ขับรถมาเป็นเวลา 5 เดือนแล้ว ไม่มีผู้โดยสารแล้วยังต้องมาตาบอดจากสายรัดกระโปรงรถยนต์ดีดเข้าไปโดนตาข้างขวา จึงทำให้การมองเห็นไม่เป็นปกติเหมือนเดิม และได้เข้ารับการรักษาเป็นเวลาทั้งสิ้น 8 เดือนด้วยเงินทั้งหมดที่มีอยู่ และต้องผ่าตัดตาเพื่อรักษาถึง 4 ครั้งด้วยกันตอนนี้ก็ได้ค้างค่าเช่าห้องอยู่ 7 เดือนไม่มีเงินจ่ายไฟก็จะโดนตัด จริงๆเจ้าหน้าที่เดินทางเข้ามาจะตัดแล้วแต่ตนยกมือไหว้ขอร้องไว้ ค่าห้องที่ต้องจ่ายรายเดือน เดือนละ 2,000 บาทรวมกับค่าน้ำค่าไฟที่ต้องจ่าย รวมเป็นเงินมากกว่า 2 หมื่นกว่าบาท เจ้าของห้องเช่าก็มาไล่แล้วเพราะไม่มีตังจ่าย แค่เงินที่จะกินยังไม่มีเลย ทุกวันนี้อาศัยกินข้าวคลุกเกลือคลุกกะปิ บางครั้งเพื่อนบ้านก็แบ่งข้าวมาให้กินแต่ตนก็ไม่กล้าไปขอเขาบ่อยๆ ยอมกินข้าวเปล่าๆมาสองสามเดือนแล้ว

ในส่วนของคุณยาย คือ น.ส.บรม สอนเพ็ง วัย 59 ปี ผู้เป็นภรรยา ก็ได้กล่าวด้วยว่า รู้สึกท้อแท้สิ้นหวังในบางครั้งแอบนั่งร้องไห้คนเดียวเพราะไม่เคยคิดว่าจะลำบากขนาดนี้มาก่อน ลำบากไปหมดจนคิดอยากจะฆ่าตัวตายแต่ยังรู้สึกกลัวเป็นบาปกรรมติดตัว ตนเป็นโรคหัวใจน้ำท่วมปอด เหนื่อยง่ายอ่านหนังสือก็ไม่ออก อยากไปทำงานและนานทีจะมีงานไปทำความสะอาดตามบ้านเดือนละครั้ง เลยต้องไปเก็บขวดขายตามกองขยะ แต่ตอนนี้เจ้าของห้องเช่าไม่ให้ทำแล้วเพราะกลัวตนจะไปติดโควิดมาด้วย เลยไม่รู้จะทำอะไรต้องอยู่บ้าน

เพื่อนบ้านที่รู้จักคุณตาคุณยายเป็นอย่างดี คือ คุณแหม่มเล่าว่า ตนได้รู้จักทั้ง 2 มาเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว ตนยืนยันว่าทั้งสองเป็นคนขยัน ก่อนหน้าที่โควิดจะมาก็ใช้ชีวิตปกติ ตาขับแท็กซี่ ป้าเก็บขวดขาย พอเชื้อโควิดระบาดหนักเจ้าของห้องเช่าเลยไม่ให้ยายไปเก็บขวดแล้วเพราะกลัวจะติดโควิดมาแล้วทำให้เพื่อนข้างห้องติดไปด้วย ประกอบกับตาที่ตาบอดไปด้วย ทำให้ทั้งสองลำบากมาก ค้างค่าเช่า ไม่มีเงินกินข้าว หลายครั้งตนแบ่งอาหารและผลไม้ไปให้กิน แต่มันลำบากจริงช่วงนี้หาเงินยาก ขอวอนต่อหน่วยงานที่พอจะให้ความช่วยเหลือได้ ช่วยเราด้วย

ช่วยเราด้วย

ตาภัฏพงษ์ได้ยกมือไหว้กล่าวว่า “ผมขอความกรุณาครับ หน่วยงานทั้งหลาย ประชาชนผู้มีจิตเป็นบุย ขอความเมตตาช่วยเหลือผมด้วย ผมยังไม่รู้ต่อไปชีวิตข้างหน้าจะอยู่อย่างไร จะกินอะไร ทางข้างหน้าจะเป็นยังไง ไปไหนไม่ได้เพราะเราตาบอด หากินไม่ได้ ไปทำงานก่อสร้างก็ไม่ไหวเพราะอายุหกสิบกว่าแล้ว ร่างกายสู้ไม่ได้”